หน้าหลักเช็คเมลล์ติดต่อเราสมุดเยี่ยมลิงค์คาทอลิกแผนผังเวบไซด์

ค้นหาข้อมูล :

ประมวลภาพบรรยกาศสัมมนาพระสงฆ์ วันที่ 13-14 กรกฎาคม 2009

วันที่ 13 - 17 กรกฎาคม 2009 สัมมนาพระสงฆ์ประจำปี ครั้งที่ 27 ณ บ้านผู้หว่าน สามพราน จ.นครปฐม โดยมีพระสังฆราช และคณะสงฆ์ จากสังฆมณฑลต่าง ๆ  ( 10 สังฆมณฑล ) พระสงฆ์นักบวชจากคณะต่าง ๆในประเทศไทย เข้าร่วมการสัมมพนา ในหัวข้อ “ พระสงฆ์ กับสิ่งท้าทายชีวิตและงานอภิบาล” โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิจากหลายภาค หลายวงการ ให้ความรู้ และนำประสบการณ์มาแ่บ่งปันกับคณะสงฆ์

โดยแต่ละวันจะมี หัวข้อที่น่าสนใจ อาทิ "พระวาจาในชีวิตสงฆ์”,  “สื่อ สิ่งท้าทายชีวิตสงฆ์”, “สิ่งท้าทายพระสงฆ์ในสังคมปัจจุบัน” , “พระสงฆ์ ประสบการณ์ชีวิตอภิบาล-ธรรมทูต” , “พระสงฆ์ สิ่งส่งเสริมชีวิตและงานอภิบาล” ในแต่ละวันมีความเข้มข้นที่เพิ่มปริมาณ มากขึ้นเรื่อย ๆ ใน ปี 2009 นี้มีพระสงฆ์จากสังฆมณฑลต่าง ๆรวมถึงคณะนักบวชที่ทำงานในสังฆมณฑลนั้น เข้าร่วมจำนวน กว่า 287 องค์ นำโดยบรรดาพระสังฆราชจาก 10 สังฆมณฑล มีคณะสงฆ์ในอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ เข้าร่วมจำนวน 84 องค์ สังฆมณฑลราชบุรี 22 องค์ สังฆมณฑลนครสวรรค์ 16 องค์  สังฆมณฑลจัันทบุรี 38 องค์ สังฆมณฑลเชียงใหม่ 28 องค์  สังฆมณฑลสุราษฎร์ธานี  15 องค์ สังฆมณฑลนครราชสีมา 15 คนอัครสังฆมณฑลท่าแร่ - หนองแสง 35  องค์ สังฆมณฑลอุดรธานี 15 องค์ และ สังฆมณฑลอุบลราชธานี  19 องค์ มีประธานจัดงานคือคุณพ่อวัชรินทร์  ต้นปรึกษา ประธานคณะอนุกรรมการจัดสัมมนาพระสงฆ์  และทีมงาน

บรรยากาศการสัมมนา วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม 2009

เริ่มตั้งแต่เวลา 15.00 น. ผมได้มีโอกาสไปสัมผัสกับบรรยากาศของการสัมมนาพระสงฆ์ ประจำปี โดยมีคณะสงฆ์จากสังฆมณฑลต่าง ๆ ที่ต่างทยอย ลงจากรถ ด้วยสีหน้า ในตาสดใส พร้อมด้วยรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะที่พร้อมจะเริ่มต้น เรียนรู้ ประสบการณ์ใหม่ ๆ จากการสัมมนาในครั้งนี้

บรรยกาศ ภายในบ้านผู้หว่าน มีเสียงทักทายจากเพื่อนสงฆ์ต่างสังฆมณฑล สอบถามถึงทุกข์ -สุข พร้อมทั้งเล่าสู่กันฟังในงานอภิบาลของวัดที่แต่ละท่านได้ทำงานนั้น  ก่อนจะลงทะเบียนเพื่อนำสัมภาระสู่ที่พัก


