Logo

วันอังคารที่ 1 มีนาคม 2016 สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต

หมวด: เดือนมีนาคม 2016
เขียนโดย กลุ่มไบเบิ้ลไดอารี่
ฮิต: 874

บทอ่านจากหนังสือประกาศกดาเนียล                                  ดนล3:25,34-43
     อาซาริยาห์ยืนอธิษฐานภาวนาเสียงดังอยู่กลางไฟว่าดังนี้ “ขออย่าทรงละทิ้งข้าพเจ้าทั้งหลายตลอดไปเพราะเห็นแก่พระนามพระองค์ ขออย่าทรงทำลายพันธสัญญาของพระองค์เลยขออย่าทรงเพิกถอนพระกรุณาไปจากข้าพเจ้าทั้งหลาย เพราะเห็นแก่อับราฮัมมิตรสหายของพระองค์เพราะเห็นแก่อิสอัคผู้รับใช้ของพระองค์ และเพราะเห็นแก่อิสราเอลผู้ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์พระองค์ทรงสัญญาแก่เขาเหล่านี้ว่า จะให้เขามีลูกหลานจำนวนมากดุจดวงดาวในท้องฟ้าดุจเม็ดทรายบนชายทะเล ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า บัดนี้ข้าพเจ้าทั้งหลายกลายเป็นชนชาติเล็กน้อยที่สุดวันนี้ ข้าพเจ้าทั้งหลายต้องอับอายทั่วแผ่นดินเพราะบาปของข้าพเจ้าทั้งหลายบัดนี้ ข้าพเจ้าทั้งหลายไม่มีผู้นำ ไม่มีประกาศก ไม่มีเจ้านาย ไม่มีเครื่องเผาบูชา ไม่มีเครื่องบูชา ไม่มีของถวาย ไม่มีการถวายกำยานไม่มีสถานที่ที่จะถวายผลิตผลแรกแด่พระองค์เพื่อจะได้รับพระกรุณาแต่ขอให้จิตที่ตรมตรอมและใจที่ถ่อมตนเป็นที่พอพระทัย ดังแกะเพศผู้และโคเพศผู้ที่ถวายเป็นเครื่องเผาบูชาดังลูกแกะอ้วนพีนับพันๆ ตัวถวายพระองค์ ขอทรงพระกรุณารับข้าพเจ้าทั้งหลายเป็นเครื่องบูชาเฉพาะพระพักตร์ในวันนี้แล้วข้าพเจ้าทั้งหลายจะติดตามพระองค์ต่อไป เพราะผู้ที่วางใจในพระองค์ย่อมไม่ได้รับความอับอาย บัดนี้ ข้าพเจ้าทั้งหลายติดตามพระองค์ด้วยสิ้นสุดจิตใจยำเกรงพระองค์และแสวงหาพระพักตร์ของพระองค์อีกครั้งหนึ่ง ขออย่าทรงปล่อยให้ข้าพเจ้าทั้งหลายต้องได้รับความอับอายแต่โปรดทำกับข้าพเจ้าทั้งหลายตามพระกรุณา และตามพระเมตตายิ่งใหญ่ของพระองค์เถิดโปรดทรงช่วยข้าพเจ้าทั้งหลายให้รอดพ้นด้วยกิจการอัศจรรย์ของพระองค์ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า โปรดประทานพระเกียรติแก่พระนามพระองค์เถิด”

