7.เกี่ยวกับการยอมรับในตำแหน่ง

เกี่ยวกับการยอมรับในตำแหน่ง  หรือความสมัครใจ และการประกาศอย่างเป็นทางการของพระสันตะปาปาองค์ใหม่  และการเริ่มภาระกิจของพระองค์ท่าน

เมื่อการเลือกตั้งพระสันตะปาปาอย่างถูกต้องตามกฎหมายเกิดขึ้นและได้ตัวบุคคลผู้นั้นแล้ว  พระคาร์ดินัลผู้อ่อนอาวุโสในชั้นศักดิ์สังฆานุกร  เรียกเลขานุการของคณะพระคาร์ดินัล  และนายจารีตพิธีของพระสันตะปาปาเข้ามายังห้องที่เลือกตั้ง (Sistine Chapel)  จากนั้นพระคาร์ดินัลผู้เป็นหัวหน้า  หรือ  Cardinal Dean หรือพระคาร์ดินัลทั้งหมดจะถามความสมัครใจของบุคคลที่ถูกเลือกให้เป็นพระสันตะปาปาดังนี้

"ท่านยอมรับการเลือกท่านอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ในฐานะประมุขสูงสุดของพระศาสนจักร  (พระสันตะปาปา)หรือไม่!?

หลังจากนั้นเมื่อได้รับคำตอบถึงความสมัครใจ  พระคาร์ดินัลผู้นั้นจะถามต่อไปว่า

"ท่านมีความปรารถนาที่จะใช้ชื่ออะไรในฐานะพระสันตะปาปา?"

จากนั้นนายจารีตพิธีของพระสันตะปาปาจะทำหน้าที่เป็นผู้บันทึกชื่อพระสันตะปาปาองค์ใหม่ที่พระองค์เลือกใช้  โดยมีนายจารีตอีก  2 ท่านที่จะถูกเรียกเข้ามาในขณะนั้นเพื่อเป็นพยาน  จากนั้นต้องร่างเอกสารยืนยันการยอมรับ และสมัครใจในตำแหน่งพระสันตะปาปาองค์ใหม่  และชื่อใหม่ที่ท่านเลือกใช้!

ตรงนี้ผู้เขียนตั้งข้อสังเกตเล็กน้อย  เพราะมีผู้ถามเสมอว่าใครบ้างที่จะไม่รับ  และไม่อยากเป็นพระสันตะปาปา เพราะตำแหน่งออกจะใหญ่และมีเกียรติสูงสุดเช่นนี้ ถ้าหากคิดกันตามประสาของคนทั่วไปทางโลกก็อาจจะใช่  แต่ในทางธรรมแล้วกลับตรงกันข้าม  บุคคลที่ได้รับเลือกมักจะหวั่น ในภารกิจอันหนักที่ต้องรับและมักหาทางปฏิเสธ ด้วยเหตุนี้ในเอกสารฉบับล่าสุดนี้  พระสันตะปาปาจอห์น ปอล ที่  2 ขอร้องว่าผู้ที่ได้รับเลือกในอนาคตขออย่าได้ปฏิเสธในตำแหน่ง  ต้องมีความสุภาพ และไว้วางใจในพระเป็นเจ้า

หลังจากการยอมรับในตำแหน่งแล้ว  ถ้าหากบุคคลที่ได้รับเลือกนั้น ได้รับพิธีบวชเป็นพระสังฆราช  ท่านผู้นั้นจะกลายเป็นพระสังฆราชแห่งพระศาสนจักรกรุงโรมทันที  เป็นพระสันตะปาปาที่แท้จริงและเป็นหัวหน้าสูงสุดของพระคาร์ดินัล ท่านสามารถใช้อำนาจเต็มและสูงสุดต่อพระศาสนจักรสากล

ถ้าบุคคลที่ได้รับเลือกนั้น ยังไม่ได้บวชเป็นพระสังฆราชพิธีบวชพระสังฆราชจะต้องถูกกระทำขึ้นต่อผู้นั้นโดยทันที