เมื่อถึงเวลา 17.00 น. ห้องประชุม ยวง นิตโย ก็เปิดรับคณะสงฆ์ทั้ง 10 สังฆมณฑล และคณะสงฆ์นักบวช ต่าง ๆ เข้าร่วมในวจนพิธีกรรม เปิดการสัมมนา โดยมีพระคุณเจ้า พระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู เป็นประธาน จุดเทียน อ่านพระวรสาร ก่อนจะให้ข้อคิด เป็นการเรียกน้ำย่อยก่อนจะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันพรุ่งนี้ ( 14 กรกฎาคม 2009  )

บทเทศน์ในวจนพิธีกรรมเปิดการสัมมนาพระสงฆ์ประจำปี ครั้งที่ 27 ของ พระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู
ณ ห้องประชุม ยวง นิตโย บ้านผู้หว่าน สามพราน นครปฐม วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม ค.ศ. 2009 เวลา 17.00 น.


คุณพ่อที่รัก
ในพระนามอันศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า ขอต้อนรับทุกคนที่เข้าร่วมสัมมนาในครั้งนี้ ในโอกาสสำคัญที่องค์สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ได้ประกาศให้เป็นปีพระสงฆ์ ซึ่งเป็นความยินดีที่ต้องเป็นความยินดีที่แท้จริงในหัวใจของพระสงฆ์ ต้องเป็นพลังยิ่งใหญ่ในการดำเนินชีวิตของพระสงฆ์ทุกองค์

ในโอกาสปีพระสงฆ์ เรามีนักบุญยอห์น มารีเวียนเนย์ เป็นบรรทัดฐานสำหรับบรรดาพระสงฆ์ในปีนี้ทางคณะกรรมการได้จัดให้มีการสัมมนาพระสงฆ์ประจำปี ครั้งที่ 27 ให้หัวข้อ “พระสงฆ์กับสิ่งท้าทายชีวิตและงานอภิบาล” จากพิธีกร ได้บอกให้เราเข้าใจการพัฒนาชีวิตเป็นพระสงฆ์ เรารู้ว่าเรามาที่นี่ เราเข้าใจว่าเรามาที่นี่เรามาทำอะไร เรามาสัมมนาพระสงฆ์ที่บ้านผู้หว่าน โดยอาศัยองค์พระจิตเจ้าเพื่อได้นำความสว่าง นำทาง ชีวิตของเราไปสู่พันธกิจที่องค์พระเยซูเจ้าได้ทรงมอบหมายให้กับเรา ในการสัมมนาพระสงฆ์ในปีนี้ เราต้องถือว่าเป็นประวัติศาสตร์อันสำคัญที่เกิดขึ้นในพระศาสนจักรประเทศไทยของเรา

ในวันนี้ เราได้อัญเชิญเรื่องราวส่วนหนึ่งขององค์พระเยซูเจ้า ซึ่งบันทึกโดยท่านนักบุญมัทธิว เราได้ต่อเรื่องราว เราทราบว่าเมื่อพระเยซูได้ทรงประกาศข่าวดีในสังคมของพระองค์ มีผู้คนจำนวนมากมายได้ติดตามพระองค์ ยินดีที่จะติดตามพระองค์

