Logo

วันพุธที่ 13 เมษายน 2016 น.มาร์ตินที่ 1 พระสันตะปาปาและมรณสักขี

หมวด: เดือนเมษายน 2016
เขียนโดย กลุ่มไบเบิ้ลไดอารี่
ฮิต: 593

บทอ่านจากหนังสือกิจการอัครสาวก                                    กจ8:1ข-8
     วันนั้น เกิดการเบียดเบียนพระศาสนจักรอย่างรุนแรงในกรุงเยรูซาเล็ม ทุกคน นอกจากบรรดาอัครสาวกกระจัดกระจายไปตามชนบทในแคว้นยูเดียและสะมาเรีย
     ผู้มีใจศรัทธาบางคนนำศพสเทเฟนไปฝังและร่ำไห้คร่ำครวญถึงเขาอย่างมาก ส่วนเซาโลออกรังควานพระศาสนจักร เข้าไปตามบ้าน ฉุดลากทั้งชายและหญิงไปจองจำไว้ในคุก
บรรดาผู้ที่กระจัดกระจายไปเหล่านี้ออกไปยังที่ต่างๆ ประกาศพระวาจาเป็นข่าวดี ฟีลิปไปเมืองหนึ่งในแคว้นสะมาเรีย และประกาศเรื่องพระคริสตเจ้าให้ชาวเมืองนั้นฟังประชาชนที่ได้ฟังถ้อยคำของฟีลิป และเห็นเครื่องหมายอัศจรรย์ที่เขาทำ ก็พร้อมใจกันฟังคำสั่งสอนของเขา คนหลายคนที่ถูกปีศาจสิงอยู่ร้องเสียงดังแล้วปีศาจก็ออกไป คนอัมพาตและคนง่อยจำนวนมากหายจากโรค ประชาชนในเมืองนั้นจึงชื่นชมอย่างมาก

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญยอห์น                                    ยน6:35-40
      เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสกับประชาชนว่า“เราเป็นปังแห่งชีวิตผู้ที่มาหาเราจะไม่หิวและผู้ที่เชื่อในเราจะไม่กระหายอีกเลยเราบอกท่านทั้งหลายแล้วว่าท่านเห็นเราแล้ว แต่ไม่เชื่อทุกคนที่พระบิดาทรงมอบให้เรา จะมาหาเราและผู้ที่มาหาเราเราจะไม่ผลักไสไปเลยเพราะเราลงมาจากสวรรค์มิใช่เพื่อทำตามใจของเราแต่เพื่อทำตามพระประสงค์ของผู้ทรงส่งเรามาพระประสงค์ของผู้ทรงส่งเรามาก็คือเราจะไม่สูญเสียผู้ใดที่พระองค์ทรงมอบให้แก่เราแต่จะให้ผู้นั้นกลับคืนชีพในวันสุดท้ายพระประสงค์ของพระบิดาของเราก็คือทุกคนที่เห็นพระบุตรแล้วเชื่อในพระบุตรจะมีชีวิตนิรันดรและเราจะให้เขากลับคืนชีพในวันสุดท้าย”

 

ข้อคิด
  ประสบการณ์ของประชาชนที่แคว้นสะมาเรียที่ได้พบเห็นฟิลิปตัดสินใจเข้าหาเพื่อฟังพระวาจาและเชื่อเมื่อนั้นความชั่วร้ายที่แฝงเร้นอยู่ก็สูญสลายไปความเจ็บป่วยก็ได้รับการรักษาให้หายดังนี้เงื่อนไขสำคัญเพื่อจะมี“ชีวิตนิรันดร”สำหรับคริสตชนคือ“เชื่อในสิ่งที่ได้เห็นได้ยินได้ฟัง”เพราะพระประสงค์ของพระบิดาคือทุกคนที่เห็นแล้วเชื่อในพระบุตรก็จะมีชีวิตนิรันดรอีกทั้งพระเยซูเจ้าเองเป็นผู้ที่ยืนยันว่าผู้ที่เชื่อในเราจะไม่หิวกระหายอีกเลยเรายังมีแบบอย่างของนักบุญมาร์ตินที่ 1 ที่ยอมถูกเนรเทศสละชีวิตเพื่อปกป้องความเชื่อซึ่งที่สุดแล้วชื่อของท่านไม่ได้ถูกลืมสูญหายพร้อมกับความตายแต่กลับกลายเป็นผู้ได้รับการเคารพถวายเกียรติตลอดไปในฐานะนักบุญผู้ค้ำจุนความเชื่อให้กับพระศาสนจักร