พระสันตะปาปา: การประชุมสมัชชาซีน็อดบรรดาพระสังฆราช
“เพื่อการรับใช้ประชากรของพระเจ้า”

++++++++++

Bishops in the Hall of the Synod at the Vatican, October 2015

เหลืออีกเพียงไม่กี่วันก็จะเริ่มการประชุมสมัชชาซีน็อดของบรรดาพระสังฆราชซึ่งมีเป้าหมายเพื่อบรรดาเยาวชน สมเด็จพระสันตะปาปาทรงจัดพิมพ์สมณธรรมนูญ “ความสัมพันธ์ในเอกภาพของบรรดาพระสังฆราช”(Apostolic Constitution “Episcopaliscommunion)เกี่ยวกับโครงสร้างของสมัชชาซีน็อดซึ่งสมเด็จพระสันตะปาปาเปาโลที่ 6 ทรงประกาศใช้ในปี ค.ศ. 1965

การปรึกษาหารือกับประชากรของพระเจ้าและการประชุมสมัชชาซีน็อดของบรรดาพระสังฆราชแห่งพระศาสนจักรคาทอลิก ซึ่งพระสันตะปาปาทำหน้าของนักบุญเปโตร อัครสาวก คงจะได้รับแสงส่วางมากยิ่งขึ้น นี่เป็นข้อสังเกตที่สมณธรรมนูญ “EpiscopalisCommunio”(ความสัมพันธ์เป็นหนึ่งเดียวของบรรดาพระสังฆราช) ให้ไว้เกี่ยวกับโครงสร้างของสมัชชาซีน็อดของบรรดาพระสังฆราชเอกสารดังกล่าวของพระสันตะปาปาฟรังซิสลงวันที่ 15 กันยายน 2018 ซึ่งไม่ถึงเดือนก่อนที่จะเริ่มการประชุมสมัชชาซีน็อดพระสังฆราชสมัยสามัญครั้งที่ 15 ซึ่งมีหัวข้อ “เยาวชน ความเชื่อ และการไตร่ตรองแยกแยะกระแสเรียก”

***
เพื่อความดีของพระศาสนจักรทั้งมวล

หลังจากที่มีการรำลึกถึงการประชุมแห่งสภาสังคายนาวาติกัน ครั้งที่ 2” จากนั้นสมเด็จพระสันตะปาปาเปาโล ที่ 6 ได้สถาปนาการประชุมสมัชชาซีน็อด และอธิบายว่าการประฃุมสมัชชาซีน็อดเป็น “ตำนานที่มีค่าที่สุดแห่งสภาสังคายนาวาติกัน ครั้งที่ 2” สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสทรงเน้นว่า”ความร่วมมืออย่างมีประสิทธิผล” ของการประชุมสมัชชาซีน็อดกับพระสันตะปาปาเกี่ยวกับปัญหาสำคัญๆ คือปัญหาที่ต้องการความรอบรู้และความเฉลียวฉลาดพิเศษเพื่อความดีของพระศาสนจักรทั้งมวล” พระองค์ตรัสว่าในช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ซึ่งพระศาสนจักรถูกชักนำไปสู่ “การประกาศพระวรสาร” ใหม่ ซึ่งเป็น “พันธกิจถาวรที่ต้องกระทำตลอดไป” สมัชชาซีน็อดถูกขอให้ต้องแสวงหา “แนวทางที่ยิ่งใหญ่กว่าเสมอ” เพื่อการประกาศพระวรสารต่อโลกของเราในทุกวันนี้

***
สำนักเลขาธิการแห่งสมัชชาซีน็อด

พระสันตะปาปาเปาโลที่ 6 ทรงเห็นกาลล่วงหน้าแล้วว่าเมื่อเวลาผ่านไปสถาบันนี้สามารถปรับปรุงให้ครบครันขึ้นได้ ในปี ค.ศ. 2006ได้มีการปรับปรุง “Ordo Synodi”(กฎเกณฑ์เกี่ยวกับการประชุมซีน็อด) และประกาศใช้โดยสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน้าที่ของสำนักเลขาธิการซึ่งประกอบด้วยเลขาธิการและคณะพระสังฆราชซึ่งเป็นที่ปรึกษาที่ถูกตั้งและค่อยๆพัฒนาจนมีความเข้มแข็งยิ่งขึ้นเรื่อยมา