เพราะเหตุว่าเป็นเวลาค่ำแล้ว บรรดาศิษย์กลัวว่าเมื่อเขากลับบ้านไปแล้ว กลัวพวกเขาจะหิว บรรดาศิษย์จึงถามพระเยซูเจ้าว่า จะให้พวกเขากินอะไรบ้าง พระเยซูเจ้าทรงสั่งให้ศิษย์ถามว่าพวกเขามีอาหารอะไรติดตัวมาบ้าง พวกเขามี ขนมปังห้าก้อน กับปลาสองตัว พระเยซูเจ้าสั่งบรรดาศิษย์ให้นำขนมปังและปลาไปแจกให้กับประชาชน นักบุญมัทธิวได้บันทึกไว้ว่า .... “เราสงสารประชาชน เพราะเขาอยู่กับเรามาสามวันแล้ว และเวลานี้ไม่มีอะไรกิน เราไม่อยากให้เขากลับบ้านโดยไม่ได้กินอะไร เขาจะหมดแรงขณะเดินทาง  บรรดาศิษย์จึงทูลถามว่า “ในที่เปลี่ยวเช่นนี้ เราจะหาอาหาร จากที่ไหนให้ประชาชนเหล่านี้กินจนอิ่มได้” พระเยซูเจ้าตรัสถามว่า “ท่านมีขนมปังกี่ก้อน” เขาทูลว่า “เจ็ดก้อนกับปลาเล็ก ๆ อีกสองสามตัว”  พระองค์ทรงสั่งให้ประชาชนนั่งลงที่พื้นดิน  ทรงหยิบปลาและขนมปังเจ็ดก้อนนั้น ตรัสขอบพระคุณพระเจ้า ทุกคนกินจนอิ่ม และยังเก็บเศษที่เหลือได้อีกเจ็ดตะกร้า คนที่กินมีผู้ชายประมาณสี่พันคน ไม่นับผู้หญิงและเด็ก

และจำนวนพระสงฆ์ที่มาร่วมสัมมนาในครั้งนี้จะได้รับขนมปังจำนวนกี่ท่านเรายังไม่ทราบพวกเขาได้รับประทานอาหารจนอิ่ม พวกเขาเก็บขนมปังได้ เจ็ดตระกร้าเรื่องมีต่อมาว่า พวกศิษย์ได้ลืมเอาขนมปังไปด้วย พระเยซูเจ้าบอกให้พวกเขาระวังเชื้อแป้งของชาวฟาริสี และชาวสะดูสี บรรดาศิษย์ได้บอกว่า พวกเขาได้ลืมนำขนมปังไป ดังนั้น ขอให้เราอย่าลืมนำขนมปังที่พระเยซูเจ้าได้ทรงประทานให้ติดตัวไปด้วยพระเยซูเจ้าได้ตำหนิพวกเขา ซึ่งเป็นคำตำหนิที่ค่อนข้างรุนแรง “พวกท่านช่างมีความเชื่อน้อย”ขอให้เราได้ทบทวนชีวิตสงฆ์ คิดถึงความเชื่อความศรัทธาที่เราต้องมีต่อองค์พระเยซูเจ้า ว่าเราแต่ละคนนั้น เรามีความเชื่อในองค์พระเยซูเจ้าน้อยไปหรือเปล่า
ข้อคิดต่อไป พระเยซูเจ้าทรงตำหนิต่อไปว่า ทำไมพวกท่านต้องไปถกเถียงเรื่องไม่มีขนมปัง ท่านยังไม่เข้าใจหรือ ท่านยังจำไม่ได้หรือเรื่องขนมปังห้าก้อนเลี้ยงคนห้าพันคน ท่านเก็บเศษที่เหลือได้กี่ตะกร้า ทำไมท่านจึงไม่เข้าใจว่าเราไม่ได้พูดเรื่องขนมปัง เราบอกให้ระวังเชื้อแป้งของชาวฟาริสีและชาวสะดูสี

บางครั้งชีวิตพระสงฆ์เรายังไม่คิดถึงในเรื่องที่แท้จริงที่เราต้องกระทำในชีวิตพระสงฆ์ เราไปเถียงในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง เรารู้ว่าพระเมตตาของพระเยซูเจ้าดีพร้อมในทุกวินาที ดังท่านนักบุญเปาโลได้กล่าวไว้ว่า มีพระหรรษทานในทุกกิจการ แต่บ้างครั้งเราลืมสิ่งเหล่านี้ไป
พระเยซูเจ้าบอกให้ระวังเชื้อแป้งฟารีสี ชาวสะดูสี เพราะเขาได้เรียกร้องเครื่องหมายจากพระเยซูเจ้า เพราะทั้งๆที่เขาก็เคยเห็นเครื่องหมายต่างๆ มากกว่าที่เขาได้เห็น พวกนี้เป็นคนทรยศ พวกนี้เป็นคนดื้อรั้นต่อพระเจ้า คำตำหนิอันรุนแรงนี้ แน่ล่ะ เราคงไม่ประสงค์จะให้เกิดกับผู้ใดโดยเฉพาะพระสงฆ์
และบ้างครั้งเราอาจจะได้รับอิทธิพลจากสิ่งที่พระเยซูตำหนิบ้างก็ได้ บางครั้งเราดื้อรั้น

