บทสรุป

ตำแหน่งพระสันตะปาปาดำรงและยั่งยืนต่อเนื่องมากกว่า  2000  ปี  ต้องถือว่าเป็นความจริงที่น่าทึ่ง  แม้ว่าในบางช่วงศตวรรษจะเกิดเหตุการณ์ที่ท้าทายต่อการรักษาตำแหน่งดังกล่าวเอาไว้ได้  แต่ทุกครั้งก็มีทางออกของมัน จึงทำให้ตำแหน่งพระสันตะปาปาคงอยู่อย่างต่อเนื่อง  นับจากสมเด็จพระสันตะปาปา  จอห์น ปอล  ที่ 2  พระสันตะปาปาองค์ปัจจุบันเป็นต้นไป เพราะว่าทั้งทางสถานการณ์ทางพระศาสนจักรและทางโลกเปลี่ยนแปลงไปมาก  จึงต้องมีการดัดแปลงวิธีการบางอย่างเพื่อความเหมาะสมกับโลกปัจจุบันแต่ตั้งข้อสังเกตว่า  แก่นแท้ของการเลือกตั้งยังคง "คลาสสิค"แต่นำมาปัดฝุ่นใหม่  เช่น  ยืนยันว่าคณะพระคาร์ดินัลผู้นั้นมีสิทธิเลือก หรือมีสิทธิออกเสียงให้แก่ผู้ที่จะเป็นพระสันตะปาปานั้น  ต้องเป็นพระคาร์ดินัลแห่งพระศาสนจักรโรมันศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น (The Cardinals of Holy Roman  Church) เพราะมีลักษณะสำคัญมาก 2 ประการแก่ผู้ที่เป็น Roman  Pontiff  (พระสันตะปาปา)  ที่เป็นRoman  ก็เพราะเป็นเครื่องหมายบ่งบอกถึง "พระสังฆราช  แห่งพระสาสนจักรในกรุงโรม"  ซึ่งจะต้องผูกพันใกล้ชิดกับคณะสงฆ์ และประชาสัตบุรุษในเมืองนี้ รวมทั้งเขตใกล้เคียงที่มีตัวแทนโดยพระคาร์ดินัลทั้ง  3 ยศศักดิ์และที่เป็น "Pontiff"  แห่งพระศาสนจักรสากล ก็เพราะพระสันตะปาปาซึ่งเป็นผู้นำพระศาสนจักรคาทอลิก เปรียบประดุจนายชุมพาบาลที่นำฝูงแกะทั้งมวลไปสู่ชีวิตนิรันดร์ในอาณาจักรพระเจ้า (คำว่า Pontiff  แปลว่า  สะพาน ในที่นี้พระสันตะปาปาเป็นสะพานที่จะนำประชากรไปสู่พระเจ้า)  ซึ่งตัวแทนในพระศาสนจักรสากลก็คือบรรดาพระคาร์ดินัล ที่มีอยู่ในทุกทวีปทั่วโลก  ส่วน วิธีดำเนินการเลือกพระสันตะปาปานั้น มีการเปลี่ยนแปลงจากศตวรรษก่อนๆ  เล็กน้อยเท่านั้น  ซึ่งไม่ใช่เป็นแก่นสารสำคัญอะไร  เช่น  แต่ก่อนนี้รูปแบบการดำเนินการเลือกตั้งก่อนจะลงชื่อนั้น  จะมีวิธีที่เรียกว่า "Per Acclamationem  หรือ  Inspira tionem  c]t Per Compromissum" ซึ่งพระสันตะปาปา  จอห์น ปอล  ที่ 2  เห็นว่ามีความยุ่งยากพอสมควรจึงให้วิธีที่เรียกว่า  Per Scru tinium" อย่างเดียว โดยการนับคะแนนอย่างละเอียดถี่ถ้วน  จากการลงคะแนนเสียงลับในบัตรเลือกตั้ง(Ballots)เท่านั้น!

จำนวนพระคาร์ดินัลทีมีสิทธิ์เลือก กำหนดจำนวนเท่าเดิม คือ  120 องค์จากทั่วโลก และจะต้องมีอายุไม่เกิน  80  ปี  ที่จะเข้าใน "คอนเคล็ฟ" สถานที่โหวตเสียงนั้นก็ยังคงเป็นที่ "Sisitine  Chapel"  เหมือนเดิม  แต่ที่พักรับรองของบรรดาพระคาร์ดินัล อาคารชื่อ  "Domus  Sanctae Mathae"  ซึ่งแต่เดิมพระคาร์ดินัลผู้มีสิทธิ์เลือกจะต้องพักอยู่ที่บริเวณ "Sistine Chapel"เท่านั้น  ทั้งกิน  ทั้งนอน เสร็จสรรพอยู่ ณ  ที่นั่น

แต่เดิมนั้นขณะที่บรรดาพระคาร์ดินัลอยู่ใน "คอนเคล็ฟ"ประชาชน  จะมาชุมนุมกันเต็มลานพระวิหารเซนต์ปีเตอร์  ในกรุงวาติกัน เพื่อสังเกตดูปล่องควันบนหลังคา "Sistine Chapel" ถ้าหากมีควันสีดำขึ้นมาแสดงว่าการโหวตไม่สำเร็จ  แต่ถ้าเป็นควันสีขาวลอยขึ้นมา  แสดงว่าได้พระสันตะปาปาองค์ใหม่แล้ว  ในพระสังฆธรรมนูญ  ฉบับล่าสุดที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งพระสันตะปาปาไม่มีกล่าวไว้ในเรื่องนี้

ที่น่าสังเกตอีกอย่างคือ  ยังคงเน้นถึงการรักษาความลับอย่างสุดยอด  และถือว่ามีโทษหนักถ้าหากผู้ใดนำเรื่องที่เกี่ยวข้องมาเปิดเผยและยังเน้นอยู่บ่อยครั้งถึงเรื่องเครื่องมือสื่อสาร "ซุปเปอร์ไฮเทค"  จะต้องมีการตรวจสอบ  และระมัดระวังอย่างถี่ถ้วน

บรรดาสื่อมวลชนกำลังจับตามองทุกระยะ ในกิจการทุกอย่างของพระสันตะปาปา  และมีการคาดเดาเหตุการณ์กันไปต่างๆ นานา ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นต่อไปในสันตะสำนัก และพระสันตะปาปา  อย่างไรก็ตามทุกอย่างนั้นย่อมขึ้นอยู่ในพระปรีชาญาณ หรือพระญาณสอดส่องจากพระผู้เป็นเจ้าเท่านั้น