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมัทธิว                                   มธ18:21-35
      เวลานั้น เปโตรเข้ามาทูลถามพระเยซูเจ้าว่า “พระเจ้าข้าถ้าพี่น้องทำผิดต่อข้าพเจ้าข้าพเจ้าต้องยกโทษให้เขาสักกี่ครั้งถึงเจ็ดครั้งหรือไม่” พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “เราไม่ได้บอกท่านว่าต้องยกโทษให้เจ็ดครั้งแต่ต้องยกโทษให้เจ็ดคูณเจ็ดสิบครั้ง”
     อาณาจักรสวรรค์เปรียบได้กับกษัตริย์พระองค์หนึ่งทรงประสงค์จะตรวจบัญชีหนี้สินของผู้รับใช้ขณะที่ทรงเริ่มตรวจบัญชีนั้นมีผู้นำชายผู้หนึ่งเข้ามาชายผู้นี้เป็นหนี้อยู่หนึ่งหมื่นตะลันต์เขาไม่มีสิ่งใดจะชำระหนี้ได้กษัตริย์จึงตรัสสั่งให้ขายทั้งตัวเขาบุตรภรรยาและทรัพย์สินทั้งหมดเพื่อใช้หนี้ผู้รับใช้กราบพระบาททูลอ้อนวอนว่า ‘ขอทรงพระกรุณาผัดหนี้ไว้ก่อนเถิดแล้วข้าพเจ้าจะชำระหนี้ให้ทั้งหมด’ กษัตริย์ทรงสงสารจึงทรงปล่อยเขาไปและทรงยกหนี้ให้ขณะที่ผู้รับใช้ออกไปก็พบเพื่อนผู้รับใช้ด้วยกันซึ่งเป็นหนี้เขาอยู่หนึ่งร้อยเหรียญ เขาเข้าไปคว้าคอบีบไว้แน่นพูดว่า ‘เจ้าเป็นหนี้ข้าอยู่เท่าไรจงจ่ายให้หมด’
     “เพื่อนคนนั้นคุกเข่าลงอ้อนวอนว่า ‘กรุณาผัดหนี้ไว้ก่อนเถิดแล้วข้าพเจ้าจะชำระหนี้ให้’ แต่เขาไม่ยอมฟังนำลูกหนี้ไปขังไว้จนกว่าจะชำระหนี้ทั้งหมดเพื่อนผู้รับใช้อื่นๆเห็นดังนั้นต่างสลดใจมากจึงนำความทั้งหมดไปทูลกษัตริย์ พระองค์จึงทรงเรียกชายผู้นั้นมาตรัสว่า ‘เจ้าคนสารเลวข้ายกหนี้สินของเจ้าทั้งหมดเพราะเจ้าขอร้องเจ้าต้องเมตตาเพื่อนผู้รับใช้ด้วยกันเหมือนกับที่ข้าได้เมตตาเจ้ามิใช่หรือ’ 34กษัตริย์กริ้วมากตรัสสั่งให้นำผู้รับใช้นั้นไปทรมานจนกว่าจะชำระหนี้ทั้งหมดพระบิดาของเราผู้สถิตในสวรรค์จะทรงกระทำต่อท่านทำนองเดียวกันถ้าท่านแต่ละคนไม่ยอมยกโทษให้พี่น้องจากใจจริง”

 

ข้อคิด
     มหาพรต เป็น เทศกาลที่เชิญชวนเรามองเข้ามายังตนเอง เพื่อเห็นความเป็นจริงที่ว่า “...วันนี้ข้าพเจ้าทั้งหลายต้องอับอายไปทั่วแผ่นดินเพราะบาปของข้าพเจ้าทั้งหลาย...” ความจริงก็คือ ข้าพเจ้าเป็นคนบาปนั่นเอง และความบาปทำให้เราอ่อนแอ ทำให้สายตาของเราพร่ามัว เรามองอะไรไม่ไกลเกินไปกว่าตัวเรา ส่วนคนอื่นเราเห็นเขาราง ๆ เมื่อเราเห็นเราชัดอยู่คนเดียว เราจึงว่า “เรานี้ดีที่สุด”
     เมื่อมีความคิดเช่นนี้เกิดขึ้นในตัวเรา จงรับรู้เถิดว่า “วิญญาณเรากำลังใกล้จะมืดบอด” เข้าไปทุกที จงรีบเข้ารับการรักษาจากพระเยซูในคลีนิคที่ตู้แก้บาปเถิด