www.catholic.or.th

มีข้อผิดพลาด
  • JLIB_DATABASE_ERROR_FUNCTION_FAILED

พระแม่มารีย์แห่งชัยชนะ และพระกุมารเยซูแห่งกรุงปราก


ที่มา : นิตยสารแม่พระยุคใหม่ ฉบับที่ 216 ปีที่ 36 เดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2017/2560

     หากวันหนึ่งท่านได้ไปเที่ยวกรุงปราก และได้มีโอกาสไปเที่ยวชมวัดพระแม่มารีย์แห่งชัยชนะ ท่านจะสะดุดตาสะดุดใจกับพระแท่นอันโอ่อ่า และมีสัตบุรุษภาวนาอยู่ตลอดเวลา เมื่อเดินเข้าไปใกล้ๆ ท่านจะเห็นรูปปั้นเล็กๆ ทำด้วยขี้ผึ้ง ความสูงประมาณ 49 เซนติเมตร เป็นรูปปั้นพระกุมารเยซู
     ที่มาของพระรูปนี้ ย้อนไปเมื่อหลายร้อยปีก่อน วันที่ 8 พฤษภาคม ค.ศ.1620 จักรพรรดิเฟอร์ดินัลที่สอง (Ferdinand II) แห่งออสเตรีย ทรงมีชัยชนะเหนือกลุ่มกัลวินิสของเฟดริกที่ 5 ที่เรียกว่าสงครามแห่งภูเขาสีขาว/สงครามสามทศวรรษ ขณะกำลังสู้รบ บรรดาทหารของเฟอร์ดินัลได้ยินเสียงตะโกนเรียกพระนาม “มารีอา” “มารีอา” ซึ่งเป็นเสียงของนักพรต คณะคาร์เมไลท์ ชื่อ โดมินิกแห่งเยซูมารีย์ ผู้เดินทางไปสนามรบด้วย
     ด้วยความรู้คุณในชัยชนะครั้งนี้ โดยอาศัยคำเสนอวิงวอนของพระแม่มารีย์พรหมจารี จักรพรรดิเฟอร์ดินัลที่สองจึงรับสั่งให้สร้างอารามคาร์เมไลท์ขึ้นหลายแห่ง อารามประจำกรุงปรากสร้างในปี 1624 และได้รับชื่อว่า “พระแม่มารีย์แห่งชัยชนะ” จักรพรรดิทรงเอาพระทัยใส่ดูแลความเป็นอยู่ของบรรดาสมาชิกคณะคาร์เมไลท์ ตลอดเวลาที่ประทับ ณ กรุงปราก
     ในปี 1628 เจ้าหญิง Polyxna de Lobkozitz ได้นำรูปปั้นพระกุมารเยซูมามอบให้อธิการของอารามคาร์เมไลท์ กล่าวว่า “ฉันขอมอบสิ่งมีค่าที่สุดของฉันแด่ท่านอธิการ พวกท่านจงนมัสการพระกุมารเยซู แล้วสมาชิกของท่านจะไม่ขาดสิ่งใดเลย” รูปปั้นพระกุมารเยซูนี้สวมอาภรณ์สวยงาม และได้รับการประดิษฐาน ณ วัดน้อยของอาราม ทุกวันสมาชิกของคณะต่างๆมาภาวนาขอต่อพระกุมารเยซูนี้ และด้วยการที่สมาชิกของคณะ “สัตย์ซื่อต่อการนมัสการองค์พระกุมารเยซู” ปัจจัยทั้งทางโลกและทางธรรม จึงหลั่งไหลมาสู่อารามอย่างไม่ขาดสาย
     ต่อมา เมื่อเริ่มมีการสู้รบเกิดขึ้นอีก สมาชิกคาร์เมไลท์จำเป็นต้องละทิ้งอารามเพื่อความปลอดภัย พวกกัลวินิสได้ยึดครองกรุงปราก เข้าปล้นสะดมวัดและอาราม รวมถึงอารามพระแม่มารีย์แห่งชัยชนะด้วย ศัตรูคนหนึ่งเห็นรูปปั้นพระกุมารเยซูนี้ จึงขว้างไปที่หลังพระแท่น
     ในปี 1631 กรุงปรากได้รับการปลดปล่อย บรรดาสมาชิกคาร์เมไลท์กลับเข้ายังอารามไม่ได้คิดถึงรูปปั้นพระกุมารเยซู ในปี 1634 พวกสวีเดนเข้ายึดกรุงปราก ปล้นสะดม และเผาเมือง บรรดานักพรตต้องหนีออกจากเมืองอีก จนกระทั่งปี 1637 คุณพ่อซีริลแห่งมารดาพระเจ้าได้กลับมาพำนักในอาราม ท่านได้ถามคุณพ่ออธิการว่า “รูปปั้นพระกุมารเยซูอยู่ไหนครับ”
     อธิการตอบว่า พ่อไม่ทราบว่าพระรูปหายไปไหน อาจจะถูกขโมย หรืออาจจะถูกทำลายไปแล้ว”
     อย่างไรก็ตาม คุณพ่อซีริลเริ่มออกค้นหาพระรูปนี้ และได้พบอยู่ในกองขยะ ท่านทำความสะอาดพระรูป และนำกลับไปตั้งไว้ในที่วัดน้อย เย็นวันหนึ่ง ขณะกำลังรำพึงภาวนาหน้าพระรูป คุณพ่อซีริลได้ยินเสียงหนึ่งกล่าวว่า
“จงเมตตาเราและเราจะเมตตาท่าน ขอมือให้เราและเราจะให้สันติแก่ท่าน ท่านนมัสการเรามากเท่าไร เราก็จะอวยพรท่านมากเท่านั้น” คุณพ่อจึงได้เข้าไปพบอธิการ และขอให้ท่านซ่อมแซมพระรูปนี้
     แต่ท่านอธิการพูดว่า “เรายังมีความต้องการอื่นที่เร่งด่วนกว่า” คุณพ่อซีริลจึงมาระบายความเศร้าใจ ณ เชิงพระบาทรูปนั้น และท่านได้ยินเสียงกล่าวว่า “จงนำพระรูปนี้ไปไว้ที่หน้าประตู แล้วจะมีคนเมตตาเรา” คุณพ่อรีบทำตามเสียงนั้นทันที สองวันต่อมาอาคันตุกะท่านหนึ่งเดินเข้ามาที่วัด และกล่าวว่า “ขอพระรูปให้ฉัน ฉันจะเอาไปซ่อมให้”
     ด้วยเหตุนี้ พระรูปพระกุมารเยซูจึงได้รับการซ่อมแซม และได้รับการนมัสการจากบรรดาสัตบุรุษที่ให้สมญานามพระรูปนี้ว่า “คุณหมอผู้โด่งดัง” เพราะคำวิงวอนให้หายขาดจากโรคได้รับการตอบสนอง การหายขาดที่โด่งดังมากคือ ในปี 1639 ภรรยาของท่านเคานท์ Liebsteinsky ป่วยหนัก ท่านเคานท์รู้สึกสิ้นหวัง จึงหันเข้าหาพระกุมารเยซู คุณพ่อซีริลได้นำพระรูปมาให้ผู้ป่วย วางไว้ใกล้ๆ เตียง จากนั้นสองสามวันต่อมา ภรรยาท่านเคานท์ก็อาการดีขึ้นและหายเป็นปกติ
     ในปี 1733 หญิงสาวอายุ 22ปี ผู้หนึ่ง ป่วยหนักและอยู่ในสภาพใกล้จะสิ้นใจ เธอได้รับศีลเจิมคนไข้ และหายจากโรค หลังจากได้ภาวนาต่อพระกุมารเยซูที่มีคนนำมาให้
     ในปี 1893 ที่ฝรั่งเศส สตรีผู้ไม่มีความเชื่อคนหนึ่งใกล้จะสิ้นใจและไม่ยอมกลับใจ แต่ด้วยคำภาวนาขอร้องของผู้เป็นมารดาใจศรัทธา รวมทั้งสมาชิกของอารามคาร์เมลท์ได้ภาวนาต่อหน้าพระรูปพระกุมารเยซูแห่งกรุงปราก ที่สุด เธอยอมให้พระสงฆ์เข้าเยี่ยมและได้รับศีลอภัยบาป
     มีเรื่องเล่ามากมายเกี่ยวกับอัศจรรย์ที่ได้รับจากการภาวนาอ้อนวอนขอต่อพระรูปพระกุมารเยซูแห่งกรุงปราก นอกจากนี้ ยังมีการทำเหรียญห้อยคอ โดยเฉพาะสำหรับเด็กๆ เพื่อขอการปกป้องรักษา บนเหรียญมีคำเขียนว่า “พระกุมารเยซูผู้ศักดิ์สิทธิ์ โปรดอวยพรเรา” ตามอาราม วัดและสถานเลี้ยงเด็กของวัดคาทอลิกมากมายหลายแห่ง ต่างมีรูปปั้นหรือรูปภาพตามแบบรูปปั้นพระกุมารเยซูแห่งกรุงปราก

