Logo

วันเสาร์ที่ 19 มีนาคม 2016 สมโภชนักบุญโยเซฟ ภัสดาของพระนางพรหมจารีมารีย์

หมวด: เดือนมีนาคม 2016
เขียนโดย กลุ่มไบเบิ้ลไดอารี่
ฮิต: 1617

บทอ่านจากหนังสือซามูเอล ฉบับที่สอง                               2 ซมอ7:4-5ก,12-14ก,16
     ในคืนนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสแก่นาธันว่า “จงไปบอกดาวิดผู้รับใช้ของเราว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ เมื่อท่านสิ้นชีวิตในวัยชรา และถูกฝังไว้กับบรรพบุรุษแล้ว เราจะตั้งเชื้อสายคนหนึ่งของท่าน ซึ่งเป็นบุตรของท่านให้เป็นกษัตริย์ต่อจากท่าน เราจะพิทักษ์รักษาอาณาจักรของเขาให้มั่นคง เขาจะเป็นผู้สร้างวิหารให้แก่นามของเรา เราจะดูแลให้ลูกหลานของเขาเป็นกษัตริย์ครองราชย์ตลอดไป เราจะเป็นบิดาของเขา และเขาจะเป็นบุตรของเราราชวงศ์และอาณาจักรของท่านจะมั่นคงอยู่ต่อหน้าเราตลอดไป อำนาจปกครองของท่านจะตั้งมั่นอยู่ตลอดไป’”

 

บทอ่านจากจดหมายนักบุญเปาโลอัครสาวกถึงชาวโรม        รม 4:13,16-18,22
     พี่น้อง พระสัญญาที่ประทานให้อับราฮัมและลูกหลานที่ว่าเขาจะได้รับโลกเป็นมรดกนั้นไม่ได้เกิดขึ้นโดยธรรมบัญญัติแต่เกิดขึ้นโดยความชอบธรรมอันเนื่องมาจากความเชื่อเพราะเหตุนี้การรับมรดกโดยอาศัยพระสัญญาจึงมาจากความเชื่อเพื่อให้พระสัญญาเป็นของประทานที่ให้เปล่าและประทานให้เชื้อสายทั้งหมดของอับราฮัมมิใช่เพียงให้ผู้ที่ปฏิบัติตามบทบัญญัติเท่านั้นแต่รวมถึงเชื้อสายทุกคนที่มีความเชื่อเช่นเดียวกับอับราฮัมซึ่งเป็นบิดาของเราทุกคนด้วยดังที่พระคัมภีร์บันทึกไว้ว่าเราได้ตั้งเจ้าให้เป็นบิดาของประชาชาติจำนวนมาก อับราฮัมเป็นบิดาของเราเฉพาะพระพักตร์พระเจ้าผู้เป็นพระเจ้าที่อับราฮัมเชื่อและทรงเป็นผู้นำคนตายให้คืนชีพและทรงทำให้สิ่งที่ยังไม่มีภาวะความเป็นอยู่ได้มีภาวะความเป็นอยู่
     แม้ดูเหมือนจะไม่มีความหวังแต่อับราฮัมก็หวังและเชื่อว่าเขาจะเป็นบิดาของประชาชาติจำนวนมากสมจริงตามพระสัญญาที่ว่าลูกหลานของเจ้าจะมีจำนวนมากเช่นนั้นนี่คือความเชื่อซึ่งนับได้ว่าเป็นความชอบธรรมสำหรับเขา

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญลูกา                                        ลก2:41-51ก
     โยเซฟพร้อมกับพระมารดาของพระเยซูเจ้าเคยขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็มในเทศกาลปัสกาทุกปี เมื่อพระองค์มีพระชนมายุสิบสองพรรษา โยเซฟพร้อมกับพระมารดาก็ขึ้นไปกรุงเยรูซาเล็มตามธรรมเนียมของเทศกาลนั้น เมื่อวันฉลองสิ้นสุดลง ทุกคนก็เดินทางกลับ แต่พระเยซูเจ้ายังประทับอยู่ที่กรุงเยรูซาเล็มโดยที่บิดามารดาไม่รู้ เพราะคิดว่า พระองค์ทรงอยู่ในหมู่ผู้ร่วมเดินทาง เมื่อเดินทางไปได้หนึ่งวันแล้ว โยเซฟพร้อมกับพระนางมารีย์ตามหาพระองค์ในหมู่ญาติและคนรู้จัก เมื่อไม่พบจึงกลับไปกรุงเยรูซาเล็ม เพื่อตามหาพระองค์ที่นั่น
     ในวันที่สาม โยเซฟพร้อมกับพระนางมารีย์พบพระองค์ในพระวิหารประทับนั่งอยู่ในหมู่อาจารย์ ทรงฟังและทรงไต่ถามพวกเขา ทุกคนที่ได้ฟังพระองค์ต่างประหลาดใจในพระปรีชาที่ทรงแสดงในการตอบคำถาม เมื่อโยเซฟพร้อมกับพระนางมารีย์เห็นพระองค์ก็รู้สึกแปลกใจ พระมารดาจึงตรัสถามพระองค์ว่า “ลูกเอ๋ย ทำไมจึงทำกับเราเช่นนี้ ดูซิ พ่อกับแม่ต้องกังวลใจตามหาลูก” พระองค์ตรัสตอบว่า “พ่อกับแม่ตามหาลูกทำไม พ่อแม่ไม่รู้หรือว่า ลูกต้องอยู่ในบ้านของพระบิดาของลูก” โยเซฟพร้อมกับพระนางมารีย์ไม่เข้าใจที่พระองค์ตรัส
พระเยซูเจ้าเสด็จกลับไปที่เมืองนาซาเร็ธกับบิดามารดาและเชื่อฟังท่านทั้งสองคน

 

ข้อคิด
    พระคัมภีร์พูดถึงน.ยอแซฟค่อนข้างน้อย แต่ท่านรับผิดชอบมากที่สุด หลังจากเทวดาได้แจ้งท่านในความฝันท่านก็รับพระแม่มารีเป็นภรรยา ท่านไปลงทะเบียนกับพระแม่มารนีอาที่แบธเลแฮมที่ๆพระเยซูเจ้าประสูติ จากนั้นก็พาพระแม่มารีอาไปทำพิธีชำระตนและพาพระเยซูเจ้าไปพระวิหารเพื่อถวายแด่พระเจ้า และในอีกฉากหนึ่ง ท่านพาพระแม่มารีอาและพระกุมารไปอีจิปต์เพื่อหนีการเข่นฆ่า และต่อมาก็ไปหาพระกุมารและพบในพระวิหาร น.ยอแซฟและแม่พระมีพระเยซูเจ้าเป็นศูนย์กลางของชีวิต
     พระสันตะปาปาฟรันซิสมีความศรัทธาพิเศษต่อน.ยอแซฟ พระองค์เมื่อมีปัญหาก็จะสอดกระดาษคำภาวนาและการงานไว้ใต้รูปนักบุญยอแซฟให้ช่วยฝันเห็นน้ำพระทัยของพระเจ้า