• ขณะที่เป็นช่วงเวลาระหว่างกลางวันหยุดพักผ่อนฤดูร้อน และชาวกรุงโรมออกนอกเมือง นักท่องเที่ยวและผู้แสวงบุญกลับเนืองแน่น
ในนครอันเป็นนิรันดร์ หลายคนมารวมตัวกันในจัตรัสนักบุญเปโตร ในวันอาทิตย์ เพื่อร่วมภาวนาบทฑูตสวรรค์แจ้งข่าวฯกับพระสันตะปาปา
พระองค์ตรัสถึงความหมายของความเชื่อ ดังที่เล่าไว้ในบทพระวรสารนักบุญมัทธิวของวันอาทิตย์นั้น ซึ่งเล่าว่าพระเยซูเจ้าทรงเดินบนผิวน้ำ
และทรงเตือนให้บรรดาอัครสาวกจงมีกำลังใจ
• พระสันตะปาปาทรงอธิบายว่า ความเชื่อไม่ได้ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างง่ายไปหมดในชีวิต แต่ช่วยเราให้สามารถเอาชนะต่อพายุที่มีอยู่จริงในชีวิตเรา
พระสันตะปาปาฟรังซิส
“ความเชื่อในพระเจ้าช่วยเราให้มีหลักประกันการประทับอยู่ ซึ่งพระคริสตเจ้าผู้ทรงให้กำลังใจแก่เราสามารถเอาชนะพายุที่พบเจอในชีวิต
และทรงยื่นพระหัตถ์ที่จับเราและช่วยเราเมื่อเผชิญความยากลำบาก ชี้แสดงหนทางแม้ยามมืดมิด”
• ในเวลาเดียวกันพระสันตะปาปาฟรังซิสทรงให้ข้อสังเกตว่า ความเชื่อในพระเจ้ามิใช่เรื่องเวทย์มนต์ที่มาช่วยแก้ปัญหาในชีวิต
พระสันตะปาปาฟรังซิส
“โดยสรุป ความเชื่อไม่ใช่หนทางหนีออกไปจากปัญหาของชีวิต แต่มันสนับสนุนค้ำจุนการเดินทางชีวิตของเราและทำให้มีความหมาย”
• ตรงกันข้าม พระสันตะปาปาทรงอธิบายว่าอะไรที่ไม่ช่วยให้เราสามารถเอาชนะความยากลำบาก นั่นคือการพึ่งพาเวทย์มนต์หรือคาถาลับ
ซึ่งทำให้หลายคนดุจดังจมน้ำตายมาแล้ว
พระสันตะปาปาฟรังซิส
“เมื่อลูกไม่ผูกพันตัวเองอยู่กับพระวาจาของพระเจ้า แต่ไปรู้สึกปลอดภัยกับคำปรึกษาทักทายดวงชะตาราศีและพวกหมดดู ลูกก็เริ่มจมลง
นี่แปลว่าความเชื่อของลูกไม่มั่นคง”
.
• ท้ายสุด พระสันตะปาปาทรงเตือนว่าความเชื่อนั้นเราเข้าหาในขณะอยู่ในเรือ
เป็นสัญลักษณ์หมายถึงพระศาสนจักร ซึ่งรักษามวลสมาชิกลอยอยู่ได้มิใช่ความสำคัญหรือจำนวนของสมาชิก แต่เพราะความเชื่อมั่นในองค์พระคริสตเจ้า
และพระวาจาของพระองค์