บทภาวนาต่อพระกุมารเยซู
โดยคุณพ่อซีริล คณะคาร์เมไลท์
     ข้าแต่พระกุมารเยซูผู้ศักดิ์สิทธิ์ ข้าพเจ้ามาขอพึ่งพระองค์ และโดยอาศัยคำเสนอวิงวอนของพระแม่ผู้ศักดิ์สิทธิ์ โปรดช่วยข้าพเจ้าในความจำเป็นนี้ เพราะข้าพเจ้าเชื่ออย่างแน่วแน่ว่า พระองค์จะทรงช่วยเหลือข้าพเจ้า ข้าพเจ้าหวังไว้ใจที่จะได้รับพระหรรษทานจากพระองค์ ข้าพเจ้ารักพระองค์สุดจิตใจ และสุดกำลังวิญญาณ
     ข้าแต่พระเยซูผู้พระทัยดี ข้าพเจ้าเป็นทุกข์ถึงบาปอย่างจริงใจ โปรดประทานพลังให้ข้าพเจ้าได้รับชัยชนะ ข้าพเจ้าตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่าจะไม่ทำเคืองพระทัยพระองค์อีก ข้าพเจ้าขอถวายตัวแด่พระองค์ และปรารถนาที่จะยอมทนทุกข์มากกว่าทำเคืองพระทัยพระองค์ แต่นี้ต่อไปข้าพเจ้าขอรับใช้พระองค์อย่างสัตย์ซื่อด้วยความรัก ข้าพเจ้าจะรักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตัวข้าพเจ้าเอง
     ข้าแต่พระกุมารเยซูผู้ทรงสรรพานุภาพ ข้าพเจ้าวิงวอนพระองค์ โปรดช่วยข้าพเจ้าในสถานการณ์จำเป็นนี้ โปรดให้ข้าพเจ้ายึดพระองค์ไว้ พร้อมกับพระแม่มารีย์และนักบุญโยเซฟ และโปรดให้ข้าพเจ้าได้นมัสการพระองค์ พร้อมกับบรรดาทูตสวรรค์ ในสรวงสวรรค์ด้วยเทอญ อาแมน