Mon |
Tue |
Wed |
Thu |
Fri |
Sat |
Sun |
|
|
|
|
1 อัฐวารปัสกา |
2 อัฐวารปัสกา วันศุกร์ต้นเดือน |
3 อาทิตย์ที่ 2 เทศกาลปัสกา ฉลองพระเมตตา |
4 สมโภชการแจ้งสารเรื่องพระวาจนาตถ์ทรงรับสภาพมนุษย์ |
5 สัปดาห์ที่ 2 เทศกาลปัสกา |
6 สัปดาห์ที่ 2 เทศกาลปัสกา วันจักรี |
7 ระลึกถึง น.ยหอ์น บัปติสต์ เดอลาซาล พระสงฆ์ |
8 สัปดาห์ที่ 2 เทศกาลปัสกา |
9 สัปดาห์ที่ 2 เทศกาลปัสกา |
10 อาทิตย์ที่ 3 เทศกาลปัสกา |
11 น.สตานิเลาส์ พระสังฆราชและมรณสักขี |
12 สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลปัสกา |
13 ระลึกถึง น.มาร์ตินที่ 1 พระสันตะปาปาและมรณสักขี (วันสงกรานต์ ) |
14 สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลปัสกา |
15 สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลปัสกา |
16 สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลปัสกา |
17 อาทิตย์ที่ 4 เทศกาลปัสกา ( วันภาวนาเพื่อกระแสเรียก วันรณรงค์เพื่อกลุ่มชาติพันธุ์ ) |
18 สัปดาห์ท ี่ 4 เทศกาลปัสกา |
19 สัปดาห์ท ี่ 4 เทศกาลปัสกา |
20 สัปดาห์ท ี่ 4 เทศกาลปัสกา |
21 น.อันเซลม์ พระสังฆราชและนักปราชญ์แห่งพระศาสนจักร |
22 สัปดาห์ที่ 4 เทศกาลปัสกา |
23น.ยอร์จ มรณสักขี |
24 อาทิตย์ที่ 5 เทศกาลปัสกา |
25 ฉลองน.มาระโฏ ผู้นิพนธ์พระวรสาร |
26 สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลปัสกา |
27 สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลปัสกา |
28 น.เปโตร ชาเนล พระสงฆ์และมรณสักขี น.หลุยส์มารี กรีญอง เดอ มงฟอร์ต พระสงฆ์ |
29 ระลึกถึง น.กาธารีนาแห่งซีเอนา พรหมจารีและนักปราชญ์แห่งพระศาสนจักร |
30 น.ปีโอ ที่ 5 พระสันตะปาปา |
|
กฎหมายพระศาสนจักรว่าด้วยเรื่อง พระสังฆราชคาทอลิก
- รายละเอียด
- หมวด: บทความทั่วไป
- เขียนโดย Super User
- ฮิต: 3448
โดย...คุณพ่อวิชา หิรัญญการ
คำว่า “พระสังฆราช” มาจากภาษากรีกคำว่า episkopos ซึ่งหมายความว่า “ผู้ควบคุม” หรือ “ผู้จัดการ” ศัพท์คำนี้ได้เคยใช้หลายๆ ครั้งในพระธรรมใหม่เพื่อหมายถึงผู้นำของพระศาสนจักร ตำแหน่งหน้าที่นี้ ต่อมามีบทบาทสำคัญมากคือเป็นศูนย์กลางของพระศาสนจักรท้องถิ่น และได้รับการยอมรับนับถือว่าพระเป็นเจ้าเป็นผู้ทรงแต่งตั้งตำแหน่งนี้ขึ้นมา
บรรดาพระสังฆราชทั้งหลาย คือผู้สืบตำแหน่งต่อมาจากบรรดาอัครสาวกของพระเยซูคริสตเจ้า โดยการแต่งตั้งของพระเป็นเจ้า พวกท่านได้รับอภิเษกเป็นพระสังฆราชโดยพระจิตเจ้าซึ่งพวกท่านได้รับ พวกท่านเป็นนายชุมพาในพระศาสนจักร เป็นอาจารย์สอนข้อความเชื่อ เป็นสงฆ์แห่งคารวะกิจอัน ศักดิ์สิทธิ์ เป็นศาสนบริกรของการปกครอง (มาตรา 375.1) บรรดาพระสังฆราชได้รับตำแหน่งหน้าที่เหล่านี้ในการอภิเษกเป็นพระสังฆราชของพวกท่านและสามารถบริหารงานตามตำแหน่งหน้าที่เหล่านี้ได้ต่อเมื่อพวกท่านคงความเป็นอันหนึ่งอันเดียว (in communion) กับคณะพระสังฆราช (College of Bishops) และประมุขของคณะ ซึ่งก็คือสมเด็จพระสันตะปาปาเท่านั้น (มาตรา 375.2)
คุณสมบัติของผู้ที่จะได้รับแต่งตั้งเป็นพระสังฆราช มีดังนี้
1.เป็นคริสตชนที่ดี กอปรด้วยคุณธรรม ความเชื่อ ศีลธรรมอันดี มีความศรัทธาร้อนรน มีปรีชาญาณ ความสุขุมรอบคอบ ความฉลาดปราดเปรื่องและมีชื่อเสียงที่ดี
2.เป็นพระสงฆ์ที่ได้รับศีลบวชมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี และมีอายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป
3.เป็นผู้ที่ได้รับปริญญาเอก หรืออย่างน้อยปริญญาโทในด้านพระคัมภีร์ เทววิทยา หรือกฎหมายพระศาสนจักร หรืออย่างน้อยมีความเชี่ยวชาญในเรื่องระเบียบวินัยเหล่านี้ (มาตรา 378) และทางสันตะสำนักจะเป็นผู้ตัดสินชี้ขาดว่าใครจะเหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่นี้
พระสังฆราชแบ่งออกกว้างๆ เป็น 2 ประเภท กล่าวคือ
1.พระสังฆราชประมุขสังฆมณฑล (Diocesan Bishops) คือพวกท่านจะได้รับมอบหมายให้ปกครอง ดูแลสังฆมณฑลใดสังฆมณฑลหนึ่ง
2.พระสังฆราชกิติมศักดิ์ (Titular Bishops) คือพระสังฆราชอื่นๆ ที่เหลือ ที่ไม่ต้องดูแลรับผิดชอบ สังฆมณฑล ดังนั้นพระสังฆราชผู้ช่วยก็ดี พระสังฆราชเกษียณอายุก็ดี ก็จัดอยู่ในประเภทนี้ (มาตรา 376) ผู้ที่สามารถแต่งตั้งพระสังฆราชได้คือสมเด็จพระสันตะปาปา พระองค์สามารถแต่งตั้งได้อย่างอิสระหรือโดยการรับรองผู้ที่ได้รับเลือกมาโดยชอบด้วยกฎหมายก็ได้ (มาตรา 377)