ข้างๆ  Sistine Chapel จะมีห้องเล็กๆห้องหนึ่ง แขวนชุดพระสันตะปาปาขนาดต่างๆเตรียมเอาไว้  เพราะไม่มีใครรู้ล่วงหน้าว่าใครคือพระสันตะปาปาองค์ใหม่ ห้องเล็กๆ  นี่เรียกกันว่า  "ห้องแห่งน้ำตา" เพราะผู้ที่ถูกเลือก  ขณะเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่เป็นพระสันตะปาปามักมีอารมณ์ต่างกัน ดีใจ เศร้าใจ  ปลื้มใจ ฯลฯ  แต่ต้องน้ำตาซึมกันทุกราย กรณีพระสันตะปาปายอห์น  ที่ 23 ซึ่งพระองค์มีลักษณะอ้วนมากๆ  จึงไม่มีชุดพอเหมาะพอดี ฉะนั้นจึงต้องใช้เข็มกลัดติดไว้ เพื่อไม่ให้เสื้อปริออก จากนั้นพระองค์จึงบ่นพึมพำว่า "ข้าพเจ้าพร้อมแล้วที่จะถูกส่งออกไป…"

หลังจากนั้นพระคาร์ดินัลผู้มีสิทธิเลือกทุกองค์  จะต้องเข้าไปหาพระสันตะปาปาองค์ใหม่เพื่อแสดงคารวะและความนอบน้อมเชื่อฟังมีการสรรเสริญของพระคุณพระเจ้าด้วยกัน จากนั้นพระคาร์ดินัลอาวุโสในชั้นยศศักดิ์สังฆานุกร จะประกาศต่อประชาชนที่ชุมนุมรอฟังข่าวกันอยู่  ถึงความบรรลุผลในการเลือกพระสันตะปาปาองค์ใหม่  พร้อมทั้งประกาศชื่อพระสันตะปาปาองค์ใหม่ทันที  ต่อจากนั้นพระสันตะปาปาองค์ใหม่จะอวยพรพิเศษ  ที่เรียกว่า "Urbi et orbi"(แด่ชาวเมืองและชาวโลก) ณ  เฉลียงมหาวิหารวาติกัน

ถ้าบุคคลผู้ใดที่ได้รับเลือกนั้น  ยังไม่ได้บวชเป็นพระสังฆราชการแสดงคารวะ  และประกาศเลือกตั้งจะต้องกระทำภายหลังจากการพิธีการบวชสังฆราช

ถ้าหากบุคคลที่ได้รับเลือกเป็นพระสันตะปาปาองค์ใหม่นั้น  อาศัยอยู่นอกกรุงวาติกัน กฎเกณฑ์ที่ประกาศไว้ใน Ordo Riruum Conclavit ต้องนำมาถือปฏิบัติตาม

เมื่อพระสันตะปาปาองค์ใหม่ถูกเลือกคอนเคล็ฟจะสิ้นสุดทันที  ยกเว้นถ้าพระองค์จะกำหนดเป็นอย่างอื่น!  หลังจากนั้นพระสังฆราชผู้รับผิดชอบสูงสุดในกิจการทั่วไป   แห่งสำนักเลขานุการรัฐ(Substitute of the Secretariat of state)  และพระสังฆราชผู้รับผิดชอบสูงสุดแห่งพระราชวังพระสันตะปาปาองค์ใหม่  เพื่อถวายรายงานต่อพระองค์ ในสิ่งสำคัญๆ ในขณะนั้น

หลังจากทำพิธีเฉลิมฉลองการเริ่มภาระกิจแห่งพระสันตะปาปา  ซึ่งจะต้องถูกจัดไว้ในเวลาที่เหมาะสม โดยปกติแล้วจะกระทำที่พระวิหารเซนต์ปีเตอร์ ในกรุงวาติกัน  พระสันตะปาปาองค์ใหม่  จะต้องทำพิธีขึ้นบัลลังก์  ที่มหาวิหารแห่งลาเตรัน  ด้วยตามจารีตพิธีที่กำหนดเอาไว้ เพราะว่าพระมหาวิหาร  เซนต์ จอห์น  ลาเตรันนั้น เป็นพระวิหารประจำตำแหน่งพระสันตะปาปา