3.เกี่ยวกับการเริ่มต้นของการเลือกตั้งพระสันตะปาปา

หลังจากการปลงพระศพพระสันตะปาปาสิ้นสุดลงตามจารีตพิธีที่กำหนดไว้ และการตระเตรียมสิ่งจำเป็นเพื่อการเลือกตั้งพร้อมสรรพแล้ว  การกำหนดวันเลือกตั้งได้ถูกเจาะจงลงไปแล้วเช่นกัน คือ  ระหว่าง  15  วันถึง  20  วัน หลังจากพระสันตะปาปาสวรรคตบรรดาพระคาร์ดินัลผู้มีสิทธิ์เลือกจะไปพบกันที่มหาวิหารเซนตืปีเตอร์ ณ  กรุงวาติกัน หรือสถานที่ที่เหมาะสมที่สุด  เพื่อถวายพิธีมิสซาร่วมกันอย่างสง่า  เพื่อขอพระพรจากพระเป็นเจ้า  "เพื่อจุดประสงค์การเลือกพระสันตะปาปา" (Pro Eligendo Papa)  พิธีมิสซานี้ควรทำในเวลาอันเหมาะสมตอนช่วงเช้าของวัน  เพื่อว่าในภาคบ่ายบรรดาพระคาร์ดินัลผู้มีสิทธิ์เลือกต้องกระทำสิ่งอื่นอีกหลายอย่างกล่าวคือ

จากวัดน้อยเซนต์ปอล (The Pauline Chapel)  ซึ่งในพระราชวังแห่งอัครสาวก บรรดาพระคาร์ดินัลเหล่านี้ ต้องชุนนุมกันในเวลาที่เหมาะสมของภาคบ่าย  สวมอาภรณ์ตามที่กำหนด  (Choir  Dress) เพื่ออธิษฐานขอพระพรจากองค์พระจิตเจ้า โดยการขับร้องเพลงภาษาลาติน "Veni  Creator" จากนั้นก็ดำเนินขบวนอย่างสง่าไปยัง  "ซิสติน ชาปเปล"  (Sistine  Chapel) ในพระราชวังแห่งอัครสาวก ณ ที่นั้นจะเป็นสถานที่เลือกตั้งพระสันตะปาปาองค์ใหม่!

พระสังฆธรรมนูญ "Universi  Dominic Gregis"  ที่ประกาศใช้นี้ ยังคงรักษาแก่นแท้ของ  "คอนเคล็ฟ"  เอาไว้  เพียงแต่ดัดแปลงบางอย่างที่ไม่สลักสำคัญอะไร  เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมในปัจจุบัน การเลือกตั้งพระสันตะปาปายังคงสงวนไว้ และจัดกระทำที่ "Sistine Chapel"  ในพระราชวังแห่งอัครสาวก ฉะนั้น ณ  สถานที่นั้นต้องถือว่าสำคัญที่สุด  ในการป้องกันความลับสุดยอดไม่ให้รั่วไหลไม่ว่าทั้งทางตรง  หรือทางอ้อมก็ตาม  ฉะนั้นสิ่งนี้ต้องอยู่ในความรับผิดชอบอย่างสูงสุดของคณะพระคาร์ดินัล ซึ่งดำเนินการภายใต้ความรับผิดชอบของพระคาร์ดินัล - คาร์แมร์เล็งโก และพระคาร์ดินัลผู้ช่วยหรือคาร์ดินัลกลุ่มเฉพาะ ประสานงานกับพระอัครสังฆราชผู้รับผิดชอบสูงสุด ในกิจการทั่วไปแห่งสำนักเลขานุการรัฐ ที่จะต้องจัดเตรียม The Sistine Chapel และรับรองถึงความปลอดภัยในเรื่องการรักษาความลับและทุกอย่างต้องเตรียมพร้อมเพื่อการเลือกตั้งพระสันตะปาปาต้องใช้เครื่องมือที่ทันสมัยในการตรวจสอบทุกซอกทุกมุม เพื่อความแน่ใจว่าไม่มีเครื่องมือดักฟัง หรือเครื่องมือสื่อสารอื่นๆ ซุกซ่อนอยู่ภายในที่นั้น และบริเวณใกล้เคียง

เมื่อบรรดาพระคาร์ดินัลผู้มีสิทธิเลือกมาถึงที่ Sistine Chapel ในท่ามกลางที่ทุกคนปรากฏตัวอย่าง ณ ที่นั่น จากนั้นทุกท่านต้องเข้าพิธีสาบานตนด้วยเสียงอันดัง ตามสูตรการสาบานที่กำหนดไว้ โดยการวางมือบนพระคัมภีร์ - พระวรสาร (The Holy Gospel) เริ่มจากพระคาร์ดินัลหัวหน้า จากนั้นพระคาร์ดินัลที่อาวุโสในชั้นยศศักดิ์ลงไปเรื่อยจนถึงคนสุดท้าย

หลังจากกล่าวคำสาบาน นายจารีตพิธีกรรมของพระสันตะปาปาจะออกคำสั่งภาษาลาติน "Extra Omnes" หมายถึง ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องใน "คอนเคล็ฟ" เชิญออกจาก Sistine Chapel ผู้ที่คงอยู่ ณ ที่นั้นต่อไปได้คือ ตัวนายจารีตพิธีของพระสันตะปาปา และบรรพชิตที่ได้ถูกเลือกไว้ เพื่อจะเทศน์เตือนใจบรรดาพระคาร์ดินัลผู้มีสิทธิเลือกในเรื่องที่เกี่ยวกับภาระหน้าที่อันต้องรับผิดชอบสูงสุด ต่อผู้ที่จะเป็นพระสันตะปาปา ซึ่งมีความจำเป็นและสำคัญสุดยอด เพื่อความดีงามของพระศาสนจักรสากล และเพื่อเกียรติมงคลแห่งอาณาจักรพระเจ้า

เมื่อบรรพชิตผู้นั้นเทศน์ และให้ข้อเตือนใจจบ ท่านจะออกจาก The Sistine Chapel พร้อมกับนายจารีตพิธีของพระสันตะปาปา

จากนั้นพระคาร์ดินัลหัวหน้า หรือ Cardinal Dean จะถามบรรดาพระคาร์ดินัลที่นั่นว่า การเลือกพระสันตะปาปาควรเริ่มขึ้น ณ บัดนั้น หรือว่ายังคงมีข้อสงสัยเกี่ยวกับกฎเกณฑ์ และการดำเนินการเลือกตั้งดังระบุไว้ในสังฆธรรมนูญ ที่จำเป็นต้องอธิบายให้ชัดเจนอีกหรือไม่? และท่านต้องย้ำว่า จะไม่มีการอนุญาต ให้ตัดเติม เสริมต่อใดๆ ทั้งสิ้น ในแก่นสารของกฎเกณฑ์และขบวนการเลือกตั้งอย่างเด็ดขาด ถ้าหาก พระคาร์ดินัลส่วนใหญ่เห็นว่าไม่มีอุปสรรคใดๆ ต่อกฎเกณฑ์ดังกล่าว พิธีการเลือกตั้งจะเริ่มขึ้น ณ บัดนั้น