พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงพบปะสมาชิกของคณะเยสุอิตในสิงคโปร์ (Pope discusses prayer and vocation with Jesuits in Singapore)
เมื่อวันพุธที่ 11 กันยายน 2024 วันแรกของการเดินทางอภิบาลต่างประเทศในสิงคโปร์ ภารกิจแรกของพระสันตะปาปาฟรังซิส คือการพบปะ "อย่างอบอุ่นและเป็นพี่น้องกัน" กับสมาชิกคณะเยสุอิตที่ทำงานอยู่ในประเทศนี้ แบบอย่างของคุณพ่อมัตเตโอ ริชชี (Fr. Matteo Ricci) และคุณพ่อเปโดร อาร์รูเป (Fr. Pedro Arrupe) พระสงฆ์มิชชันนารีคณะเยสุอิตผู้บุกเบิกทวีปเอเชียในอดีต เป็นแบบอย่างให้กับสมาชิกคณะเยสุอิตและพระศาสนจักรจักรสากลในปัจจุบัน เป็นหัวข้อในการพูดคุยที่ยาวนานประมาณ 1 ชั่วโมง ของตอนบ่ายในวันนี้
การพบปะสมาชิกในครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 3 ที่เกิดขึ้นระหว่างการเดินทางอภิบาลในต่างประเทศของพระองค์ ครั้งแรกจัดขึ้นในกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2024 โดยมีสมาชิกเยสุอิต 200 คน, เมื่อวันอังคารที่ 10 ที่กรุงดิลี ประเทศติมอร์-เลสเต ประมาณ 40 คน, และในวันนี้ที่สิงคโปร์ 25 คน
การพบปะแบบครอบครัว (A family meeting)
การพบปะในวันนี้เกิดขึ้น ณ ห้องโถงของศูนย์เข้าเงียบนักบุญฟรังซิสเซเวียร์ (St Francis Xavier Retreat Centre) ซึ่งอยู่บนเนินเขาห่างจากตัวเมืองและศูนย์กลางการค้าของสิงคโปร์เพียงครึ่งชั่วโมง สมาชิกของคณะเยสุอิตส่วนใหญ่เป็นชาวสิงคโปร์ บางส่วนมาจากมาเลเซีย บางคนพึ่งบวชเป็นพระสงฆ์ บางคนสูงอายุและเจ็บป่วย ซึ่งพระสันตะปาปาฟรังซิสทรงทักทายพวกเขาเป็นพิเศษ คุณพ่ออันโตนิโอ สปาดาโร (Fr. Antonio Spadaro) ผู้ช่วยสมณสภาเพื่อวัฒนธรรมและการศึกษา (Undersecretary of the Dicastery for Culture and Education) ของสันตะสำนัก ซึ่งร่วมเดินทางไปกับพระสันตะปาปาในครั้งนี้ และอยู่ในที่ประชุมด้วย กล่าวว่า
“การประชุมใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงตามปกติ และเช่นเคย เป็นการประชุมฉันพี่น้องที่อบอุ่นมาก... พระสันตะปาปาฟรังซิสต้องการจะพูดต่อ ดูเหมือนว่าพระองค์ไม่ต้องการจะละทิ้งบรรยากาศที่ใกล้ชิดและเป็นครอบครัวแบบนี้”
ภาพถ่ายที่เผยแพร่โดยคุณพ่อสปาดาโร ใน X (ทวิตเตอร์) ของท่าน แสดงให้เห็นพระสันตะปาปาฟรังซิสที่ยิ้มแย้มและผ่อนคลาย พระองค์ทรงเปิดโอกาสทันทีเพื่อการสอบถาม ในหัวข้อต่าง ๆ และข้อเสนอแนะ โดยเริ่มต้นจากความท้าทายและความคาดหวังที่ภูมิภาคนี้กำลังรอคอยจากพระศาสนจักรอยู่ “พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงแสดงให้เห็นชัดเจนว่า ความเชื่อจะต้องถูกเผชิญกับความท้าทายของมนุษย์ และเน้นย้ำถึงความสำคัญของทวีปเอเชียในปัจจุบันในฐานะที่เป็นทวีปที่สำคัญ ดังนั้น คณะเยสุอิตจึงถูกเรียกให้มาอาศัยอยู่ในสถานที่แห่งนี้ ซึ่งถือเป็นความท้าทายเป็นอย่างมากด้วย”
คุณพ่ออาร์รูเปและความท้าทายของการอธิษฐานภาวนา (Arrupe and the ‘challenge’ of prayer)
พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการอธิษฐานภาวนาซึ่งเป็น 'ความท้าทาย' เช่นกัน นั่นคือ "การเผชิญหน้ากับความท้าทายที่สังคมหยิบยื่นให้กับเราอยู่เสมอ ด้วยจิตวิญญาณแห่งการอธิษฐานภาวนา ตามแบบอย่างของคุณพ่อเปโดร อาร์รูเป" สมาชิกคณะเยสุอิตแห่งสเปน ซึ่งเคยเป็นอัคราธิการ (Superior General) ระหว่างปี 1965 ถึง 1983 ได้รับการประกาศให้เป็นผู้รับใช้ของพระเจ้า (Servant of God)
และกำลังดำเนินการเพื่อแต่งตั้งท่านให้เป็นบุญราศี “พระสันตะปาปาฟรังซิสตรัสหลายครั้งถึงแบบอย่างของอัคราธิการท่านนี้ และทรงประกาศว่าพระองค์ทรงใกล้ชิดกับท่านมาก และปรารถนาที่จะแต่งตั้งท่านให้เป็นบุญราศี และเป็นนักบุญต่อไป”
กระแสเรียกและการอบรม (Vocation and formation)
“พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงตรัสถึงกระแสเรียกต่าง ๆ และวิธีที่จะทำให้มีกระแสเรียกเพิ่มมากขึ้น ซึ่งบางครั้งคนหนุ่มสาวที่ต้องการเข้าสู่ชีวิตนักบวช แต่กลัวต่อการอบรม” พระสันตะปาปาฟรังซิสแนะนำว่า “อย่าลดละความพยายามในเรื่องการอบรมนี้ เพราะการอบรมที่มีคุณภาพสูงและเหมาะสมเท่านั้น จะสามารถตอบสนองต่อความท้าทายในยุคของเรา”
แบบอย่างของคุณพ่อมัตเตโอริชชี่ (The example of Matteo Ricci)
ในการสนทนายังกล่าวถึงแบบอย่างของคุณพ่อมัตเตโอ ริชชี่ (Fr. Matteo Ricci) สมาชิกคณะเยสุอิตผู้ยิ่งหญ่ในอดีต ที่ได้เข้าไปประกาศพระวรสารในประเทศจีน ก็เป็นแบบอย่างของการทำงานในปัจจุบันด้วย