ที่จริงแล้วการส่งรายชื่อผู้ที่เหมาะสมจะได้รับเลือกเป็นพระสังฆราชนั้น มีกฎว่า บรรดาพระสังฆราชที่อยู่ในเขตปกครองเดียวกัน หรือสภาพระสังฆราช จะต้องส่งรายชื่อพระสงฆ์ที่พวกท่านคิดว่าเหมาะสมสำหรับตำแหน่งนี้ 3 ชื่อ ไปยังสันตะสำนักทุกๆ 3 ปี และต้องรักษาไว้เป็นความลับ ยิ่งกว่านั้นบรรดาพระสังฆราชประมุขสังฆมณฑลแต่ละท่านมีสิทธิ์จะส่งรายชื่อพระสงฆ์ทั้งหลายที่ท่านคิดว่าเหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่นี้ไปยังสันตะสำนักได้อีกด้วย (เทียบมาตรา 377.2)
เมื่อพระสังฆราชประมุขสังฆมณฑลถึงแก่มรณภาพหรือเกษียณอายุ พระสมณทูตจะเป็นผู้รวบรวมคำแนะนำต่างๆ จากบรรดาพระสังฆราชที่อยู่รายรอบสังฆมณฑลนั้น และจากประธานสภาพระสังฆราชว่าใครน่าจะเป็นผู้สืบตำแหน่งต่อ ในกระบวนการนี้ พระสมณทูตต้องฟังความเห็นจากสมาชิกของคณะที่ปรึกษาบางท่าน (เทียบมาตรา 502) ท่านอาจจะสอบถามความคิดเห็นจากพระสงฆ์และฆราวาสบางคนก็ได้ จากนั้นพระสมณทูตจะส่งรายชื่อ 3 ชื่อ ตามที่ท่านเห็นชอบไปยังสันตะสำนัก (มาตรา 377.3) ทุกขั้นตอนของกระบวนการนี้เป็นความลับทั้งหมดจนกว่าจะมีการประกาศแต่งตั้งออกมา นั่นคือ หลังจากที่พระสมณทูตได้ทาบทามผู้รับแต่งตั้ง และผู้นั้นยอมรับแล้ว จึงจะประกาศแต่งตั้งให้ทราบโดยทั่วกัน
ในกรณีที่พระสังฆราชประมุขสังฆมณฑลต้องการจะมีพระสังฆราชผู้ช่วย (Auxiliary Bishop) ท่านจะส่ง 3 รายชื่อที่เห็นว่าเหมาะสมไปยังสันตะสำนักเช่นเดียวกัน (มาตรา 377.4)
พระสังฆราชประมุขสังฆมณฑล (Diocesan Bishops)
พระสงฆ์องค์หนึ่งเมื่อได้รับแต่งตั้งเป็นพระสังฆราชประมุขสังฆมณฑล จะต้องได้รับการอภิเษกเป็นพระสังฆราช (เว้นแต่ท่านได้เป็นพระสังฆราชอยู่แล้ว) แล้วนั้นจะต้องขึ้นครองตำแหน่ง แล้วพระสังฆราชองค์ใหม่จึงสามารถบริหารอำนาจของท่านในสังฆมณฑลได้ (มาตรา 375, 382)
พระสังฆราชประมุขสังฆมณฑลได้รับมอบอำนาจอย่างมากมาย เพราะท่านมีขอบเขตความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ อำนาจของท่านอาจแบ่งได้ดังนี้
1.อำนาจปกติ (ordinary) เป็นอำนาจที่ติดอยู่กับตำแหน่งหน้าที่พระสังฆราช
2.อำนาจเฉพาะ (proper) เป็นอำนาจที่ท่านบริหารได้ด้วยตัวท่านเอง ไม่ผ่านทางผู้ช่วย
3.อำนาจโดยตรง (immediate) เป็นอำนาจตรงที่ท่านสามารถมีไปยังทุกๆ คนในสังฆมณฑล
อำนาจต่างๆ เหล่านี้จะเอื้ออำนวยให้การทำงานในตำแหน่งหน้าที่การอภิบาลของท่านสำเร็จ ลุล่วงไปได้ด้วยดี แต่มีข้อจำกัดอยู่ด้วยคือ ยกเว้นกรณีที่ตัวบทกฎหมายก็ดี หรือตามทฤษฎีก็ดี สงวนเรื่องเหล่านั้นไว้กับผู้ที่มีอำนาจสูงกว่า (มาตรา 381.1) อย่างไรก็ตาม อำนาจต่างๆ ที่กล่าวมานี้ พระสังฆราชกระทำในฐานะเป็นผู้แทนพระคริสต์ (Vicar of Christ) มิใช่ในฐานะเป็นผู้แทนของพระสันตะปาปา (not as the Vicar of the Pope) ทั้งนี้เพราะถือกันว่าบรรดาพระสังฆราชคือผู้สืบตำแหน่งจากบรรดาอัครสาวกของพระเยซูคริสต์นั่นเอง
ในบรรดางานอภิบาลตามตำแหน่งหน้าที่ของพระสังฆราชประมุขสังฆมณฑลนั้น กฎหมายพระศาสนจักรได้กำหนดหน้าที่รับผิดชอบหลักๆ ดังนี้
1.ในฐานะเป็นนายชุมพา (Pastor)
พระสังฆราชต้องเอาใจใส่ดูแลทุกคนที่อยู่ในเขตแดนสังฆมณฑลของท่าน ไม่จำกัดเรื่องอายุ เชื้อชาติ ศาสนา หรือจารีต (มาตรา 383) นอกจากนี้ท่านยังต้องเอาใจใส่เป็นพิเศษต่อบรรดาพระสงฆ์ของสังฆมณฑล คณะสงฆ์เป็นผู้ช่วยของท่านในงานศาสนบริการ ดังนั้นท่านต้องดูแลพวกเขา ฟังเสียงแนะนำของพวกเขา และส่งเสริมให้พวกเขาทำหน้าที่อย่างครบครัน (มาตรา 384)
2.ในฐานะเป็นอาจารย์ (Teacher)
พระสังฆราชประมุขสังฆมณฑลจะต้องนำความจริงแห่งข้อความเชื่อมาบอกและอธิบายแก่บรรดาคริสตชน ท่านต้องเทศน์เองบ่อยๆ และต้องสอดส่องดูแลงานศาสนบริการด้านพระวาจาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการเทศน์สอนที่อยู่ในพิธีกรรมรวมไปถึงการสอนคำสอนด้วยความเอาใจใส่ของท่าน ในเรื่องนี้ต้องเกี่ยวข้องไปถึงความครบครันแห่งความเชื่อ และอิสรภาพของบรรดาผู้ศึกษาข้อความจริงเหล่านี้ด้วย (มาตรา 386, 756.2, 763, 755.1, 802, 806)
3.ในฐานะเป็นผู้บันดาลความศักดิ์สิทธิ์ (Sanctifier)
พระสังฆราชต้องเป็นผู้ส่งเสริมให้เกิดความศักดิ์สิทธิ์ในหมู่คริสตชน ตามกระแสเรียกของแต่ละคน ท่านต้องเป็นแบบอย่างในเรื่องความรัก ความสุภาพและความเรียบง่ายของชีวิต ท่านเป็นผู้แจกจ่ายธรรมล้ำลึกของพระเป็นเจ้าเป็นอันดับแรก เป็นผู้สนับสนุนและคุ้มกันชีวิตทางพิธีกรรมของสังฆมณฑล ท่านต้องช่วยให้คริสตชนเติบโตในพระหรรษทานโดยผ่านทางพิธีกรรมแห่งศีลศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ (มาตรา 387, 835.1) พระสังฆราชจึงต้องประกอบพิธีบูชามิสซาสำหรับประชาชนทุกวันอาทิตย์และวันศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ และท่านต้องเป็นประธานในพิธีบูชาศีลมหาสนิทบ่อยๆ ในอาสนวิหาร หรือในวัดอื่นๆ ของสังฆมณฑล (มาตรา 388, 389)
