บทอ่านจากจดหมายนักบุญเปโตรอัครสาวก ฉบับที่หนึ่ง 1 ปต 4:7-13
พี่น้องที่รักยิ่ง ทุกสิ่งใกล้อวสานแล้วดังนั้นจงมีความสุขุมรอบคอบรู้จักประมาณตนเพื่ออธิษฐานภาวนาที่สำคัญที่สุดจงมีความรักกันอย่างมั่นคงเพราะความรักลบล้างบาปได้มากมายจงต้อนรับกันโดยไม่ปริปากบ่นแต่ละคนจงใช้พระพรที่ได้รับมาเพื่อรับใช้กันประดุจผู้จัดการที่ดีเพื่อแจกจ่ายพระหรรษทานหลากหลายของพระเจ้าถ้าจะกล่าววาจาใดก็จงกล่าวดุจกล่าวพระวาจาของพระเจ้าผู้ใดมีหน้าที่รับใช้ก็จงรับใช้ตามกำลังที่พระเจ้าประทานให้เพื่อพระเจ้าจะได้รับพระสิริรุ่งโรจน์ในทุกสิ่งเดชะพระเยซูคริสตเจ้าผู้ทรงพระสิริรุ่งโรจน์และพระอานุภาพตลอดนิรันดรอาเมน
ท่านที่รักยิ่งอย่าประหลาดใจต่อการเบียดเบียนซึ่งเกิดขึ้นดุจไฟไหม้เป็นการทดสอบท่านทั้งหลายประหนึ่งว่าเหตุการณ์เหล่านี้เป็นเหตุการณ์ประหลาดแต่จงชื่นชมในการที่ท่านมีส่วนร่วมรับทรมานกับพระคริสตเจ้าเพื่อท่านจะได้มีความชื่นชมและปลื้มปีติยิ่งขึ้นเมื่อพระองค์ทรงสำแดงพระสิริรุ่งโรจน์
บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมาระโก มก 11:11-26
เวลานั้น พระเยซูเจ้าเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มเข้าไปในพระวิหารเมื่อทอดพระเนตรสิ่งต่างๆโดยรอบแล้วพระองค์ก็เสด็จออกไปยังหมู่บ้านเบธานีพร้อมกับอัครสาวกสิบสองคนขณะนั้นเป็นเวลาค่ำแล้ว
วันรุ่งขึ้นขณะที่พระเยซูเจ้าเสด็จออกจากหมู่บ้านเบธานีพร้อมกับบรรดาศิษย์พระองค์ทรงรู้สึกหิวเมื่อทอดพระเนตร แต่ไกลทรงเห็นมะเดื่อเทศต้นหนึ่งมีใบจึงเสด็จเข้าไปทอดพระเนตรว่ามีผลหรือไม่ทรงพบแต่ใบเพราะมิใช่ฤดูมะเดื่อเทศพระองค์จึงตรัสแก่มะเดื่อเทศต้นนั้นว่า “ตั้งแต่นี้ต่อไปอย่าให้ใครได้กินผลของเจ้าอีกเลย” บรรดาศิษย์ได้ยินพระวาจานี้
พระเยซูเจ้าเสด็จไปยังกรุงเยรูซาเล็มพร้อมกับบรรดาศิษย์เมื่อเสด็จเข้าสู่พระวิหารพระองค์ทรงขับไล่บรรดาคนซื้อขายในพระวิหารทรงคว่ำโต๊ะของคนแลกเงินและม้านั่งของคนขายนกพิราบพระองค์ไม่ทรงยอมให้ใครแบกสัมภาระเดินผ่านพระวิหารพระองค์ตรัสสอนประชาชนว่า “มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์มิใช่หรือว่าบ้านของเราจะได้ชื่อว่าบ้านแห่งการอธิษฐานภาวนาสำหรับนานาชาติ แต่ท่านทั้งหลายกลับมาทำให้เป็นซ่องโจร” เมื่อบรรดามหาสมณะและบรรดาธรรมาจารย์ได้ยินเรื่องนี้ก็หาช่องทางที่จะกำจัดพระองค์แต่เขากลัวพระองค์เพราะประชาชนกำลังประทับใจในคำสั่งสอนของพระองค์ครั้นถึงเวลาเย็นพระองค์ก็เสด็จออกจากเมืองพร้อมกับบรรดาศิษย์
เช้าวันรุ่งขึ้นขณะที่บรรดาศิษย์ผ่านมาได้เห็นต้นมะเดื่อเทศเหี่ยวเฉาไปจนถึงรากเปโตรจำได้จึงทูลพระเยซูเจ้าว่า “พระอาจารย์เจ้าข้าดูซิต้นมะเดื่อเทศที่พระองค์ทรงสาปแช่งนั้นเหี่ยวเฉาไปแล้ว” พระเยซูเจ้าจึงตรัสกับบรรดาศิษย์ว่า “จงมีความเชื่อในพระเจ้าเถิดเราบอกความจริงกับท่านว่าถ้าผู้ใดบอกภูเขาลูกนี้ว่า‘จงยกตัวขึ้นและทิ้งตัวลงไปในทะเลเถิด’โดยไม่มีใจสงสัยแต่เชื่อว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นจะเป็นจริงมันก็จะเป็นเช่นนั้นดังนั้นเราบอกท่านทั้งหลายว่าทุกสิ่งที่ท่านวอนขอในการอธิษฐานภาวนาจงเชื่อว่าท่านจะได้รับและท่านก็จะได้รับขณะที่ท่านยืนอธิษฐานภาวนาถ้าท่านมีเรื่องบาดหมางกับผู้ใดจงให้อภัยเพื่อว่าพระบิดาของท่านผู้สถิตบนสวรรค์จะทรงอภัยความผิดให้ท่านด้วย”
ข้อคิด
จงทำทุกอย่างด้วยความสุขุม รอบคอบ และด้วยความรักแท้จริงใจ โดยไม่บ่นเลย จงพูดสร้างสรรค์ และให้กำลังใจกัน ไม่ต้องแปลกใจ เมื่อถูกด่า ว่าร้าย ใส่ความ จงชื่นชมยินดีเถิด ท่านจะได้รับสิริรุ่งโรจน์มากขึ้น
จิตใจของเราแต่ละคนเป็นวิหารของพระเจ้า สำหรับสวดภาวนา อธิษฐานสำหรับทุกคน อย่าทำให้พระวิหารของพระเจ้าต้องเปื้อนหมองด้วยบาป และความผิดชั่วร้ายของเราเลยเป็นอันขาด
จงมีความเชื่อมั่นในพระเจ้า แล้วเราจะมีความสุขอย่างแท้จริงตลอดชีวิต