***
ความเอื้ออาทรของคณะพระสังฆราชต่อพระศาสนจักรทั้งมวล

เป็นเพราะความสำคัญที่ต้องตอบปัญหา “จึงจำเป็นที่ต้องมีการเข้าแทรกดำเนินการให้ทันท่วงทีและความเห็นพ้องต้องกันของบรรดาชุมพาบาลของพระศาสนจักร” ซึ่งการประชุมสมัชชาซีน็อดมักจะมีประสิทธิภาพเสมอสำหรับประเด็นนี้ ด้วยเหตุนี้สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสจึงตรัสว่าในหลายปีที่ผ่านมานี้มีความปรารถนายิ่งวันยิ่งเพิ่มขึ้น ณ ที่ประชุมสมัชชาซีน็อดจะต้องยิ่งกลายเป็น “การแสดงให้เห็นพิเศษถึงความสำคัญของการร่วมมือย่างมีประสิทธิภาพของคณะพระสังฆราชต่อพระศาสนจักรทั้งมวล” พระองค์ทรงอธิบายว่านี่มีพื้นฐานอยู่ใน “ความเชื่อมั่น” ว่าบรรดานายชุมพาบาลได้รับการแต่งตั้งขึ้นมาก็เพื่อ “รับใช้ประชากรศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้าซึ่งพวกเขามีความสัมพันธ์โดยศีลล้างบาป”

***
การรับฟังอย่างดี

สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสตรัสว่าบรรดาพระสังฆราชในเวลาเดียวกันเป็นทั้ง “อาจารย์และศิษย์” ในหน้าที่ของตนซึ่งรวมถึงการทำพันธกิจแต่ก็รวมถึงหน้าที่ที่ต้องรับฟังเสียงของพระคริสตเจ้าผู้ทรงตรัสผ่านทางประชากรของพระองค์ในทำนองที่ทำให้พวกเขา “infallibile in credendo” (ไม่ผิดพลั้งในความเชื่อ) เพราะฉะนั้นสมัชชาซีน็อดจึงควรที่จะเป็น “เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นในการฟังเสียงประชากรของพระเจ้า” การที่จะทำเช่นนั้นได้โดยการปรึกษาหารือกับบรรดาสัตบุรุษในพระศาสนจักรแต่ละแห่ง เพราะพระสันตะปาปากล่าวว่า ในขณะที่สมัชชาซีน็อดจำเป็นต้องเป็นสถาบันของพระสังฆราช ถึงกระนั้นนี่ก็เป็นความจริงว่า สถาบันซีน็อดจะไม่สามารถมีตัวตนอยู่ได้ “หากจะตัดขาดจากบรรดาสัตบุรุษ” เพราะนี่เป็น “เครื่องมือเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะส่งเสียงไปยังประชากรทั้งมวลชองพระเจ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านทางบรรดาพระสังฆราช” ซึ่งเป็น “ผู้พิทักษ์ ตีความ และประจักษ์พยานแห่งความเชื่อ” จากสมัชชาหนึ่งสู่อีกสมัชชาหนึ่งล้วนแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึง “ความสัมพันธ์หนึ่งเดียว” ของพระศาสนจักรซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นหนึ่งเดียวกันของพระศาสนจักรต่างๆ นอกนั้นสมัชชาซีน็อดแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึง “ความเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างล้ำลึก” ระหว่างนายชุมพาบาลและสัตบุรุษ ระหว่างพระสังฆราชกับพระสันตะปาปาซึ่งมีอยู่ในพระศาสนจักร

***
ความเป็นเอกภาพระหว่างคริสตชน

สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสแสดงความหวังของพระองค์ว่าสมัชชารซีน็อดอาจจะ “มีส่วนช่วยฟื้นฟูความเป็นเอกภาพของคริสตชนตามวิถีครรลองของแต่ละบุคคลตามน้ำพระทัยของพระเจ้า” อาศัยการกระทำดังกล่าวสามารถช่วยพระศาสนจักรให้ได้ “พบหนทางของการทำหน้าที่ผู้นำสูงสุดของพระสันตะปาปา ซึ่งไม่มีการทิ้งพันธกิจที่สำคัญไป แต่เป็นการเปิดประตูให้กับสถานการณ์ใหม่” ดังที่สมเด็จพระสันตะปาปานักบุญยอห์กล่าวไว้ใน “Ut unumsint”(เพื่อพวกเขาจะได้เป็นหนึ่งเดียวกัน)

++++++++++
(วิษณุ ธัญญอนันต์ - เก็บเรื่องสมัชชาซีน็อดมาเพื่อการไตร่ตรอง)

https://www.vaticannews.va/en/pope/news/2018-09/pope-francis-apostolic-constitution-episcopalis-communio.html