4.ในฐานะที่เป็นผู้ปกครอง (Ruler)
พระสังฆราชเป็นเจ้าของอำนาจนิติบัญญัติ (legislative) อำนาจบริหาร (judicial) ซึ่งจำเป็นสำหรับการปกครองสังฆมณฑล (มาตรา 391.1) อำนาจทั้งสามนี้รวมอยู่เบ็ดเสร็จในตัวท่าน ทั้งนี้เพราะในพระศาสนจักรคาทอลิกไม่มีการแบ่งแยกอำนาจขาดจากกัน อย่างไรก็ตาม พระสังฆราชสามารถ่ายทอดอำนาจส่วนใหญ่ได้ เช่น แม้ว่าท่านไม่อาจถ่ายทอดอำนาจนิติบัญญัติให้ผู้อื่น แต่ท่านสามารถแต่งตั้งผู้ช่วย ช่วยงานด้านบริหารกับด้านตุลาการได้ (มาตรา 391.2) พระสังฆราชต้องส่งเสริมให้ถือวินัยรวมๆ ของพระศาสนจักรและคอยป้องกันมิให้ใช้ไปในทางที่ผิด โดยเฉพาะในเรื่องที่เกี่ยวพันกับการประกาศเทศน์สอน การนมัสการพระ และการบริหารศาสนสมบัติ (มาตรา 392)
พระสังฆราชต้องเป็นตัวแทนของสังฆมณฑลในเรื่องนิติกรรมต่างๆ เพราะสังฆมณฑลมีฐานะเป็นนิติบุคคล (มาตรา 393) ความนบนอบของบรรดาศาสนบริกรของสังฆมณฑลที่ได้รับศีลบวช เป็นสิ่งที่ทำให้อำนาจปกครองของท่านเป็นไปได้ง่ายขึ้น (เทียบมาตรา 273, 274)
นอกเหนือจากความรับผิดชอบต่างๆ ที่กล่าวมาแล้ว พระสังฆราชประมุขสังฆมณฑลจะต้องเป็นผู้ประสานงานแพร่ธรรมหลากหลายของสังฆมณฑล และต้องบริหารทรัพย์สินอย่างดี ท่านต้องส่งเสริมกิจกรรมแพร่ธรรมต่างๆ เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล องค์กรต่างๆ ที่ช่วยเหลือสังคม การประกาศเผยแพร่พระวรสาร ฯลฯ และจะต้องกระตุ้นให้คริสตชนเข้ามามีส่วนในงานแพร่ธรรมเหล่านี้ และช่วยเหลือพวกเขาด้วย (มาตรา 394, 678.1, 782) พระสังฆราชต้องรับผิดชอบไม่เพียงเฉพาะกองทุนต่างๆ ที่ดิน และสิ่งก่อสร้างที่เป็นของสังฆมณฑลเท่านั้น แต่ท่านต้องสอดส่องดูแลทรัพย์สมบัติของนิติบุคคลต่างๆ ที่ขึ้นอยู่กับอำนาจของท่าน เช่น วัดต่างๆ ที่ตั้งอยู่ภายในสังฆมณฑล (มาตรา 1276, 1278)
พระสังฆราชยังมีหน้าที่อีก 3 ประการ ซึ่งเป็นหน้าที่ที่สืบทอดมาเป็นเวลายาวนาน กล่าวคือ
1.ท่านจะต้องอาศัยอยู่ในสังฆมณฑลของท่านอย่างน้อยปีหนึ่งต้องอยู่ในสังฆมณฑล 11 เดือน ในช่วงเวลาที่อยู่นี้จะได้เอาใจใส่งานศาสนบริการของท่านอย่างแข็งขัน
2.ท่านต้องไปเยี่ยมวัดและสถาบันต่างๆ ในสังฆมณฑล ถ้าสามารถทำได้ในแต่ละปีควรไปเยี่ยมทั้งหมด (มาตรา 396-398) การไปเยี่ยมนี้เป็นโอกาสให้ท่านได้รับฟังประชาชน และสามารถประเมินสถานะของคณะต่างๆ รวมทั้งศาสนบริการของพวกเขาด้วย
3.ท่านต้องรายงานสถานะของสังฆมณฑลต่อสมเด็จพระสันตะปาปา ทุกๆ 5 ปี การรายงานนี้ต้องทำแบบเอาจริงเอาจัง มีรายละเอียดในเรื่องต่างๆ ของสังฆมณฑล รวมถึงการไปเข้าเฝ้าสมเด็จพระสันตะปาปาด้วยตัวท่านเองด้วย (มาตรา 399-400)
พระสังฆราชจะครบเกษียณอายุเมื่อครบ 75 ปี บริบูรณ์ หรือเมื่อท่านไม่สามารถทำหน้าที่ให้สำเร็จลุล่วงได้อีกต่อไป ในทั้งสองกรณีนี้ ท่านจะต้องส่งมอบจดหมายลาออกจากตำแหน่งแด่สมเด็จพระสันตะปาปา (มาตรา 401)
พระสังฆราชเกษียณอายุมีสิทธิ์จะอาศัยอยู่ในสังฆมณฑล และจะได้รับการค้ำจุนที่เหมาะสม (มาตรา 402)
อันที่จริง ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้มุ่งแสดงถึงความรับผิดชอบและภาระหน้าที่ของพระสังฆราชภายในสังฆมณฑลของท่านเป็นส่วนใหญ่ ต่อไปนี้อยากจะให้เห็นอีกมิติหนึ่งที่เป็นความรับผิดชอบขั้นสูงกว่าของบรรดาพระสังฆราช เพราะพวกท่านต่างก็เป็นสมาชิกในคณะพระสังฆราช ซึ่งก็มีภาระหน้าที่ต้องรับผิดชอบต่อพระศาสนจักรสากล (Universal Church) อีกด้วย จึงจำเป็นที่จะต้องเข้าใจเรื่องของคณะพระสังฆราช และสมัชชาพระสังฆราชเพื่อความเข้าใจที่กว้างขวางยิ่งขึ้น
คณะพระสังฆราช (College of Bishops)
คณะพระสังฆราชซึ่งถือว่าเป็นองค์กรที่สืบทอดมาจากคณะอัครสาวก ก็ถือว่าเป็นเจ้าของอำนาจสูงสุดและอำนาจเต็มเปี่ยมในพระศาสนจักรสากลด้วย (มาตรา 336) ซึ่งกหมายความว่าคณะพระสังฆราชมีอำนาจทั้งในด้านกฎหมาย และด้านศีลธรรม ตลอดจนความพยายามในด้านอภิบาลอย่างเต็มที่ในพระศาสนจักร คณะพระสังฆราชเป็นเครื่องบ่งชี้ที่ดีที่สุดถึงความเป็นสหพันธ์ (Communion) พระศาสนจักรท้องถิ่นต่างๆ ซึ่งประกอบกันขึ้นเป็นพระศาสนจักรสากล คณะพระสังฆราชเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้ด้วยพันธะอันแข็งแกร่งแห่งความเชื่อ ความรัก ศีลศักดิ์สิทธิ์ และระเบียบ ซึ่งผูกพันพระศาสนจักรคาทอลิกเข้าไว้ด้วยกัน
บรรดาพระสังฆราชต่างก็เข้ามาเป็นสมาชิกในคณะพระสังฆราช ในขณะที่ท่านได้รับการอภิเษก ซึ่งทำให้พวกท่านได้รับศีลบวชอันศักดิ์สิทธิ์อย่างครบบริบูรณ์ และโดยที่พวกท่านร่วมสหพันธ์เดียวกันกับบรรดาสมาชิกท่านอื่นๆ และกับพระสันตะปาปา (มาตรา 336) พระสังฆราชแห่งกรุงโรมก็เป็นสมาชิกองค์หนึ่งของคณะนี้ แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นหัวหน้าเป็นศูนย์กลางการประสานงาน
