สมเด็จพระสันตะปาปาฯ จาริกอภิบาลด้วยรักและสันติสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสจะเสด็จเยือนพม่า
วันที่ 27-30 พฤศจิกายน 2017


​"สำนักวาติกันและสภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งพม่ายืนยันพร้อมกันเรื่อง - ข่าวลือที่แพร่สะพัดตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาเกี่ยวกับ
การเสด็จเยือนประเทศพม่าและบังคลาเทศด้วยการประกาศว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสจะเสด็จเยือนทั้งสองประเทศอย่างเป็นทางการ
ในวันที่ 27 – 30 พฤศจิกายน 2017 โดยจะเสด็จไปยังนครย่างกุ้งและเนปิดอร์” เป็นคำแถลงการณ์ของพระคาร์ดินัลชารลส์ โบ
และสภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งพม่า

แถลงการณ์ยังแจ้งด้วยว่าหลังจากเยือนพม่าแล้วสมเด็จพระสันตะปาปาจะเสด็จต่อไปยังบังคลาเทศจาก “วันที่ 30 พฤศจิกายน – วันที่ 2 ธันวาคม 2017
โดยจะเสด็จไปนครดักกา “ โลโกสำหรับการเดินทางครั้งนี้พิมพ์ออกเผยแพร่แล้ว ส่วนตารางเวลายังมิได้มีการระบุแต่ก็คงจะประกาศออกมาในเร็ววันนี้

​สมเด็จพระสันตะปาปาได้ทรงมีพระดำรัสว่าจะเยือนประเทศในทวีปเอเชียหลายเดือนมาแล้ว แต่ยังไม่ได้มีการยืนยันใดๆออกมา
พระองค์ทรงสามารถเจียดเวลาที่จะเดินทางก่อนคริสต์มาส และการเดินทางนี้จะเกิดขึ้นเพียงสองเดือนก่อนที่พระองค์จะเสด็จไปเยือนอเมริกาใต้
ซึ่งพระองค์ทรงตั้งพระทัยที่จะเสด็จไปยังประเทศเปรูและชิลีในเดือนมกราคม 2018

​แม้ว่าอินเดียเป็นอีกประเทศหนึ่งในแผนการที่สมเด็จพระสันตะปาปาจะทรงไปเยือนทวีปเอเชียในปีนี้ แต่จำเป็นต้องตัดออกไปเนื่องจากปัญหาฝ่ายรัฐบาล
แม้ทั้งสองฝ่ายต่างตั้งความหวังไว้แต่วิถีทางการทูตใช้เวลาเนิ่นนานเกินไปในรายละเอียดต่างๆจากฝ่ายรัฐซึ่งมีนาร์เธนดรา โมดี เป็นประธาน เขาเป็นชาวฮินดู
ชาตินิยมและถูกมองกันว่าเป็นผู้ที่ไม่ค่อยจะเป็นมิตรกับคริสตศาสนาซึ่งเป็นชนส่วนน้อยสักเท่าใด

​การตัดสินใจของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสในการเสด็จเยือนบังคลาเทศและพม่านี้ไม่ได้เป็นแค่แบบฉบับที่สง่างามถึงการเอาใจใส่ของพระองค์
ต่อประเทศที่มีคริสตชนเล็กน้อยเท่านั้น แต่ยังชี้ให้เห็นถึงความสนใจยิ่งใหญ่ที่พระองค์ทรงมีต่อทวีปเอเชียนับตั้งแต่ที่พระองค์ได้ทรงรับเลือกเป็นพระสันตะปาปา
การเสด็จเยือนครั้งที่สองในฐานะที่เป็นพระสันตะปาปาเป็นการเสด็จเยือนประเทศเกาหลีใต้ในเดือนสิงหาคม 2014 ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นการเสด็จไปร่วม
ฉลองวันเยาวชนเอเชีย และต่อมาอีก 5 เดือน คือเดือนมกราคม 2015 พระองค์ก็เสด็จไปเยือนประเทศศรีลังกาและฟิลิปปินส์ ดังนั้นการเยือนพม่าและ
บังคลาเทศครั้งต่อไปจึงเป็น การเสด็จเยือนเอเชียครั้งที่สามในช่วงเวลาสี่ปีแห่งสมณสมัยของพระองค์

