จดหมายอภิบาล เพื่อปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรม ค.ศ. 2015-2016
- รายละเอียด
- หมวด: ปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรม
- เขียนโดย จาก สภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งประเทศไทย
- ฮิต: 3233
จดหมายอภิบาล เพื่อปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรม ค.ศ. 2015-2016
“พระเยซูคริสต์ทรงแสดงให้เราเห็นพระพักตร์แห่งเมตตาธรรมของพระบิดา”
อวยพรมายัง บรรดาพระสงฆ์ นักบวช และพี่น้องชายหญิงที่รักทั้งหลาย
“พระเยซูคริสต์คือพระพักตร์แห่งความเมตตาของพระบิดาเจ้า” ด้วยคำพูดนี้สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสทรงเชิญทุกคนให้มีส่วนร่วมในปีศักดิ์สิทธิ์พิเศษแห่งเมตตาธรรมซึ่งจะเริ่มต้นปีนี้ในวันสมโภชแม่พระปฏิสนธินิรมล คือวันที่ 8 ธันวาคม ค.ศ. 2015 และสิ้นสุดลงในวันสมโภชพระคริสตกษัตริย์ วันที่ 20 พฤศจิกายน ค.ศ. 2016
เมตตาธรรม เป็น “สะพานที่เชื่อมระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์ เป็นการเปิดดวงใจให้มีความหวังที่จะได้รับความรักตลอดไปแม้ว่าพวกเราจะเป็นคนบาป” นี่คือพระลิขิตของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสในพระสมณโองการ Misericordiae Vultus(พระพักตร์แห่งเมตตาธรรม) ซึ่งเป็นพระบัญชาสถาปนาเปิดปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรม
ขอให้พวกเราไตร่ตรองว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสทรงขอร้องให้พวกเราทำอะไรบ้างในปีพิศษนี้ น่าจะมีสองประเด็นสำคัญด้วยกัน ประเด็นแรกคือการสารภาพบาปอย่างดี และประเด็นที่สองคือการตั้งปณิธานที่จะปฏิบัติเมตตากิจอย่างจริงจัง
ทั้งสองปะเด็นนี้มีความเชื่อมโยงกันอย่างไร นี่เป็นเรื่องสำคัญที่พวกเราจะต้องตระหนักในความรักและความเมตตาเพื่อให้การอภัยของพระเจ้าในศีลอภัยบาปซึ่งเป็นการสัมผัสโดยตรงที่พวกเราจะได้รับพระหรรษทานซึ่งจะรักษาความเจ็บป่วยภายในตัวเรา อีกทั้งจะนำสันติสุขและความปีติยินดีมาสู่วิญญาณของเราด้วย ขณะที่เราได้มีโอกาสสัมผัสกับเมตตาธรรมของพระเจ้าด้วยตัวเราเองแล้ว เราจึงจะสามารถแบ่งปันพระพรอันประเสริฐสุดนี้กับผู้อื่นซึ่งมีความต้องการเมตตาธรรมเช่นเดียวกันทั้งฝ่ายกายและฝ่ายจิต
ดังนั้นในนามของประธานสภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งประเทศไทย และในนามของพี่น้องพระสังฆราชทุกองค์ ข้าพเจ้าใคร่เชิญชวนพี่น้องคาทอลิกแต่ละคนให้ร่วมเฉลิมฉลองศีลศักดิ์สิทธิ์แห่งการคืนดี คือไปรับศีลอภัยบาป อย่างน้อยก็สักครั้งหนึ่งในปีแห่งเมตตาธรรมนี้ และใครที่สามารถก็ขอให้ปฏิบัติเมตตากิจทั้งฝ่ายกายและฝ่ายจิตแก่พี่น้องเพื่อนมนุษย์ด้วยปณิธานแน่วแน่อย่างน้อยประเภทละหนึ่งครั้งก็ยังดี