คณะพระสังฆราชประกอบกันขึ้นมีอำนาจสูงสุดในการประกาศเทศน์สอนของพระศาสนจักร ซึ่งในภาษาไทยของเราใช้คำว่า “พระอาจาริยานุภาพ” (Magisterium) คณะพระสังฆราชมีหน้าที่ประกาศเทศน์สอนพระวรสารต่อพระศาสนจักรสากล (มาตรา 756) และยังเป็นเจ้าของอำนาจการสั่งสอนที่ไม่ผิดพลั้ง ทั้งขณะที่พวกท่านกระจัดกระจายอยู่ทั่วโลก ตราบเท่าที่บรรดาสมาชิกทั้งหมดตกลงร่วมกันว่า อะไรถูกกำหนดให้เป็นข้อความเชื่อแท้จริงที่ต้องถือตาม (มาตรา 749.2) และแม้ว่าไม่ใช่การกำหนดเรื่องข้อความเชื่อ ก็ยังถือว่าคณะพระสังฆราชมีอำนาจในการประกาศเทศน์สอนที่ถูกต้องถ่องแท้ (มาตรา 752)
กฤษฎีกาและธรรมนูญต่างๆ ที่ออกมาโดยคณะพระสังฆราช (เช่น กฤษฎีกาและธรรมนูญต่างๆ ของสภาสังคายนาวาติกันที่ 2) จะต้องได้รับการปฏิบัติตามโดยคริสตชนทุกๆ คน (มาตรา 754) คณะพระสังฆราชยังต้องช่วยส่งเสริม และนำแนวทางการมีส่วนร่วมของชาวคาทอลิกในขบวนการ ศาสนสัมพันธ์ ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อรื้อฟื้นเอกภาพขึ้นในหมู่คริสตชน (มาตรา 755.1) อีกทั้งยังต้องรับผิดชอบในการนำแนวทาง และประสานงานธรรมทูตของพระศาสนจักร ซึ่งถือว่างานนี้เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติของพระศาสนจักรเอง (มาตรา 781, 782.1)
คณะพระสังฆราชบริหารอำนาจเหนือพระศาสนจักรสากลในรูปแบบที่สง่า ในการประชุมสภาสังคายนาสากล และเมื่อสมาชิกที่แม้ว่ากระจัดกระจายอยู่ทั่วโลก แต่ได้ทำกิจการที่เป็นหนึ่งเดียวกันซึ่งกิจการนี้ได้ถูกประกาศหรือได้รับการยอมรับจากพระสันตะปาปา ก็ถือว่าได้บริหารอำนาจเดียวกัน (มาตรา 337)
สภาสังคายนาต่างๆ ไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยๆ ตลอดจนกระแสประวัติศาสตร์เพิ่งจะมีสภาสังคายนาสากลทั้งหมด 21 ครั้งเท่านั้น โดยเฉพาะขณะนี้คณะพระสังฆราชมีสมาชิกมากกว่า 3,000 องค์ การจะมารวมกันในสภาเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยุ่งยาก และต้องใช้จ่ายเงินเป็นจำนวนไม่น้อย อย่างไรก็ตามสภาสังคายนาสากลก็เป็นสัญลักษณ์ที่เห็นได้ชัดแจ้งถึงความเป็นเอกภาพและสากลของพระศาสนจักรและเป็นจุดเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดในการเดินทางของพระศาสนจักรตลอดกระแสประวัติศาสตร์
สมาชิกทุกๆ คนของคณะพระสังฆราช มีสิทธิ์และหน้าที่ที่จะเข้าร่วมในสภาสังคายนาสากลทั่วไปเช่นว่านี้ (มาตรา 339.1) โดยทางกฎหมายแล้ว พระสันตะปาปาทรงควบคุมเหนือสภาฯ เกือบจะโดยสิ้นเชิง เช่นว่า พระองค์ผู้เดียวสามารถเรียกประชุมสภาฯ ทรงเป็นประธานในการประชุม พระองค์ผู้เดียวทรงสามารถพักการประชุมไว้หรือล้มเลิกไปเลย และพระองค์เป็นผู้รับรองกฤษฎีกาของสภาฯ (มาตรา 338-341) แต่สภาฯ เองบางครั้งก็เกิดขึ้นเหมือนกับมีพลังชีวิตของตนเอง ภายใต้การดลใจของพระจิตเจ้าและผลที่ออกมาก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นสิ่งที่ทำนายล่วงหน้าหรือวางโปรแกรมไว้ล่วงหน้าได้
สมัชชาพระสังฆราช (Synod of Bishops)
คำว่า “สมัชชา” ซึ่งภาษาอังกฤษใช้คำว่า “synod” เป็นคำที่มาจากภาษากรีกว่า “synodos” หมายความว่า มารวมกัน มาประชุมกัน ในพระศาสนจักรตั้งแต่สมัยเริ่มแรกมักจะใช้คำที่มีความหมายถึงพวกระดับหัวหน้าๆ ในพระศาสนจักรมารวมกัน หรือมาประชุมกัน 2 คำด้วยกัน คือคำว่า “synod” กับคำว่า “council”
การประชุมสมัชชาพระสังฆราชระหว่างชาติก็คือ การที่พระสังฆราชตัวแทนจากพระสังฆราชทั้งหมดทั่วโลกมาประชุมกัน ซึ่งต่างจากการประชุมสภาสังคายนาสากลที่พระสังฆราชทุกองค์ทั่วโลกต้องมาประชุมกัน แต่นี่มาเฉพาะตัวแทนเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะได้รับการเลือกจากสภาพระสังฆราชของประเทศต่างๆ ทั่วโลก ให้มาเป็นตัวแทนเข้าร่วมประชุม การประชุมสมัชชาส่วนมากที่จัดขึ้นมาตั้งแต่สภาสังคายนาวาติกันที่ 2 จะประกอบด้วยจำนวนพระสังฆราชประมาณ 200 องค์ (รวมทั้งอธิการคณะนักบวชอีกประมาณ 10 ท่าน) การประชุมนั้นจัดขึ้นที่กรุงโรมทุกๆ 3 ปี ระยะเวลาการประชุมแต่ละครั้งประมาณ 3-4 สัปดาห์ แต่ละครั้งก็มีหัวข้อเฉพาะแตกต่างกันไป เช่น การประกาศเผยแพร่พระวรสาร คำสอน ครอบครัว การคืนดี ฆราวาส และพระสงฆ์ เป็นต้น
ในประมวลกฎหมายพระศาสนจักรได้ระบุว่า สมัชชาพระสังฆราชมีจุดหมาย 3 ประการ ด้วยกัน กล่าวคือ
1.เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างพระสันตะปาปากับบรรดาพระสังฆราชให้ใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น
2.เพื่อให้คำแนะนำแด่พระสันตะปาปาในเรื่องที่เกี่ยวกับความเชื่อ ศีลธรรม และระเบียบวินัยของพระศาสนจักร