พระสงฆ์กับสิ่งท้าทายชีวิตและงานอภิบาล น่าจะเป็นข้อคิดที่มีคุณค่า เพื่อเราได้รู้พันธกิจที่เราจะดำเนินต่อไป แม้ว่าเราจะมีความพร้อม แต่หากว่าเราไม่มีพระพรของพระเยซูเจ้าเราก็ไม่สามารถเกิดผลและเป็นผลที่ถาวรด้วย

จากนั้นคุณพ่อ มีคาแอล วัชรินทร์  ต้นปรึกษา ประธานคณะอนุกรรมการจัดสัมมนาพระสงฆ์ได้กล่าวต้อนรับคณะสงฆ์ พร้อมกับแนะนำทีมงานและผู้รับผิดชอบในส่วนต่าง ๆ เริ่มจากทางด้านสถานที่ ผู้รับผิดชอบดูแลในส่วนนี้คือคุณพ่อประเสริฐ ตรรกเวศม์ ( ผู้ช่วยพระสังฆราชฝ่ายบุคลลาภิบาล อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ) เจ้าภาพด้านสถานที่ ให้คำแนะนำเกี่ยวกับ สถานที่สัมมนา อาหาร รวมถึงกิจกรรม อาิทิเรื่องกีฬาที่พระสงฆ์จะทำกิจกรรมร่วมกันตลอดการสัมมนาในครั้งนี้ ส่วนทางด้านพิธีกรรม คุณพ่ออนุสรณ์ แก้วขจร รับผิดชอบ ด้านวิชาการคุณพ่อพิชาญ ใจเสรี ด้านกีฬาสันพันธ์ คุณพ่อฉลอง แก้วอาสา ด้านกองเลขา และสหการณ์ มีคุณพ่อสหพล ตั้งถาวร เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบ

ปิดท้ายด้วยกิจกรรมในค่ำคืนนี้ด้วยการฟังสัมภาษณ์สดทางโทรศัพท์จากคุณพ่อวิษณุ ธัญญอนันต์ เลขานุการสถานสมณทูตไทยประจำวาติกัน ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับปีพระสงฆ์ที่จัดขึ้นในกรุงโรม รวมถึงแนวทางสนับสนุนพระสงฆ์ในแง่มุมต่างๆ  โดยมีคุณพ่อวรยุทธ กิจบำรุง เลขาธิการสภาพระสงฆ์ในฐานะสื่อมวลชนประเทศไทย สัมภาษณ์สด จากนั้นพักผ่อนตามอัธยาศัย

วันอังคารที่ 14 กรกฎาคม 2009  ( วันที่  2 )

เริ่มด้วย เวลา 06.30-07.45 น.  ทำวัตร - มิสซา ( วัดเซนต์ไมเกิ้ล )
ประธาน : พระสังฆราชลอเรนซ์ เทียนชัย สมานจิต
 
เวลา 08.30-10.00 น.  คุณพ่อ วัชรินทร์  ต้นปรึกษา ประธานคณะอนุกรรมการจัดสัมมนาพระสงฆ์ ประธานกล่าวเปิดงาน (15 นาที) หัวข้อ “พระสงฆ์ กับสิ่งท้าทายชีวิตและงานอภิบาล”

พระคาร์ดินัลไมเกิ้ล  มีชัย กิจบุญชู 
ปาฐกถาพิเศษ (15-20 นาที)
“มีข้อความที่ฟังแล้วประทัีบใจครับ นั่นคือ “ พระศาสนจักรภูมิใจในพระสงฆ์ พระศาสนจักรรักพวกท่าน” 

