ที่มา จาก เว็บหอจดหมายเหตุ อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ  
                               โดย ...บาทหลวงสุรชัย  ชุ่มศรีพันธุ์

การก่อตั้งพระฐานานุกรมพระศาสนาจักรไทย

               ในสมัยพระสังฆราชหลุยส์ โชแรง (Louis Chorin 1947-1965) การแบ่งแยกการปกครองเช่นนี้ก็ยังคงมีอยู่ เพราะในปี ค.ศ. 1960 เขตปกครองทางเชียงใหม่ได้รับการยกขึ้นเป็นสังฆรักษ์ การทำงานแพร่ธรรมในสมัยนี้ดีขึ้นมาก เนื่องจากจำนวนมิชชันนารีและพระสงฆ์พื้นเมืองเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งคณะนักบวชต่างๆ ก็เข้ามาช่วยทำงานมากขึ้นด้วย

พระศาสนจักรในเมืองไทยเจริญรุ่งเรืองขึ้นมา เพราะอาศัยความร้อนรนและความขยันขันแข็งของบรรดาพระสังฆราชและบรรดามิชชันนารี รวมทั้งพระสงฆ์พื้นเมืองและนักบวชคณะต่างๆ มีแนวโน้มที่จะสามารถเจริญก้าวหน้าต่อไปได้อย่างดี สมณกระทรวงโปรปากันดา ฟีเด จึงตัดสินใจว่า ถึงเวลาแล้วที่ควรจะสถาปนาพระฐานานุกรมพระศาสนจักรในประเทศไทย ให้มีฐานะและศักดิ์ศรีเทียบเท่าพระศาสนจักรท้องถิ่นอื่นๆ ของประเทศต่างๆ ในยุโรป ด้วยความสนับสนุนของผู้แทนพระสันตะปาปาประจำประเทศไทย 2 องค์ ได้แก่ ฯพณฯ ยอห์น กอร์ดอน และ ฯพณฯ อันเยโล เปโดรนี สมเด็จพระสันตะปาปาเปาโล ที่ 6 ได้ทรงสถาปนาพระฐานานุกรม
               พระศาสนจักรในเมืองไทยเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 1965 โดยแบ่งแยกเขตปกครองออกเป็น 2 แขวงใหญ่ๆ (Ecclesiastical Provinces) ได้แก่ แขวงปกครองของกรุงเทพฯ และแขวงปกครองของ ท่าแร่-หนองแสง มีพระสังฆราชเป็นผู้ปกครองโดยตรง ซึ่งมีรายละเอียดพอจะสรุปได้ดังต่อไปนี้


    1.แขวงปกครองพระศาสนจักรแห่งกรุงเทพฯ ประกอบด้วย
    -อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ มี ฯพณฯ ยวง นิตโย เป็นอัครสังฆราช มีสังฆมณฑล 3 สังฆมณฑล อยู่ภายใต้แขวงปกครองนี้ ได้แก่


         1. สังฆมณฑลราชบุรี          2. สังฆมณฑลจันทบุรี            3. สังฆมณฑลเชียงใหม่

    2.แขวงปกครองพระศาสนจักรแห่ง ท่าแร่-หนองแสง ประกอบด้วย


    -อัครสังฆมณฑลท่าแร่-หนองแสง มี ฯพณฯ มีคาแอล เกี้ยน เสมอพิทักษ์ เป็นอัครสังฆราช มีสังฆมณฑล 3 สังฆมณฑล อยู่ภายใต้แขวงปกครองนี้ ได้แก่
    1. สังฆมณฑลอุบลราชธานี         2. สังฆมณฑลนครราชสีมา     3. สังฆมณฑลอุดรธานี

                   จะสังเกตได้ว่าบัดนี้ทุกๆ มิสซังที่มีอยู่ ได้รับการแต่งตั้งขึ้นให้อยู่ในระดับสังฆมณฑลมีพระสังฆราชของตนเองปกครอง นับว่าเป็นเกียรติต่อพระศาสนจักรในเมืองไทยอย่างมาก และพระศาสนจักรในเมืองไทยได้เฉลิมฉลองครบรอบ 25 ปี แห่งการสถาปนาพระฐานานุกรมนี้เมื่อวันที่ 6 มกราคม ค.ศ. 1991 ที่บ้านเณรใหญ่แสงธรรม ในแต่ละสังฆมณฑลก็ได้จัดให้มีการเฉลิมฉลองกันเป็นพิเศษอีกด้วย
                  
                 ต่อมาไม่นานหลังจากได้รับการสถาปนาพระฐานานุกรมแล้ว สังฆมณฑลนครสวรรค์ได้รับการแต่งตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1967

    อีก 2 ปีต่อมา สังฆมณฑลสุราษฎร์ธานีก็ได้รับการแต่งตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ค.ศ. 1969 สังฆมณฑลใหม่ทั้งสองนี้อยู่ในแขวงปกครองพระศาสนจักรแห่งกรุงเทพฯ
                
      ในปี ค.ศ. 1973 พระอัครสังฆราช ยอแซฟ ยวง นิตโย หรือ ฯพณฯ ยวง นิตโย ขอลาออกจากหน้าที่เพราะสุขภาพและความชราภาพ

    พระอัครสังฆราชองค์ที่ 2 แห่งอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ได้แก่ ฯพณฯ ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู งานของพระศาสนจักรขยายขอบเขตออกไปในทุกๆ ด้าน ในที่สุดเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 1983 สมเด็จพระสันตะปาปายอห์น ปอล ที่ 2 ได้แต่งตั้ง พระอัครสังฆราช ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู เป็นพระคาร์ดินัล

    นำความปลาบปลื้มใจมาสู่คาทอลิกในประเทศไทย เป็นเกียรติและศักดิ์ศรีที่น่าภูมิใจของประเทศชาติด้วย นับเป็นพระคาร์ดินัลองค์แรกของประเทศไทย.

    ปรับปรุงข้อมูลเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2010