3.เพื่อพิจารณาดูกิจกรรมต่างๆ ของพระศาสนจักรในโลกนี้ (มาตรา 342)
สมัชชาพระสังฆราชในสมัยปัจจุบันไม่ใช่เป็นเรื่องใหม่ แต่อันที่จริงเป็นการรื้อฟื้นการปฏิบัติที่เก่าแก่ในพระศาสนจักร ซึ่งในสมัยนั้นมักจะมีบรรดาพระสังฆราชมาประชุมกันโดยสมัครใจ ซึ่งมีแบบแผนมาจากการประชุมสภาสังคายนาแห่งกรุงเยรูซาแลม ที่เล่าไว้ในหนังสือกิจการอัครสาวกบทที่ 15 แต่ต่อมาตำแหน่งหน้าที่ของพระสันตะปาปามีอำนาจมากขึ้นเรื่อยๆ และในเวลาเดียวกันการประชุมสมัชชาค่อยๆ ลดลงจนหมดไป จนกระทั่งสภาสังคายนาวาติกันที่ 2 รื้อฟื้นขึ้นมาใหม่เพราะว่าทั้งพระสันตะปาปา และบรรดาพระสังฆราชเห็นพ้องต้องกันถึงคุณค่าของการประชุมบ่อยๆ ของกลุ่มย่อยที่ไม่จำเป็นต้องใหญ่ เช่นการประชุมสภาสังคายนาสากล
อย่างไรก็ตามสมัชชาพระสังฆราชนี้ แม้จะเห็นได้ชัดว่าพระสังฆราชผู้เป็นตัวแทนได้รับคัดเลือกมาจากสภาพระสังฆราชทั่วโลก แต่ก็ไม่ได้กระทำในแบบมีอำนาจเต็มและสูงสุดตามแบบที่คณะพระสังฆราชมี โดยปกติแล้วทำหน้าที่ในการพิจารณาตามหัวข้อเรื่องและเสนอความคิดเห็นเท่านั้น ไม่ถึงขั้นของการตัดสินปัญหาและออกกฤษฎีกาต่างๆ จริงอยู่พระสันตะปาปาอาจจะทรงขอให้สมัชชาตัดสินเรื่องนั้นๆ โดยมีอำนาจก็ย่อมได้ (มาตรา 343) แต่จนถึงปัจจุบันนี้ยังไม่ทรงเคยขอเช่นนั้น ภาพของสมัชชาที่ ปรากฏชัดก็คือ เป็นผู้ให้คำปรึกษาแด่พระสันตะปาปา
ตามข้อเท็จจริงแล้ว สมัชชาอยู่ภายใต้การควบคุมของพระสันตะปาปาโดยสิ้นเชิง พระองค์ทรงเป็นผู้เรียกประชุม ทรงรับรองรายชื่อพระสังฆราชผู้เป็นตัวแทนร่วมประชุม ทรงเลือกหัวข้อประชุม ทรงเป็นประธานในการประชุม หรือทรงล้มเลิกการประชุมก็ได้ (มาตรา 344)
สมัชชายังแบ่งออกเป็นหลายๆ รูปแบบ เช่น แบบทั่วไปหรือแบบพิเศษ แบบสามัญหรือแบบวิสามัญ รวมทั้งแบบ “รวม” ที่เลือกสมาชิกมาจากหลายๆ แบบที่กล่าวมาข้างต้นก็ได้ (มาตรา 345-346) ในการประชุมมักจะรวมพวกหัวหน้าสำนักงานต่างๆ ของสันตะสำนักที่อยู่ที่ส่วนกลางเข้าไว้ด้วย สมัชชาพระสังฆราชมีสำนักเลขานุการถาวร ซึ่งมีเลขาธิการและสภาของบรรดาพระสังฆราช ทำงานอยู่ภานในขอบเขตจำกัดที่เป็นหน้าที่ในระหว่างประชุมสมัชชานั้นๆ (มาตรา 348) ยังมีรายละเอียดอีกพอสมควรที่จะหาอ่านเพิ่มเติมได้ แต่ไม่ขอนำมากล่าวไว้ที่นี้
ที่เขียนเกี่ยวกับพระสังฆราชคาทอลิกในที่นี้ก็เพื่อพี่น้องจะได้เข้าใจ และร่วมแสดงความยินดีต่อพระคุณเจ้าพระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู อันเป็นที่รัก และเคารพของชาวเรา ทั้งในฐานะพระอัครสังฆราช และบิดาที่รักยิ่งของลูกๆ
(คัดมาจากหนังสือ “บิดาของเรา” พระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู, ปีที่พิมพ์ 1998)
--------------------------------
ปฏิทินเดือนเมษายน ปี 2016
ปฏิทินเดือนพฤษภาคม ปี 2016
Mon |
Tue |
Wed |
Thu |
Fri |
Sat |
Sun |
|
|
|
|
|
|
1 อาทิตย์ที่ 6 เทศกาลปัสกา ( วันแรงงานแห่งชาติ ) |
2 ระลึกถึงน.อาทานาส พระสังฆราชและนักปราชญ์ |
3 ฉลองน.ฟิลิป และ น.ยากอบ อัครสาวก |
4 สัปดาห์ที่ 6 เทศกาลปัสกา |
5 สัปดาห์ที่ 6 เทศกาลปัสกา ( วันฉัตรมงคล ) |
6 สัปดาห์ที่ 6 เทศกาลปัสกา ( วันศุกร์ต้นเดือน ) |
7 สัปดาห์ที่ 6 เทศกาลปัสกา |
8 สมโภชพระเยซูเจ้าเสด็จขึ้นสวรรค์ |
9 สัปดาห์ที่ 7 เทศกาลปัสกา |
10 สัปดาห์ที่ 7 เทศกาลปัสกา |
11 สัปดาห์ที่ 7 เทศกาลปัสกา |
12น.เนเรโอ อาคิลเลโอ และ เพื่อนมรณสักขี น.ปันกราส มรณสักขี |
13 พระนางมารีย์พรหมจารีแห่งฟาติมา |
14 ฉลอง น.มัทธีอัส อัครสาวก |
15 สมโภชพระจิตเจ้า |
16 สัปดาห์ที่ 7 เทศกาลธรรมดา |
17 สัปดาห์ที่ 7 เทศกาลธรรมดา |
18 น.ยอห์นที่ 1 พระสันตะปาปาและมรณสักขี |
19 สัปดาห์ที่ 7 เทศกาลธรรมดา |
20 น.เบอร์นาดิน แห่งซีเอนา พระสงฆ์ ( วันวิสาขบูชา ) |
21 น. คริสโตเฟอร์ มักอัลลาเนส และเพื่อนมรณสักขี |
22 สมโภชพระตรีเอกภาพ |
23 สัปดาห์ที่ 8 เทศกาลธรรมดา |
24 สัปดาห์ที่ 8 เทศกาลธรรมดา |
25 น.เกรโกรี่ที่ 7 พระสันตะปาปา น.เบดา พระสงฆ์และนักปราชญ์แห่งพระศาสนจักร น.มารีย์ มักดาเลนา เด ปัสซี พรหมจารี |
26 ระลึกถึง น.ฟิลิป เนรี พระสงฆ์ |
27 น.ออกัสติน แห่งแคนเตอร์เบอรี พระสังฆราช |
28 สัปดาห์ที่ 8 เทศกาลธรรมดา |
29 สมโ๓ชพระวรกายและพระโลหิตพระคริสตเจ้า |
30 สัปดาห์ที่ 9 เทศกาลธรรมดา |
31 ฉลองพระนางมารีย์เสด็จเยี่ยมเยียน ( วันงดสูบบุหรี่โลก ) |
|
|
|
|
|
ปฏิทินเดือนมิถุนายน ปี 2016
Mon |
Tue |
Wed |
Thu |
Fri |
Sat |
Sun |
|
|
1 ระลึกถึงน.ยุสติน มรณสักขี |
2 น.มาร์แชลลิน และ น.เปโตร มรณสักขี |