พวกเราทราบกันดีว่ากิจเมตตาฝ่ายกายมีอะไรบ้าง เช่น เลี้ยงอาหารคนยากจน ให้น้ำดื่มแก่คนที่กระหาย ให้เสื้อผ้าแก่คนที่ไม่มีเสื้อผ้าจะใส่ ให้ที่พักพิงแก่คนที่ไม่มีบ้านจะอยู่ เยี่ยมเยียนผู้ป่วย ช่วยฝังคนตาย เยี่ยมผู้ต้องขังในเรือนจำ พระเยซูคริสต์ทรงขอร้องให้เรารับรู้และพบพระองค์ในใครก็ตามที่มีความทุกข์และประสบความเดือดร้อน “เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ท่านทำสิ่งใดต่อพี่น้องผู้ต่ำต้อยที่สุดของเราคนหนึ่ง ท่านก็ทำสิ่งนั้นต่อเราเอง” (มธ 25: 40)
พวกเรามักจะไม่ค่อยเข้าใจกันดีสักเท่าไรเกี่ยวกับคำพูดที่เป็นความเมตตาฝ่ายจิต แต่นี่ก็เป็นเรื่องสำคัญสำหรับความมีชีวิตชีวาฝ่ายจิตสำหรับความเชื่อในชุมชนของเรา นั่นคือ 1. การรู้จักสอนแนะนำคนที่ยังไม่มีโอกาสรู้จักพระคริสตเจ้า 2. การให้คำปรึกษาคนที่มีความสงสัยในความเชื่อ 3. การตักเตือนคนบาป 4. การอดทนต่อคนที่ผิดใจกับเรา 5. มีความเต็มใจอภัยความผิดของผู้อื่น 6. การบรรเทาใจคนที่มีปัญหาความทุกข์ร้อนในชีวิต และ 7. การภาวนาให้กับผู้มีชีวิต และผู้ล่วงลับไปแล้วเป็นต้น บางประเด็นเราอาจต้องการคำแนะนำปรึกษาต่อผู้ที่มีทักษะการอภิบาลหรือมีความสามารถจำเพาะ ส่วนประเด็นอื่นทั้งหลายทั่วไปนั้นเป็นเรื่องของพวกเราที่จะต้องแสดงออกมาในชีวิตประจำวันในฐานะที่เราเป็นศิษย์ของพระเยซูคริสต์
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสได้มอบอำนาจให้กับพระสังฆราชแต่ละสังฆมณฑลทั่วโลก มีอภิสิทธิ์ที่จะกำหนด “ประตูศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรม” ณ อาสนวิหาร ในสังฆมณฑลของตน ตามธรรมเนียมที่มีมาแต่โบราณประตูศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าวหมายถึงหนทางสู่ความรอดดุจบ่อน้ำซึ่งเป็นหนทางเข้าสู่เมตตาธรรมของพระเจ้า ตามธรรมเนียมปฏิบัติเดิมของพระศาสนจักรคาทอลิก มีประตูศักดิ์สิทธ์สร้างแบบถาวรอยู่ 7 แห่งด้วยกันในโลก สี่ประตูอยู่ที่โรมซึ่งเป็นมหาวิหารของสมเด็จพระสันตะปาปา ส่วนประตูหนึ่งอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศส ณ สักการะสถานนักบุญยอห์น มารีย์ เวียนเนย์ เจ้าอาวาสผู้ศักดิ์สิทธิ์ อีกประตูหนึ่งอยู่ที่สักการะสถานนักบุญยาก็อบ ที่เมืองกอมโปสเต็ลลาประเทศสเปน และอีกประตูหนึ่งที่ นครควีเบ็คประเทศแคนาดาซึ่งเป็นของขวัญจากสันตะสำนักและเป็นประตูศักดิ์สิทธิ์ เพียงประตูเดียวที่อยู่นอกทวีปยุโรป การเปิดประตูศักดิ์สิทธิ์ทั้งเจ็ดแห่งจะมีขึ้นตลอดช่วงเวลาของปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรมเพื่อนักจาริกแสวงบุญจะได้ไปเยี่ยมเพื่อรับพระคุณการุณย์บริบูรณ์ที่เชื่อมโยงกับปีศักดิ์สิทธิ์นี้
สิ่งที่พิเศษแห่งประตูศักดิ์สิทธิ์ครั้งนี้คือ วันที่ 8 ธันวาคม ค.ศ. 2015 สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสจะทำพิธีย่างก้าวเข้าปีศักดิ์สิทธิ์โดยเปิดประตูศักดิ์สิทธิ์ของมหาวิหารนักบุญเปโตร และอาทิตย์ถัดไปซึ่งเป็นวันที่ 13 ธันวาคม ค.ศ. 2016 พระศาสนจักรทั่วโลกจะเปิด “ประตูศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรม” ของแต่ละสังฆมณฑลทั่วโลก
