Logo

วันอาทิตย์ที่ 24 เมษายน 2016 สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลปัสกา

หมวด: เดือนเมษายน 2016
เขียนโดย กลุ่มไบเบิ้ลไดอารี่
ฮิต: 957

บทอ่านจากหนังสือกิจการอัครสาวก                                     กจ 14:20ข-27
     วันรุ่งขึ้นเปาโลก็ออกเดินทางกับบารนาบัสไปยังเมืองเดอร์บีทั้งสองคนประกาศข่าวดีที่เมืองนั้น ได้ศิษย์เป็นจำนวนมาก แล้วจึงกลับไปเมืองลิสตรา เมืองอิโคนิยุมและเมืองอันทิโอกแห่งแคว้นปิสิเดีย เขาทั้งสองคนให้กำลังใจบรรดาศิษย์ตักเตือนให้มั่นคงอยู่ในความเชื่อ พูดว่า “พวกเราจำเป็นต้องฟันฝ่าความทุกข์ยากเป็นอันมากจึงจะเข้าสู่พระอาณาจักรของพระเจ้าได้” เปาโลและบารนาบัสแต่งตั้งผู้อาวุโสในกลุ่มคริสตชนแต่ละกลุ่ม เขาอธิษฐานภาวนาพร้อมกับจำศีลอดอาหาร แล้วฝากบรรดาผู้อาวุโสเหล่านี้ไว้กับองค์พระผู้เป็นเจ้า ซึ่งเขาทั้งหลายมีความเชื่อ ทั้งสองคนเดินทางผ่านแคว้นปิสิเดีย มาถึงแคว้นปัมฟีเลีย ประกาศพระวาจาที่เมืองเปอร์กา แล้วจึงไปยังเมืองอัตตาเลีย
     จากนั้น เขาลงเรือกลับไปยังเมืองอันทิโอกแห่งซีเรีย ก่อนที่เขาทั้งสองคนจะออกเดินทางจากเมืองอันทิโอกบรรดาคริสตชนเคยฝากเขาไว้กับพระหรรษทานของพระเจ้าเพื่องานที่เขาเพิ่งทำสำเร็จ เมื่อไปถึง เปาโลและบารนาบัสก็เรียกประชุมกลุ่มคริสตชน เล่าทุกสิ่งที่พระเจ้าทรงกระทำโดยผ่านตนว่าพระเจ้าทรงเปิดประตูแห่งความเชื่อให้คนต่างศาสนา

 

เพลงสดุดี                                                                            สดด 145:8-10,11-12,13ก
     ก) องค์พระผู้เป็นเจ้าโปรดปรานและทรงพระเมตตากรุณา
กริ้วช้าและทรงความรักมั่นคงอย่างเต็มเปี่ยม
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพระทัยดีต่อทุกคน
ความอ่อนโยนของพระองค์ครอบคลุมสิ่งสร้างทั้งมวล
ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอให้สิ่งสร้างทั้งมวลสรรเสริญพระองค์
ขอให้ผู้จงรักภักดีต่อพระองค์ถวายพระพรแด่พระองค์
     ข) เขาจะพูดถึงพระสิริรุ่งโรจน์แห่งพระอาณาจักรของพระองค์
และเล่าถึงพระอานุภาพของพระองค์
บุตรแห่งมนุษย์จะได้รู้ถึงพระอานุภาพของพระองค์
พระสิริรุ่งโรจน์และความรุ่งเรืองแห่งพระอาณาจักรของพระองค์
     ค) พระอาณาจักรของพระองค์เป็นอาณาจักรที่ดำรงอยู่ตลอดไป
อำนาจปกครองของพระองค์คงอยู่ทุกยุคทุกสมัย

 

บทอ่านจากหนังสือวิวรณ์                                                   วว 21:1-5ก
     แล้วข้าพเจ้าเห็นฟ้าใหม่และแผ่นดินใหม่เพราะฟ้าและแผ่นดินเดิมสูญหายไป ไม่มีทะเลอีกต่อไป ข้าพเจ้าเห็นนครศักดิ์สิทธิ์ คือนครเยรูซาเล็มใหม่ลงมาจากสวรรค์ ลงมาจากพระเจ้า เตรียมพร้อมเหมือนกับเจ้าสาวที่แต่งตัวรอเจ้าบ่าวข้าพเจ้าได้ยินเสียงดังจากพระบัลลังก์ว่า “นี่คือที่พำนักของพระเจ้าในหมู่มนุษย์ พระองค์จะทรงพำนักอยู่ในหมู่เขาเขาจะเป็นประชากรของพระองค์ และพระองค์จะทรงเป็นพระเจ้าของเขา ทรงเป็น “พระเจ้าสถิตกับเขา” พระองค์จะทรงเช็ดน้ำตาทุกหยดจากนัยน์ตาของเขา จะไม่มีความตายอีกต่อไป จะไม่มีการไว้ทุกข์ การร้องไห้ และความทุกข์อีกต่อไป เพราะโลกเดิมผ่านพ้นไปแล้ว
พระองค์ผู้ประทับบนพระบัลลังก์ตรัสว่า “ดูซิ เราทำทุกสิ่งขึ้นใหม่

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญยอห์น                                      ยน 13:31-33ก,34-35
     เมื่อยูดาสออกไปแล้ว พระเยซูเจ้าตรัสว่า“บัดนี้บุตรแห่งมนุษย์ได้รับพระสิริรุ่งโรจน์และพระเจ้าทรงได้รับพระสิริรุ่งโรจน์ในบุตรแห่งมนุษย์ด้วยถ้าพระเจ้าทรงได้รับพระสิริรุ่งโรจน์ในบุตรแห่งมนุษย์พระเจ้าจะทรงให้บุตรแห่งมนุษย์ได้รับพระสิริรุ่งโรจน์ในพระองค์ด้วยและจะทรงให้บุตรแห่งมนุษย์ได้รับพระสิริรุ่งโรจน์ทันทีลูกทั้งหลายเอ๋ยเราจะอยู่กับท่านอีกไม่นานเราให้บทบัญญัติใหม่แก่ท่านทั้งหลายให้ท่านรักกันเรารักท่านทั้งหลายอย่างไรท่านก็จงรักกันอย่างนั้นเถิดถ้าท่านมีความรักต่อกันทุกคนจะรู้ว่าท่านเป็นศิษย์ของเรา”

 

ข้อคิด
     "องค์พระผู้เป็นเจ้าโปรดปรานและทรงพระเมตตากรุณากริ้วช้าและทรงความรักมั่นคงอย่างเต็มเปี่ยมทรงพระทัยดีต่อทุกคนความอ่อนโยนของพระองค์ครอบคลุมสิ่งสร้างทั้งมวล.." (สดด145:8-10)เป็นพระเมตตาของพระเจ้าสำหรับงานประกาศข่าวดีและการเปิดประตูแห่งความเชื่อให้คนต่างศาสนาของนักบุญเปาโลและบารนาบัส... เป็นความรักมั่นคงของพระเจ้าที่ทรงสถิตอยู่ทุกหนแห่งเพื่อเราทุกคนทีละคนเพื่อทรงเช็ดน้ำตาทุกหยดจากนัยน์ตาของเราและจะไม่มีความตายอีกต่อไป...เป็นความอ่อนโยนของพระองค์ที่ทรงสอนบทบัญญัติใหม่ให้แก่เรา..ให้รักกันและกัน..พระองค์ทรงรักเราอย่างไรเราก็จงรักกันด้วยความรักเช่นเดียวกันนั้น..ด้วยเราเป็นศิษย์ของพระองค์