3 สมโภชพระหฤทัยของพระเยซูเจ้า ( วันศุกร์ต้นเดือน ) |
4 ระลึกถึงดวงหทัยของพระแม่มารีย์ |
5 อาทิตย์ที่ 10 เทศกาลธรรมดา ( วันสิ่งแวดล้อมโลก ) |
6 น.นอร์เบิร์ต พระสังฆราช |
7 สัปดาห์ที่ 10 เทศกาลธรรมดา |
8 สัปดาห์ที่ 10 เทศกาลธรรมดา |
9 น.เอเฟรม สังฆานุกรและ นักปราชญ์ |
10 สัปดาห์ที่ 10 เทศกาลธรรมดา |
11 ระลึกถึง น.บาร์นาบัส อัครสาวก |
12 อาทิตย์ที่ 11 เทศกาลธรรมดา |
13 ระลึกถึง น.อันตนแห่งปาดัว พระสงฆ์และนักปราชญ์ |
14 สัปดาห์ที่ 11 เทศกาลธรรมดา |
15 สัปดาห์ที่ 11 เทศกาลธรรมดา |
16 สัปดาห์ที่ 11 เทศกาลธรรมดา |
17 สัปดาห์ที่ 11 เทศกาลธรรมดา |
18 สัปดาห์ที่ 11 เทศกาลธรรมดา |
19 อาทิตย์ที่ 12 เทศกาลธรรมดา |
20 สัปดาห์ที่ 12 เทศกาล |
21 ระลึกถึงน.หลุยส์ คอนซากา นักบวช |
22 น.เปาลิน แห่งโนลา พระสังฆราช น.ยอห์น พิชเชอร์ และ โทมัส โมร์ มรณสักขี |
23 สัปดาห์ที่ 12 เทศกาลธรรมดา |
24 สมโภช น.ยอห์น แบปติสต์ บังเกิด |
25 สัปดาห์ที่ 12 เทศกาลธรรมดา |
26 อาทิตย์ที่ 13 เทศกาลธรรมดา ( วันต่อต้านยาเสพติด ) |
27 น.ซีริล แห่งอเล็กซันเดรีย พระสังฆราชและนักปราชญ์พระศาสนจักร |
28 ระลึกถึง น.อีเรเนโอ พระสังฆราชและมรณสักขึ |
29 สัปดาห์ที่ 13 เทศกาลธรรมดา ( วันสมโภช น.เปโตร และ เปาโล อัครสาวก ) เลื่อนไปสมโภช วันอาทิตย์ที่ 3 กรกฎาคม |
30 น.ปฐมมรณสักขี แห่งพระศาสนจักรกรุงโรม |
|
|
|
ปฏิทินเดือนกรกฎาคม ปี 2016
Mon |
Tue |
Wed |
Thu |
Fri |
Sat |
Sun |
|
|
|
|
1 สัปดาห์ที่ 13 เทศกาลธรรมดา ( วันศุกร์ต้นเดือน ) |
2 สัปดาห์ที่ 13 เทศกาลธรรมดา |
3 สมโภชน.เปโตร และ เปาโล อัครสาวก |
4 น.เอลีซาเบธ ราชินีแห่งโปรตุเกส |
5 น.อันตน มารีย์ ซักกาเรีย พระสงฆ์ |
6 น.มารีย์กอแรตตี พรหมจารี และ มรณสักขี |
7 สัปดาห์ที่ 14 เทศกาลธรรมดา |
8 สัปดาห์ที่ 14 เทศกาลธรรมดา |
9 น.ออกัสติน เซา รง และเพื่อนมรณสักขีชาวจีน |
10 อาทิตย์ที่ 15 เทศกาลธรรมดา |
11 ระลึก น.เบเนดิกต์ เจ้าอธิการ ( วันประชากรโลก ) |
12 สัปดาห์ที่ 156 เทศกาลธรรมดา |
13 น.เฮนรี่ |
14 น.คามิลโล เด เลลลิส พระสงฆ์ |
15 ระลึกถึง น.บอนาแวนตูรา พระสังฆราชและนักปราชญ์แห่งพระศาสนจักร |
16 พระนางมารีย์พรหมจารีแห่งภูเขาคาร์แมล |
17 อาทิตย์ที่ 16 เทศกาลธรรมดา |
18 สัปดาห์ที่ 16 เทศกาลธรรมดา |
19 สัปดาห์ที่ 16 เทศกาลธรรมดา |
20 น.อโพลินาริส พระสังฆราช และ มรณสักขี ( วันเข้าพรรษา ) |
21 น.ลอเรนซ์ แห่งบรินดิซี พระสงฆ์และ นักปราชญ์ |
22 ระลึกถึง น.มารีย์ ชาวมักดาลา |
23 น.บรียิต นักบวช |
24 อาทิตย์ที่ 17 เทศกาลธรรมดา |
25 ฉลอง น.ยากอบ อัครสาวก |
26 ระลึกถึง น.โยอากิม และ อันนา ( บิดามารดาของพระนางมารีย์พรหมจารี ) |
27 สัปดาห์ที่ 17 เทศกาลธรรมดา |
28 สัปดาห์ที่ 17 เทศกาลธรรมดา |
29 ระลึกถึง น.มาร์ธา |
30 น.เปโตร คริโลโลโก พระสังฆราชและนักปราชญ์ |
31 อาทิตย์ที่ 18 เทศกาลธรรมดา |
ปฏิทินกิจกรรมเดือนสิงหาคม ปี 2016
Mon |
Tue |
Wed |
Thu |
Fri |
Sat |
Sun |
1 ระลึกถึง น.อัลฟองโซ มารีย์ เด ลิกวอรี พระสฆังชราช และ นักปราชญ์แห่งพระศาสนจักร |
2 น.เอวเซบิโอ แห่งแวร์แชลลี พระสังฆราช น.เปโตร ยูเลียน ไรม์ต พระสงฆ์ |
3 สัปดาห์ที่ 18 เทศกาลธรรมดา |
4 ระลึกถึง น.ยอห์น มารีย์ เวียนเนย์ พระสงฆ์ |
5 วันถวายพระวิหารแม่พระแห่งหิมะ ( วันศุกร์ต้นเดือน ) |
6 ฉลพงพระเยซูเจ้าทรงประจักษ์พระวรกาย ต่อหน้าอัครสาวก |
7 อาทิตย์ที่ 19 เทศกาลธรรมดา ( วันสื่อมวลชนสากล ) |
8 ระลึกถึง น.โดมินิก พระสงฆ์ |
9 น.เทเรซา เบเนติกตาแห่งไม้กางเขน พรหมจารีและมรณสักขี |
10 ฉลองน.ลอเรนซ์ สังฆานุกรและ มรณสักขี |
11 ระลึกถึง น.กลารา พรหมจารี |
12 น.ฌาน ฟรังซังส์ เดอ ซังตาล นักบวช |
13 น.ปอนซีอาโน พระสันตะปาปาป และ น.ฮิปโปลิต พระสงฆ์ และ มรณสักขี |
14 อาทิตย์ที่ 20 เทศกาลธรรมดา |
15 สัปดาห์ที่ 20 เทศกาลธรรมดา ( สมโภชพระนางมารีย์รับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ เลื่อนไปสมโภชวันที่ 21 สิงหาคม ) |
16 น.สเตเฟนแห่งประเทศ ฮังการี |
17 สัปดาห์ที่ 20 เทศกาลธรรมดา |
18 สัปดาห์ที่ 20 เทศกาลธรรมดา |
19 น.ยอห์น เอิ๊ด พระสงฆ์ |
20 ระลึกถึง น.เบอร์นาร์ต เจ้าอธิการและ นักปราชญ์แห่งพระศาสนจักร |
21 สมโภชพระนางมารีย์รับเกียติเข้าสู่สวรรค์ ทั้งกายและวิญญาณ |
22 ระลึกถึง พระนามารีย์ราชินีแห่งสากลโลก |
23 น.โรซา ชาวลีมา พรหมจารี |
24 ฉลอง น.บาร์โธโลมิว |
25 น.หลุยส์ กษัตริย์แห่งฝรั่งเศส น.โยเซฟ กาลาซานส์ พระสงฆ์ |
26 สัปดาห์ที่ 21 เทศกาลธรรมดา |
27 ระลึกถึง น.โมนิกา |
28 อาทิตย์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา |
