Logo

วันศุกร์ที่ 2 สิงหาคม 2019 น.เอวซิบิโอ แห่งแวร์แชลลี พระสังฆราช น.เปโตร ยูเลียน ไรมาร์ด พระสงฆ์

หมวด: เดือนสิงหาคม 2019
เขียนโดย กลุ่มไบเบิ้ลไดอารี
ฮิต: 453

บทอ่านจากหนังสือเลวีนิติ                                          ลนต 23:1,4-11,15-16,27,34ข-37
     องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสสั่งโมเสส ให้บอกชาวอิสราเอลว่า “วันสมโภชอื่นๆ ขององค์พระผู้เป็นเจ้า ที่ชาวอิสราเอลต้องมาชุมนุมกันนมัสการพระองค์ตามเวลากำหนด มีดังต่อไปนี้
     วันที่สิบสี่ของเดือนที่หนึ่ง ตั้งแต่ดวงอาทิตย์ตก ท่านจะต้องฉลองปัสกาเป็นเกียรติแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า วันที่สิบห้าเดือนเดียวกัน เริ่มเทศกาลขนมปังไร้เชื้อเป็นเกียรติแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า ท่านจะต้องกินขนมปังไร้เชื้อเป็นเวลาเจ็ดวัน ในวันแรก ท่านจะต้องจัดชุมนุมเพื่อนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้า และงดทำงานทุกอย่าง ท่านจะต้องถวายสิ่งของเป็นเครื่องเผาบูชาแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าทั้งเจ็ดวัน ในวันที่เจ็ด ท่านจะต้องจัดชุมนุมนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้าอีกครั้งหนึ่งและงดทำงานทุกอย่าง”
องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสสั่งโมเสส ให้บอกชาวอิสราเอลอีกว่า “เมื่อท่านทั้งหลายเข้าไปในแผ่นดินที่เราจะให้แก่ท่านและจะเก็บเกี่ยวพืชผลได้แล้ว ท่านจะต้องนำข้าวฟ่อนแรกที่เก็บเกี่ยวได้ไปมอบให้สมณะ สมณะจะนำข้าวฟ่อนนั้นไปยื่นถวายตามพิธีแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า เพื่อพระองค์จะทรงรับและโปรดปรานท่าน สมณะจะนำข้าวฟ่อนนี้มายื่นถวายตามพิธีหลังวันสับบาโตหนึ่งวัน
     ท่านทั้งหลายจะต้องนับเจ็ดสัปดาห์เต็มตั้งแต่วันหลังวันสับบาโตที่ท่านนำข้าวฟ่อนแรกมายื่นถวายตามพิธี ท่านจะต้องนับห้าสิบวัน จนถึงวันหลังวันสับบาโตที่เจ็ด จึงจะนำพืชผลใหม่มาถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า
     วันที่สิบของเดือนที่เจ็ดจะเป็นวันชดเชยบาป ท่านทั้งหลายจะต้องจัดชุมนุมเพื่อนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้า ท่านจะต้องจำศีลอดอาหารและนำสิ่งของมาถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นเครื่องบูชาใช้ไฟเผา
     วันที่สิบห้าของเดือนที่เจ็ดนี้จะเริ่มเทศกาลอยู่เพิงถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นเวลาเจ็ดวัน ในวันแรกท่านทั้งหลายจะต้องจัดชุมนุมเพื่อนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้าและงดทำงานทุกอย่าง ในระหว่างเจ็ดวันนั้นท่านจะต้องนำสิ่งของมาถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นเครื่องบูชาใช้ไฟเผา ในวันที่แปด ท่านจะต้องจัดชุมนุมเพื่อนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้า และจะต้องนำสิ่งของมาถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นเครื่องบูชาที่ใช้ไฟเผา ในวันที่ท่านมาชุมนุมกันเช่นนี้ ท่านจะต้องงดทำงานทุกอย่าง
นี่คือวันสมโภชองค์พระผู้เป็นเจ้า ที่ท่านจะต้องเรียกประชาชนมาชุมนุมกันเพื่อนมัสการพระองค์ และเพื่อนำของมาใช้ไฟเผาถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า ได้แก่ เครื่องเผาบูชา ธัญบูชา ศานติบูชา และการเทเหล้าองุ่นถวายตามพิธีการของวันฉลองแต่ละวัน”

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมัทธิว                                  มธ 13:54-58
     เวลานั้น พระเยซูเจ้าเสด็จมายังถิ่นกำเนิดของพระองค์ ทรงสั่งสอนในศาลาธรรมของชาวยิว ประชาชนต่างประหลาดใจและพูดว่า “คนนี้เอาปรีชาญาณและอำนาจทำอัศจรรย์มาจากที่ใด เขาเป็นลูกช่างไม้มิใช่หรือ แม่ของเขาชื่อมารีย์ พี่ชายน้องชายของเขามิใช่ยากอบ โยเซฟ ซีโมน และยูดาหรือ พี่สาวน้องสาวทุกคนของเขาก็อยู่กับเรามิใช่หรือ เขาไปได้สิ่งเหล่านี้มาจากที่ใด” คนเหล่านี้รู้สึกสะดุดใจและไม่ยอมรับพระองค์ พระเยซูเจ้าจึงตรัสกับเขาว่า “ประกาศกย่อมไม่ถูกเหยียดหยามนอกจากในถิ่นกำเนิดและในบ้านของตน” พระองค์ทรงทำอัศจรรย์ที่นั่นไม่มากนัก เพราะเขาเหล่านั้นไม่มีความเชื่อ


ข้อคิด

     ฝูงชนที่ติดตามพระเยซูเจ้ามีจุดมุ่งหมายที่แตกต่างกัน บางคนติดตามเพื่อฟังพระวาจา เพราะพระองค์ทรงสอนด้วย “ปรีชาญาณ” บางคนติดตามเพื่อจะได้เห็น “อำนาจทำอัศจรรย์” สาวกติดตามพระองค์ เพราะเชื่อว่า “พระองค์คือพระคริสตเจ้า พระบุตรของพระเจ้าผู้ทรงชีวิต” แต่ประชาชนในถิ่นกำเนิดของพระองค์ไม่ยอมรับและเชื่อในพระองค์ เพราะพวกเขาดื้อรั้นถือว่ารู้จักครอบครัวของพระองค์ เป็นการดีหากคริสตชนจะเป็นดั่งเช่นบรรดาอัครสาวก ตระหนักเสมอว่ามีพระเยซูคริสตเจ้าเป็นพระอาจารย์ของตน ยึดพระองค์เป็นศูนย์กลางของชีวิต ประพฤติตามแบบฉบับและติดตามพระองค์ใกล้ชิดที่สุดเท่าที่จะทำได้