บทอ่านจากหนังสือประกาศกอาโมส อมส 5:14-15,21-24
องค์พระผู้เป็นเจ้าจอมจักรวาลตรัส “จงแสวงหาความดี อย่าแสวงหาความชั่วแล้วท่านจะมีชีวิตองค์พระผู้เป็นเจ้าจอมจักรวาลจะสถิตกับท่านดังที่ท่านอ้าง จงเกลียดชังความชั่ว จงรักความดีจงตั้งความยุติธรรมไว้ที่ประตูเมืองบางทีองค์พระผู้เป็นเจ้าจอมจักรวาลจะทรงสงสารพงศ์พันธุ์โยเซฟที่เหลืออยู่
เราเกลียด เรารังเกียจเทศกาลฉลองของท่านเราไม่พอใจการประชุมสง่างามของท่านแม้ท่านทั้งหลายถวายเครื่องเผาบูชา เราก็ไม่พอใจธัญบูชาของท่านเราไม่มองสัตว์อ้วนพีที่ท่านถวายเป็นศานติบูชาจงให้เสียงอึกทึกของบทเพลงของท่านอยู่ห่างจากเราเราทนฟังเสียงพิณใหญ่ของท่านไม่ได้แต่จงให้ความยุติธรรมหลั่งไหลลงเหมือนน้ำและให้ความชอบธรรมเป็นเหมือนธารน้ำที่ไม่มีวันเหือดแห้ง”
บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมัทธิว มธ 8:28-34
เวลานั้น พระเยซูเจ้าเสด็จข้ามฟากมาถึงดินแดนของชาวกาดารา ผู้ถูกปีศาจสิงสองคนออกจากบริเวณหลุมศพมาเฝ้าพระองค์ทั้งสองคนดุร้ายมากจนไม่มีใครเดินผ่านทางนั้นได้ทันใดนั้นทั้งสองคนร้องตะโกนว่า “ข้าแต่บุตรของพระเจ้าท่านมายุ่งกับเราทำไมท่านมาที่นี่เพื่อทรมานเราก่อนเวลาหรือ” ไม่ไกลจากที่นั่นมีหมูฝูงใหญ่กำลังหากินอยู่
พวกปีศาจจึงอ้อนวอนพระองค์ว่า “ถ้าท่านขับไล่พวกเราขอได้ส่งเราเข้าไปในหมูฝูงนั้นเถิด” พระองค์ตรัสกับมันว่า “จงไปเถิด” พวกปีศาจจึงออกไปสิงในหมูหมูทั้งฝูงต่างวิ่งกระโจนจากหน้าผาลงไปในทะเลสาบจมน้ำตายคนเลี้ยงหมูหนีเข้าไปในเมืองเล่าเรื่องทั้งหมดนี้และเรื่องผู้ถูกปีศาจสิงด้วยคนทั้งเมืองต่างออกมาเฝ้าพระเยซูเจ้าเมื่อเห็นพระองค์ก็ทูลขอพระองค์ให้เสด็จออกไปจากเขตแดนของเขา
ข้อคิด
ทั้งๆที่พระมาช่วยทั้งๆที่พระมาทำสิ่งดีแต่พระก็ยังถูกปฏิเสธ, บางทีเราก็เป็นแบบนั้นคืออยากจมปลักชมชอบการจมดิ่งอยู่ในความชั่วและบาปปฏิเสธคนที่จะช่วยเหลือปฏิเสธทุกความช่วยเหลือ, แค่สำนึกว่าเป็นคนบาปแค่สำนึกว่าตนยังไม่ดีแค่ความสำนึกยังไม่พอเพราะจำเป็นต้องหลุดให้พ้นจากสภาพนั้นด้วย, ความจริงเกี่ยวกับความไม่ดีที่เราเป็นบางทีก็เจ็บปวดและยากยอมรับแต่ถ้าอยากหายจากสภาพความบาปนั้นจำเป็นด้วยเช่นกันที่เราจะต้องเปิดใจยอมรับและให้พระทำงาน