​ตามสถิติปี 2014ของ รัฐบาลพม่า 88% ของประชากรนับถือศาสนาพุทธซึ่งเป็นศาสนาหลักของประเทศ จากจำนวนประชากรทั้งสิ้น 5.1 ล้าน คริสตชน
มีจำนวน 6.2% ส่วนมุสลิมมีจำนวน 4.3% และฮินดูมีเพียงแค่ .5% สันตะสำนักและพม่ามีความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันเมื่อเดือนพฤษภาคมนี้นี่เอง
โดยต่างฝ่ายต่างส่งทูตของตนไปประจำในประเทศของอีกฝ่ายหนึ่ง ซึ่งความจริงแล้วประเด็นนี้เกิดขึ้นเมื่อผู้นำอองซานซูจีไปเยือนวาติกัน
การมีความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันนี้เกิดขึ้นเพียงสองเดือนหลังจากที่รัฐสภาพม่าโหวตในเดือนมีนาคมให้ประเทศของตนเป็นประเทศที่ 183
ที่มีความสัมพันธ์ทางการทูตกับสันตะสำนัก

​นอกจากเป็นรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศแล้วอองซานซุจียังเป็นนักการทูต นักการเมือง นักเขียน และเป็นที่ปรึกษาของรัฐด้วย
ก่อนที่จะขึ้นมีอำนาจเธอต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ถูกกักขังบริเวณเพราะค่าที่เธอผลักดันเรื่องสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยซึ่งขัดแย้งกับกฎของทหารในสมัยนั้น

​สำหรับพระศาสนจักรคาทอลิกในพม่า มี 16 สังฆมณฑล มีพระสังฆราช 23 องค์ รวมถึงพระสังฆราชที่เกษียณแล้ว ในปี 2015 สมเด็จพระสันตะปาปา
ทรงสถาปนาพระคาร์ดินัลองค์แรกของพม่าโดยมอบหมวกแดงให้กับพระคุณเจ้าชารลส์ โบ ซึ่งเป็นพระอัครสังฆราชแห่งย่างกุ้ง

​เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2016 สมเด็จพระสันตะปาปาทรงปฏิบัติทำนองเดียวกันต่อบังคลาเทศโดยสถาปนาพระอัครสังฆราช ปาตริค โรซารีโอ
แห่งดากาเป็นพระคาร์ดินัลพระองค์แรกของประเทศที่มีประชากรส่วนใหญ่เป็นมุสลิม

​เป็นหนึ่งในสิบประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลกโดยมีประชากร 183 ล้านคน บังคลาเทศมีประชากรคาทอลิกประมาณ 0.3% ซึ่งประชากรถึง 90% เป็นมุสลิม

​นอกเหนือไปจากการที่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสจะมีความรักใคร่ต่อคริสตชนส่วนน้อยในประเทศต่างๆแล้ว ปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งในพระทัยของ
พระองค์คือความทุกข์ยากของพี่น้องมุสลิมชาวโรฮีนจาทร่กำลังถูกเบียดเบียนซึ่งพระองค์ตรัสถึงบ่อยๆ และนี่น่าจะเป็นเหตุผลสำคัญที่พระองค์เสด็จไปเยือนพม่า
และบังคลาเทศเป็นเชิงสัญลักษณ์

​คำประกาศการเยือนของสมเด็จพระสันตะปาปาแถลงการณ์โดยสภาพระสังฆราชคาทอลิกพม่าที่ย่างกุ้งซึ่งมีพระสังฆราช Felix Lian Khen Thang
แห่งสังฆมณฑล Kalay เป็นประธาน ร่วมกับพระสังฆราช ร่วมกับJohn Saw Yaw Han พระสังฆราชผู้ช่วยแห่งสังฆมณฑลย่างกุ้งและเลขาธิการแห่งสภาพระสังฆราช
และพระสังฆราช Hsane Hgyi พระสังฆราชแห่งสังฆมณฑล Pathein รายละเอียดของหมายกำหนดการแห่งการเสด็จเยือนของสมเด็จพระสันตะปาปาทางวาติกันจะแจ้ง
ให้ทราบภายในไม่ช้านี้