เวลาที่เราพระสงฆ์มาอยู่ร่วมกันเพื่อประชุมสัมมนา  สวดภาวนา  พักผ่อนพร้อมหน้ากันอย่างนี้ ต้องถือว่าเป็นพระพรยิ่งใหญ่ที่เราทุกคนได้รับจากพระเป็นเจ้า  แต่ละปีบรรดาคุณพ่อต่างก็มีการสัมมนากันมากมายบางครั้งเราเป็นคนจัดให้คนอื่นเขา  บางครั้งคนอื่นเขาจัดให้เรา  ทุกวันนี้การสัมมนาคือการศึกษาอย่างต่อเนื่องที่จำเป็นเพื่อเพิ่มเติมประสบการณ์  ความรู้วิธีหนึ่งสำหรับผู้ใหญ่ เป็นการพัฒนาบุคลากร ซึ่งบรรดาคุณพ่อแต่ละองค์ทราบดี และแต่ละองค์ก็คงเห็นความจำเป็นต้องพัฒนาตัวเองตลอดเวลา  โดยเฉพาะสำหรับเราพระสงฆ์ที่เป็นผู้นำด้านฝ่ายจิตใจ  ด้านงานอภิบาล สิ่งสำคัญและผลสำเร็จของการสัมมนา ส่วนหนึ่งมาจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้มีประสบการณ์ ที่มาแบ่งปันประสบการณ์ชีวิต  และงานของแต่ละคน  มีหลายอย่างที่สรรหาเป็นบทเรียนและแบบอย่างให้ข้อคิดแก่เราได้เท่ากับเป็นการรับฟัง  ผู้ร่วมงาน ผู้ที่เราอยู่ร่วมกัน   แต่อีกส่วนหนึ่งที่สำคัญเช่นกันคือ จากผู้ร่วมสัมมนาเป็นผู้ให้ แบ่งปันความรู้และประสบการณ์การทำงานอภิบาลของเรา  ซึ่งมีหลากหลาย  โดยเฉพาะแบบอย่างที่ดีส่วนนี้เป็นส่วนที่สำคัญ  สามารถเรียนรู้และให้กำลังใจแก่กันได้เป็นอย่างดี  ( อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่ครับ สัมมนาพระสงฆ์ครั้งที่ 27 )

จากนั้นพระอัครสังฆราชซัลวาตอเร เปนนักคีโอ เอกอัครสมณทูตวาติกันประจำประเทศไทย กล่าวใน หัวข้อ “The Year for Priests : Hope and Expectations”

เวลา 10.00-10.30 น. พระสงฆ์ทั่วประเทศ ได้ถ่ายภาพร่วมกัน
 
เวลา 10.30-12.00 น .
หัวข้อ “พระวาจาในชีวิตสงฆ์”
วิทยากร :  1 พระสังฆราชโยเซฟ ประธาน ศรีดารุณศีล
                 2   อาจารย์ชัยณรงค์ มนเทียรวิเชียรฉาย

SYNOD OF BISHOPS สมัชชาพระสังฆราช
The Word of God in the Life and Mission of the Church
พระวาจาของพระเจ้าในชีวิตและพันธกิจของพระศาสนจักร
5-26 ตุลาคม 2008

ผู้ดำเนินรายการ : คุณพ่อบุญเลิศ พรหมเสนา และทีมงาน
 
เวลา 14.00-16.00 น.  หัวข้อ “350 ปี สงฆ์ MEP : ก้าวต่อไปของสงฆ์ไทย”
วิทยากร :  1 คุณพ่อบรูโน อาเรินส์, OMI
                 2 คุณพ่อธีรพล กอบวิทยากุล ( พูดในหัวข้อ ประวัติศาสตร์พระศาสนจักรไทย )
ผู้ดำเนินรายการ: คุณพ่อวรยุทธ กิจบำรุง ดำเนินรายการ

สำหรับการสัมมนาในวันต่อไป จะำนำมารายงานให้ทราบครับ ติดตามชมได้ที่ สัมมนาพระสงฆ์ปี 2009