29 ระลึกถึงน.ยอห์น แบปติสต์ ถูกตัดศีรษะ |
30 สัปดหา์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา |
31 สัปดหา์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา |
|
|
|
|
ปฏิทินเดือนกันยายน ปี 2016
Mon |
Tue |
Wed |
Thu |
Fri |
Sat |
Sun |
|
|
|
1 สัปดหา์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา |
2 สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา ( วันศุกร์ต้นเดือน ) |
3 ระลึก น.เกรโกรี พระสันตะปาปา และ นักปราชญ์แห่งพระศาสนจักร |
4 อาทิตย์ที่ 23 เทศกาลธรรมดา |
5 สัปดาห์ที่ 23 เทศกาลธรรมดา |
6 สัปดาห์ที่ 23 เทศกาลธรรมดา |
7 สัปดาห์ที่ 23 เทศกาลธรรมดา |
8 ฉลองแม่พระบังเกิด |
9 น.เปโตร คลาแวร์ พระสงฆ์ |
10 สัปดาห์ที่ 23 เทศกาลธรรมดา |
11 อาทิตย์ที่ 24 เทศกาลธรรมดา |
12 พระนามศักดิ์สิทธิ์ของพระนางมารีย์พรหมจารี |
13 ระลึกถึง น.ยอห์น ครีโซสตม พระสังฆราชและ นักปราชญ์ |
14 ฉลองเทิดทูนไม้กางเขน |
15 ระลึกถึงแม่่พระมหาทุกข์ |
16 ระลึกถึงน.คอร์เนเลียส พระสันตะปาปาและ น.ซีเปรียน พระสังฆราชและมรณสักขี |
17น.โรเบิร์ต แบลลาร์มีโน พระสังฆราชและนักปราชญ์แห่งพระศาสนจักร |
18 อาทิตย์ที่ 25 เทศกาลธรรมดา |
19 น.ยานูอารีโอ พระสังฆราชและมรณสักขี |
20 ระลึกถึง น.อันดรูว์ กิม เตก็อน พระสงฆ์ เปาโล จง ฮาซัง และเพื่อนมรณสักขีขาวเกาหลี ( วันเยาวชนแห่งชาติ ) |
21 ฉลอง น.มัทธิว อัครสาวกและ ผู้นิพนธ์พระวรสาร |
22 สัปดาห์ที่ 25 เทศกาลธรรมดา |
23 ระลึกถึง น.ปีโอแห่งปีเอเตรลชีนา พระสงฆ์ |
24 สัปดาห์ที่ 25 เทศกาลธรรมดา |
25 อาทิตย์ที่ 26 เทศกาลธรรมดา |
26 น.คอสมา และ น.ดาเมียน มรณสักขี |
27 ระลึกถึง น.วินเซนเดอปอล พระสงฆ์ |
28 น.แวนเชสเลาส์ มรณสักขี น.ลอเรนซ์ รุยส์ และเพื่อนมรณสักขี |
29 ฉลองอัครทูตสวรรค์ มีคาแอล คาเบรียล และ ราฟาแอล |
30 ระลึกถึง น.เยโรม พระสงฆ์และนักปราชญ์แห่งพระศาสนจักร |
|
|
ปฏิทินเดือนตุลาคม ปี 2016
Mon |
Tue |
Wed |
Thu |
Fri |
Sat |
Sun |
|
|
|
|
|
1 ฉลองน.เทเรซาแห่งพระกุมารเยซู พรหมจารี และ นักปราชญ์แห่งพระศาสนจักร |
2 อาทิตย์ที่ 27 เทศกาลธรรมดา |
3 สัปดาห์ที่ 27 เทศกาลธรรมดา |
4 ระลึกถึง น.ฟรังซิส แห่งอัสซีซี |
5 ระลึกถึง น.โฟสตีนา โควัลสกา |
6 น.บรูโน พระสงฆ์ |
7 ระลึกถึง แม่พระลูกประคำ (วันศุกร์ต้นเดือน ) |
8 สัปดาห์ที่ 27 เทศกาลธรรมดา |
9 อาทิตย์ที่ 28 เทศกาลธรรมดา |
10 สัปดาห์ที่ 28 เทศกาลธรรมดา |
11 น.ยอห์นที่ 23 พระสันตะปาปา |
12 สัปดาห์ที่ 28 เทศกาลธรรมดา |
13 สัปดาห์ที่ 28 เทศกาลธรรมดา |
14 น.กัลลิสตัส ที่ 1 พระสันตะปาปา และ มรณสักขี |
15 ระลึกถึง น.เทเรซาแห่งอาวีลา พรหมจารี และ นักปราชญ์แห่งพระศาสนจักร |
16 อาทิตย์ที่ 29 เทศกาลธรรมดา ( วันแพร่ธรรมสากล วันออกพรรษา ) |
17 ระลึกถึง น.อิกญาซีโอ ชาวอันติโอก พระสังฆราช และ มรณสักขี |
18 ฉลอง น.ลูกา ผู้นิพนธ์พระวรสาร |
19 น.เปาโลแห่งไม้กางเขน พระสงฆ น.ยอห์น แห่ง เบรเบิฟ น.อิสอัค โยเกอ พระสงฆ์และ เพื่อนมรณสักขี |
20 สัปดาห์ที่ 29 เทศกาลธรรมดา |
21 สัปดาห์ที่ 29 เทศกาลธรรมดา |
22 น.ยอห์น ปอลที่ 2 พระสันตะปาปา |
23 อาทิตย์ที่ 30 เทศกาลธรรมดา ( วันปิยมหาราช ) |
24 น.อันตน มารีย์ คลาเรต์ พระสังฆราช |
25 สัปดาห์ที่ 30 เทศกาลธรรมดา |
26 สัปดาห์ที่ 30 เทศกาลธรรมดา |
27 สัปดาห์ที่ 30 เทศกาลธรรมดา |
28 ฉลองน.ซีโมน และ น.ยูดาห์ อัครสาวก |
29 สัปดาห์ที่ 30 เทศกาลธรรมดา |
30 อาทิตย์ที่ 31 เทศกาลธรรมดา |
31 สัปดาห์ที่ 31 เทศกาลธรรมดา |
|
|
|
|
|
|
ปฏิทินเดือนพฤศจิกายน ปี 2016
Mon |
Tue |
Wed |
Thu |
Fri |
Sat |
Sun |
|
1 สัปดาห์ที่ 31 เทศกาลธรรมดา |
2วันภาวนาอุทิศแด่ผู้ล่วงลับ |
3 น.มาร์ติน เด ปอเรส นักบวช |
4 ระลึกถึง น.ชาร์ส์ โบโรเมโอ พระสังฆราช ( วันศุกร์ต้นเดือน ) |
5 สัปดาห์ที่ 31 เทศกาลธรรมดา |
6 สมโภชนักบุญทั้งหลาย |
7 สัปดาห์ที่ 32 เทศกาลธรรมดา |
8สัปดาห์ที่ 32 เทศกาลธรรมดา |
9 ฉลองวันครบรอบการถวายพระวิหารลาเตรัน |
10 ระลึกถึงน.เลโอ พระสันตะปาปา และ นักปราชญืแห่งพระศาสนจักร |
11 ระลึกถึง น.มาร์ติน แห่งตูร์ พระสังฆราช |
12 ระลึกถึง น.โยซาฟัต พระสังฆราชและมรณสักขี |
13 อาทิตย์ที่ 33 เทศกาลธรรมดา ( วันสิทธิมนุษยชน ) |
14 สัปดาห์ที่ 33 เทศกาลธรรมดา |
15 น.อัลเบิร์ต ผู้ยิ่งใหญ่ พระสังฆราช และ นักปราชญ์แห่งพระศาสนจักร |
16 น.มาร์กาเร็ต แห่งสก็อตแลนด์ น.เยอร์ทรู๊ด พรหมจารี |
17 ระลึกถึง น.เอลิซาเบธ แห่งฮังการี นักบวช |
