บทอ่านจากจดหมายนักบุญเปาโลอัครสาวกถึงชาวโรม รม 8:31ข-35,37-39
พี่น้อง ถ้าพระเจ้าทรงอยู่ข้างเรา ใครจะสู้เราได้ พระองค์มิได้ทรงหวงแหนพระบุตรของพระองค์ แต่ทรงมอบพระบุตรเพื่อเราทุกคน แล้วพระองค์จะไม่ประทานทุกสิ่งให้เราพร้อมกับพระบุตรหรือ ใครจะฟ้องร้องผู้ที่ทรงเลือกสรรไว้แล้วได้ พระเจ้าประทานความชอบธรรม ใครจะตัดสินลงโทษ พระคริสตเยซูสิ้นพระชนม์ ทั้งยังทรงกลับคืนพระชนมชีพ ประทับอยู่เบื้องขวาของพระเจ้า ทรงวอนขอแทนเราอีกด้วย ใครจะพรากเราจากความรักของพระคริสตเจ้าได้ ความทุกข์ลำเค็ญหรือ ความคับแค้นใจหรือ การเบียดเบียนข่มเหงหรือ การขาดอาหารและเครื่องนุ่งห่มหรือ ภยันตรายและคมดาบหรือ
แต่ในการทดลองทั้งหมดนี้ เราชนะได้ง่ายอาศัยพระผู้ทรงรักเรา เพราะข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่า ไม่ว่าความตายหรือชีวิต ไม่ว่าทูตสวรรค์หรือผู้มีอำนาจปกครอง ไม่ว่าปัจจุบันหรืออนาคต ไม่ว่าฤทธิ์อำนาจใดหรือความสูง ความลึก ไม่มีสรรพสิ่งใดๆ จะพรากเราได้จากความรักของพระเจ้า ซึ่งปรากฏในพระคริสตเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา
สดด 126:1-2,3-4,5-6
บทอ่านจากพระวรสารนักบุญลูกา ลก 9:23-26
หลังจากนั้น พระเยซูเจ้าตรัสกับทุกคนว่า “ถ้าผู้ใดอยากติดตามเราก็จงเลิกนึกถึงตนเอง จงแบกไม้กางเขนของตนทุกวันและติดตามเรา ผู้ใดใคร่รักษาชีวิต ผู้นั้นจะต้องสูญเสียชีวิต แต่ถ้าผู้ใดเสียชีวิตเพราะเรา ผู้นั้นจะรักษาชีวิตได้ มนุษย์จะได้ประโยชน์ใดในการที่จะได้โลกทั้งโลกเป็นกำไร แต่ต้องเสียชีวิตและพินาศไป ถ้าผู้ใดอับอายเพราะเราและเพราะถ้อยคำของเรา บุตรแห่งมนุษย์ก็จะอับอายเพราะเขา เมื่อเสด็จมาในพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์ ของพระบิดา และของบรรดาทูตสวรรค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์”
ข้อคิด
ระหว่างศตวรรษที่ 17 ความเชื่อคริสตชนได้ถูกเผยแผ่เข้าไปยังเกาหลี โดยฆราวาสที่มีใจร้อนรน และนับตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา (ระหว่างปี ค.ศ.1839 – 1867) บรรดาคริสตชนได้ถูกเบียดเบียนอย่างโหดร้าย และหลายคนได้กลายเป็นมรณสักขี วันนี้เราระลึกถึงบรรดามรณสักขีจำนวน 103 คน ซึ่งนักบุญสมเด็จพระสันตะปาปายอห์น ปอลที่ 2 ได้ทรงแต่งตั้งในโอกาสเสด็จเยือนประเทศเกาหลี ในปี ค.ศ.1984 ซึ่งมีนักบุญอันดรูว์ กิม เตก็อน พระสงฆ์ชาวเกาหลีองค์แรก นักบุญเปาโล จง ฮาซัง ฆราวาสแพร่ธรรม และในจำนวนนี้มีพระสังฆราชจำนวน 3 องค์ พระสงฆ์จำนวน 7 องค์ และมิชชันนารีชาวฝรั่งเศสอีก 3 คน ที่เหลือคือฆราวาสทั้งชายและหญิง ทั้งที่แต่งงานแล้ว และที่ยังโสด ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ให้เราสังเกตว่า ผู้ที่ได้รับเกียรติมรณสักขีนี้ส่วนใหญ่แล้วคือฆราวาส ดังนั้น เราทุกคนไม่ว่าจะอยู่ในฐานะใดของพระศาสนจักรต่างมีหน้าที่ที่จะดำเนินชีวิตเป็นพยานยืนยันถึงพระเยซูคริสตเจ้า เพราะหน้าที่นี้เป็นหน้าที่ของเราทุกคน