Logo

วันพุธที่ 14 กุมภาพันธ์ 2018 วันพุธรับเถ้า

หมวด: เดือนกุมภาพันธ์ 2018
เขียนโดย กลุ่มไบเบิ้ลไดอารี่
ฮิต: 1031

บทอ่านจากหนังสือประกาศกโยเอล                                ยอล 2:12-18
     บัดนี้ องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “ท่านทั้งหลายจงกลับมาหาเราด้วยสุดจิตสุดใจเถิด จงจำศีลอดอาหาร ร่ำไห้ และไว้ทุกข์คร่ำครวญ จงฉีกใจของท่าน มิใช่ฉีกเสื้อผ้า จงกลับมาหาองค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าของท่าน เพราะพระองค์ทรงเมตตาและกรุณา ไม่ทรงโกรธง่าย ทรงเปี่ยมด้วยความรักมั่นคง ทรงสงสารและไม่ทรงลงโทษ ใครจะรู้ได้ พระองค์อาจจะทรงเปลี่ยนพระทัยสงสาร กลับมาประทานพระพร ท่านถวายผลิตผลเป็นธัญบูชาและเทเหล้าองุ่นถวายองค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าของท่าน
     จงเป่าแตรเขาสัตว์ในศิโยน จงประกาศให้มีการจำศีลอดอาหาร จงเรียกประชาชนให้มาชุมนุมกัน จงเรียกประชาชนให้มาพร้อมกัน จงประกาศให้มีการประชุม จงเรียกบรรดาผู้อาวุโสมาชุมนุมกัน จงรวบรวมเด็กๆ แม้ทารกที่ยังกินนม จงให้เจ้าบ่าวออกมาจากห้องหอ และให้เจ้าสาวออกจากห้องวิวาห์ จงให้บรรดาสมณะผู้รับใช้องค์พระผู้เป็นเจ้า ร่ำไห้อยู่ระหว่างเฉลียงกับพระแท่นบูชา ทูลว่า “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า โปรดทรงเมตตาประชากรของพระองค์เถิด ขออย่าทรงทำให้มรดกของพระองค์ถูกลบหลู่ และถูกนานาชาตินินทาว่าร้าย ทำไมชนชาติทั้งหลายจะต้องพูดว่า “พระเจ้าของเขาอยู่ที่ไหน” องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงหวงแหนแผ่นดินของพระองค์ ทรงสงสารประชากรของพระองค์

 

บทอ่านจากจดหมายนักบุญเอาโลอัครสาวกถึงชาวโครินธ์ ฉบับที่สอง      2 คร 5:20-6:2
     พี่น้อง ดังนั้น เราจึงเป็นทูตแทนพระคริสตเจ้า ประหนึ่งว่าพระเจ้าทรงใช้เราให้เชิญชวนท่านทั้งหลาย เราจึงขอร้องแทนพระคริสตเจ้าว่า จงยอมคืนดีกับพระเจ้าเถิด เพราะเห็นแก่เราพระเจ้าจึงทรงทำให้พระองค์ผู้ไม่รู้จักบาปเป็นผู้รับบาป เพื่อว่าในพระองค์เราจะได้กลายเป็นผู้ชอบธรรมของพระเจ้า
     ในฐานะผู้ร่วมงานของพระเจ้า เราขอร้องท่านทั้งหลาย อย่าเพียงแต่รับพระหรรษทานของพระองค์ไว้โดยไม่เกิดผล พระองค์ตรัสว่า “ในเวลาที่เหมาะสม เราได้รับฟังท่าน และในวันแห่งความรอดพ้น เราได้ช่วยเหลือท่าน” ขณะนี้คือเวลาที่เหมาะสม ขณะนี้คือวันแห่งความรอดพ้น

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมัทธิว                                 มธ 6:1-6,16-18
     เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาศิษย์ว่า “จงระวัง อย่าปฏิบัติศาสนกิจของท่านต่อหน้ามนุษย์เพื่ออวดคนอื่น มิฉะนั้น ท่านจะไม่ได้รับบำเหน็จจากพระบิดาของท่านผู้สถิตในสวรรค์ ดังนั้น เมื่อท่านให้ทาน จงอย่าเป่าแตรข้างหน้าท่านเหมือนที่บรรดาคนหน้าซื่อใจคดมักทำในศาลาธรรมและตามถนนเพื่อจะได้รับคำสรรเสริญจากมนุษย์ เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า เขาได้รับบำเหน็จของเขาแล้ว ส่วนท่าน เมื่อให้ทาน อย่าให้มือซ้ายของท่านรู้ว่ามือขวากำลังทำสิ่งใด เพื่อทานของท่านจะได้เป็นทานที่ไม่เปิดเผย แล้วพระบิดาของท่านผู้ทรงหยั่งรู้ทุกสิ่ง จะประทานบำเหน็จให้ท่าน
     เมื่อท่านอธิษฐานภาวนา จงอย่าเป็นเหมือนบรรดาคนหน้าซื่อใจคด เขาชอบยืนอธิษฐานภาวนาในศาลาธรรม และตามมุมลานเพื่อให้ใครๆ เห็น เราบอกความจริงแก่ท่านว่า เขาได้รับบำเหน็จของเขาแล้ว ส่วนท่าน เมื่ออธิษฐานภาวนา จงเข้าไปในห้องส่วนตัว ปิดประตู อธิษฐานต่อพระบิดาของท่านผู้สถิตทั่วทุกแห่ง แล้วพระบิดาของท่านผู้ทรงหยั่งรู้ทุกสิ่งจะประทานบำเหน็จให้ท่าน
     เมื่อท่านทั้งหลายจำศีลอดอาหาร จงอย่าทำหน้าเศร้าหมองเหมือนบรรดาคนหน้าซื่อใจคด เขาทำหน้าหมองคล้ำ เพื่อแสดงให้ผู้คนรู้ว่าเขากำลังจำศีลอดอาหาร เราบอกความจริงแก่ท่านว่า เขาได้รับบำเหน็จของเขาแล้ว ส่วนท่าน เมื่อจำศีลอดอาหาร จงล้างหน้า ใช้น้ำมันหอมใส่ศีรษะ เพื่อไม่แสดงให้ผู้คนรู้ว่าท่านกำลังจำศีลอดอาหาร แต่ให้พระบิดาของท่านผู้สถิตทั่วทุกแห่งทรงทราบ และพระบิดาของท่านผู้ทรงหยั่งรู้ทุกสิ่ง ก็จะประทานบำเหน็จให้ท่าน”

 

ข้อคิด
     เมื่อภาวนาส่วนตัว พระเยซูเจ้าให้ภาพของความสัมพันธ์ของผู้ภาวนากับพระบิดาเหมือนเป็นการ “เข้าไปในห้องส่วนตัว ปิดประตู” เพราะเมื่อเราเข้าสู่ส่วนลึกของหัวใจแห่งความเป็นตัวจริงของเรา ที่ซึ่งเราอาจจะพบความอ่อนแอ ความพลาดพลั้ง และแม้ความบาปหลงผิดติดยึดที่ไม่ถูกต้อง นั่นเป็นโอกาสให้เราได้ทำเช่นการไปหาหมอ ณ ขณะนั้น เราเอาสภาพจริงของเรา เอาความเจ็บไข้ เอาร่างกายที่มีบาดแผลและอ่อนแอไปพบหมอในห้องเฉพาะที่แยกจากคนไข้อื่นๆ เฉกเช่นเดียวกัน เมื่อเราภาวนา เราไปหาพระบิดา “ในห้องส่วนตัว แล้วปิดประตู”