18 วันครบรอบการถวายพระวิหาร นักบุญเปโตร และ เปาโล อัครสาวก |
19 สัปดาห์ที่ 33 เทศกาลธรรมดา |
20 สมโภชพระเยซูเจ้ากษัตริย์แห่งสากลจักรวาล ( วันกระแสเรียก ) |
21 ระลึกถึง น.เอลิซาเบธ แห่งฮังการี นักบวช |
22 ระลึกถึงน.เซซีลีอา พรหมจารีและมรณสักขี |
23 น.เคลเมนต์ ที่ 1 พระสันตะปาปา และ มรณสักขี น.โคลัมบัน เจ้าอธิการ |
24 ระลึกถึง น.อันดรูว์ ดุง-ลัก พระสงฆ์และเพื่อนมรณสักขี |
25 น.กาทารีนา แห่ง อเล็กซานเดรีย พรหมจารีและมรณสักขี |
26 สัปดาห์ที่ 34 เทศกาลธรรมดา |
27 อาทิตย์ที่ 1 เทศกาลเตรียมรับเสด็จฯ ( เริ่มต้นปีพิธีกรรม ปี A ) |
28 สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลเตรียมรับเสด็จฯ |
29 สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลเตรียมรับเสด็จฯ |
30 ฉลอง น.อันดรูว์ อัครสาวก |
|
|
|
|
ปฏิทินเดือนธันวาคม ปี 2016
Mon |
Tue |
Wed |
Thu |
Fri |
Sat |
Sun |
|
|
|
1 สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลเตรียมรับเสด็จฯ ( วันรณรงค์โรคเอดส์ ) |
2 สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลเตรียมรับเสด็จฯ ( วันศุกร์ต้นเดือน ) |
3 ฉลองน.ฟรังซิสเซเวียร์ พระสงฆ์ องค์อุปถัมภ์มิสซัง |
4 อาทิตย์ที่ 2 เทศกาลเตรียมรับเสด็จ ( พระคัมภีร์ ) |
5 สัปดาห์ที่ 2 เทศกาลเตรียมรับเสด็จฯ ( วันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ) |
6 น.นิโคลัส พระสังฆราช |
7 ระลึกถึง น.อัมโบรส พระสังฆราชและนักปราชญ์ |
8 สมโภชพระนางมารีย์ผู้ปฏิสนธินิรมล |
9 น.ฮวน ดีเอโก |
10 สัปดาห์ที่ 2 เทศกาลเตรียมรับเสด็จฯ( วันรัฐธรรมนูญ ) |
11 อาทิตย์ที่ 3 เทศกาลเตรียมรับเสด็จฯ |
12 พระนางมารีย์พรหมจารี แห่งกวาดาลูเป |
13 ระลึกถึง น.ลูเซีย พรหมจารี และ มรณสักขี |
14 ระลึกถึง น.ยอห์นแห่งไม้กางเขน นักปราชญ์แห่งพระศาสนจักร |
15 สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลเตรียมรับเสด็จฯ |
16 ระลึกถึง บุญราศีทั้งเจ็ดแห่งสองคอน ( วันครูคำสอนไทย ) |
17 สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลเตรียมรับเสด็จ |
18 อาทิตย์ที่ 4 เทศกาลเตรียมรับเสด็จฯ |
19 สัปดาห์ที่ 4 เทศกาลเตรียมรับเสด็จฯ |
20 สัปดาห์ที่ 4 เทศกาลเตรียมรับเสด็จฯ |
21 น.เ)ตร คานีซีอัส พระสงฆ์และนักปราชญ์แห่ง |
22 สัปดาห์ที่ 4 เทศกาลเตรียมรับเสด็จ |
23 น.ยอห์น แห่งเกตี้ พระสงฆ์ |
24 สัปดาห์ที่ 4 เทศกาลเตรียมรับเสด็จฯ |
25 สมโภชพระคริสตสมภพ |
26 ฉลองน.สเทเฟน ปฐมมรณสักขี |
27 ฉลอง น.ยอห์น อัครสาวก ผู้นิพนธ์พระวรสาร |
28 ฉลองนักบุญทารกผู้วิมล |
29 น.โทมัส เบ็กเก็ต พระสังฆราช และมรณสักขี |
30 ฉลองครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้า |
31 น.ซิลเวสเตอร์ที่ 1 พระสันตะปาปา ( วันเริ่มต้นเทศกาลปีใหม่ ) |
|
ปฏิทินเดือนมกราคม ปี 2017
Mon |
Tue |
Wed |
Thu |
Fri |
Sat |
Sun |
1 สัปดาห์ที่ 4 เทศกาลธรรมดา |
2 ฉลองการถวายพระกุมารในพระวิหาร ( เสกและแห่เทียน ) |
3 น.บลาซีโอ พระสังฆราชและมรณสักขี น.อันสการ์ พระสังฆราช |
4 สัปดาห์ที่ 4 เทศกาลธรรมดา |
5 ระลึกถึง น.อากาทา พรหมจารีและมรณสักขี ( วันศุกร์ต้นเดือน ) |
6 ระลึกถึง น.เปาโล มีกิ พระสงฆ์และเพือนมรณสักขี |
7 อาทิตย์ที่ 5 เทศกาลธรรมดา |
8 น.เยโรม เอมีลานี พระสงฆ์ น.โยเซผิน บาคีตา พรหมจารี |
9 สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลธรรมดา |
10 วันพุธรับเถ้า ( เริ่มเทศกาลมหาพรต ถือศีลอดอาหาร และ อดเนื้อ ) |
11 แม่พระประจักษ์ที่เมืองลูร์ด ( วันผู้ป่วยโลก ) |
12 หลังวันพุธรับเถ้า |
13 หลังวันพุธรับเถ้า |
14 อาทิตย์ที่ 1 เทศกาลมหาพรต |
15 สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลมหาพรต |
16 สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลมหาพรต |
17 นักบุญเจ็ดองค์ผู้ตั้งคณะผู้รับใช้พระแม่มารีย์ |
18 สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลมหาพรต |
19 สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลมหาพรต |
20 สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลมหาพรต |
21 อาทิตย์ที่ 2 เทศกาลมหาพรต |
22 ฉลองธรรมาสน์นักบุญเปโตร อัครสาวก ( วันมาฆบูชา ) |
23 ระลึกถึง น.โปลีการ์ป พระสังฆราชและมรณสักขี |
24 สัปดหา์ที่ 2 เทศกาลมหาพรต |
25 สัปดหา์ที่ 2 เทศกาลมหาพรต |
26 สัปดหา์ที่ 2 เทศกาลมหาพรต |
27 สัปดหา์ที่ 2 เทศกาลมหาพรต |
28 อาทิตย์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต |
29 สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต |
|
|
|
|
|
|