ดังนั้น ในแต่ละสังฆมณฑลแห่งพระศาสนจักท้องถิ่นในประเทศไทย พระสังฆราชแต่ละองค์จะเปิดประตูศักดิ์สิทธิ์ระหว่างพิธีบูชามิสซาขอบพระคุณในอาสนวิหารของตนและนำสัตบุรุษของตนให้ก้าวย่างเข้าประตูอย่างเป็นทางการ ชวนเชิญให้ผู้แสวงบุญมาเยือนในปีแห่งเมตตาธรรมนี้
ขอให้ผู้แสวงบุญจงเดินผ่านประตูพิเศษในช่วงปีแห่งเมตตาธรรมนี้โดยคำนึงถึงไม่เพียงแต่เมตตาธรรมของพระเจ้าสำหรับเราแต่ละคนเท่านั้น แต่ให้คิดหาวิธีที่พวกเราทั้งหลายจะทำเมตตากิจอย่างจริงจังแก่ผู้ที่อยู่รอบข้างด้วย
หลังจากเดินผ่านประตูศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าวแล้ว ขอร้องให้ผู้จาริกแสวงบุญประกอบการแสวงบุญอย่างครบถ้วนด้วยการไปรับศีลอภัยบาป รับศีลมหาสนิท แสดงความเชื่อด้วยการสวดบทข้าพเจ้าเชื่อฯ หรือรื้อฟื้นคำสัญญาแห่งศีลล้างบาป และสวดภาวนาเพื่อพระประสงค์ของสมเด็จพระสันตะปาปา การกระทำตามเงื่อนไขดังกล่าวนี้ก็เพื่อที่จะได้รับพระคุณการุณย์บริบูรณ์ทั้งสำหรับตนเองหรือสำหรับผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรับพระคุณการุณย์ครบบริบูรณ์และจะแบ่งปันความมั่งคั่งฝ่ายจิตนี้กับผู้อื่นได้อย่างไร บรรดาพระสังฆราชจะประกาศในแต่ละสังฆมณฑล นอกนั้นข้อแนะนำ และข่าวคราวอื่นๆที่เกี่ยวกับ ปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรม รวมทั้งกิจกรรมเมตตากิจ จะนำเสนอผ่านทางเว็บไซท์ของสภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งประเทศไทย http://www.cbct.net หรือทางเว็ปไซท์ของแต่ละสังฆมณฑล
บรรดาพระสังฆราชของสภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งประเทศไทยมีความหวังเป็นอย่างยิ่งว่าพี่น้องคาทอลิกจำนวนมากรวมถึงผู้ที่อยู่ห่างไกลจากพระศาสนจักรด้วย จะทำการจาริกแสวงบุญโดยก้าวเดินผ่านประตูศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรมในแต่ละสังฆมณฑล ท่านทุกคนถูกเชิญชวนให้ปฏิบัติสิ่งนี้เป็นการส่วนตัว กับสมาชิกในครอบครัว ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง และกับสัตบุรุษ สมาชิกของวัดเดียวกันหรือกับกลุ่มองค์กรพระพรพิเศษหนึ่งใดของพระศาสนจักรก็ได้ (เช่น คณะพลมารี กลุ่มภาวนา คณะคูร์ซิลโล กลุ่มสตรี เยาวชน คณะนักขับร้อง กลุ่มผู้อาวุโส คณะวินเซ็นต์ เดอ ปอล ชมรมนักธุรกิจคาทอลิก คณะเซอร์ร่า ฯลฯ)
ขอให้พวกเราวิงวอนพระแม่มารีย์ทูลเสนอต่อพระเจ้าเพื่อให้คนจำนวนมากได้กลับใจเข้ามาสัมผัสอย่างลึกซึ้งถึงความชื่นชมยินดีแห่งเมตตาธรรมและการให้อภัยของพระเจ้า แล้วสามารถมอบความเมตตานั้นต่อไปยังผู้อื่นด้วยการกระทำเมตตากิจในช่วงปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรมนี้ด้วยเทอญ
พระคาร์ดินัลฟรังซิส เซเวียร์ เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช
พระอัครสังฆราชแห่งอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ และ
ประธานสภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งประเทศไทย