Logo

วันอังคารที่ 5 เมษายน 2016 สัปดาห์ที่ 2 เทศกาลปัสกา

หมวด: เดือนเมษายน 2016
เขียนโดย กลุ่มไบเบิ้ลไดอารี่
ฮิต: 742

บทอ่านจากหนังสือกิจการอัครสาวก                                     กจ4:32-37
     เวลานั้น กลุ่มผู้มีความเชื่อดำเนินชีวิตเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ไม่คิดว่าสิ่งที่ตนมีเป็นกรรมสิทธิ์ของตน แต่ทุกสิ่งเป็นของส่วนรวม
     บรรดาอัครสาวกยังคงเป็นพยานยืนยันถึงการกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซู องค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยเครื่องหมายอัศจรรย์ยิ่งใหญ่ และทุกคนได้รับความเคารพนับถืออย่างสูง
ในกลุ่มของเขาไม่มีใครขัดสน ผู้ใดมีที่ดินหรือบ้านก็ขายและมอบเงินที่ได้ให้บรรดาอัครสาวก เพื่อแจกจ่ายให้ผู้มีความเชื่อแต่ละคนตามความต้องการ
     ชายคนหนึ่งชื่อโยเซฟ บรรดาอัครสาวกเรียกเขาว่า บารนาบัส ซึ่งแปลว่า บุตรแห่งการให้กำลังใจเขาเป็นคนเผ่าเลวีชาวเกาะไซปรัส เขามีที่ดินแปลงหนึ่งซึ่งเขาขาย นำเงินมามอบให้บรรดาอัครสาวกด้วย

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญยอห์น                                     ยน3:7-15
     เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสกับนิโคเดมัสว่า “อย่าประหลาดใจถ้าเราบอกท่านว่าท่านทั้งหลายจำเป็นต้องเกิดใหม่จากเบื้องบน ลมย่อมพัดไปในที่ที่ลมต้องการ ท่านได้ยินเสียงลมพัดแต่ไม่รู้ว่า ลมพัดมาจากไหน และจะพัดไปไหน ทุกคนที่เกิดจากพระจิตเจ้าก็เป็นเช่นนี้” นิโคเดมัสทูลถามพระองค์ว่า “เหตุการณ์เช่นนี้จะเป็นไปได้อย่างไร” พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “ท่านเป็นอาจารย์ของชาวอิสราเอล ท่านไม่รู้เรื่องเหล่านี้หรือเราบอกความจริงแก่ท่านว่าเรากำลังพูดถึงเรื่องที่เรารู้และเป็นพยานถึงเรื่องที่เราเห็น แต่ท่านทั้งหลายไม่ยอมรับคำยืนยันของเราถ้าท่านทั้งหลายไม่เชื่อเมื่อเราพูดถึงเรื่องที่เกี่ยวกับโลกนี้ ท่านจะเชื่อได้อย่างไรเมื่อเราจะพูดถึงเรื่องที่เกี่ยวกับสวรรค์
ไม่มีใครเคยขึ้นไปบนสวรรค์ นอกจากผู้ที่ลงมาจากสวรรค์คือบุตรแห่งมนุษย์เท่านั้นโมเสสยกรูปงูขึ้นในถิ่นทุรกันดารฉันใด บุตรแห่งมนุษย์ก็จะต้องถูกยกขึ้นฉันนั้นเพื่อทุกคนที่มีความเชื่อในพระองค์จะมีชีวิตนิรันดร”

 

ข้อคิด
     “ความจริงใจ”เป็นสิ่งที่ใครๆก็ต้องการพระเยซูเจ้าสามารถเปลี่ยนความคิดของนิโคเดมัสจากที่เคยมีท่าทีของการเป็นศัตรูมาสู่การเป็นมิตรแท้เพราะพระองค์ทรงพูดในสิ่งที่รู้ยืนยันในสิ่งที่พระองค์เห็นเป็นพยานด้วยการดำเนินชีวิตของพระองค์เองศิษย์ของพระเยซูเจ้าก็เลียนแบบในสิ่งที่พระองค์สอนและกลุ่มของพวกเขาได้รับความเคารพนับถือไม่มีใครขัดสนเพราะพวกเขาจริงใจต่อกันเป็นพยานด้วยการดำเนินชีวิตเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันไม่ยึดติดกับสิ่งที่ตนมีแต่พร้อมแบ่งปันให้กับคนที่ต้องการ .....อย่าลืมว่าผู้คนจะยอมรับในสิ่งที่เรารู้และพูดเมื่อพวกเขาเห็นในสิ่งที่เราปฎิบัติ