พิธีสาบานของพนักงานและเจ้าหน้าที่ทุกคนในการประชุมลับ (Officials and Conclave staff take Oath of Secrecy in Pauline Chapel)
เมื่อวันจันทร์ที่ 5 พฤษภาคม 2025 เวลา 17.30 น. ณ วัดน้อยนักบุญเปาโล ในพระราชวังอัครสาวก นครรัฐวาติกัน พนักงานและเจ้าหน้าที่ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับการประชุมลับ (Conclave) ที่จะมีขึ้นในวันพุธที่ 7 พฤษภาคม ได้เข้าพิธีสาบานตนว่าจะรักษาความลับตามที่กำหนดไว้ในสังฆธรรมนูญ Universi Dominici Gregis ซึ่งประกาศใช้โดยพระสันตะปาปายอห์นปอลที่ 2 เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 1996
พระคาร์ดินัลเควิน โจเซฟ ฟาร์เรล พระคาร์ดินัลคาเมอร์เลนโก (Cardinal Kevin Joseph Farrell, Camerlengo) ได้มอบถ้อยคำสาบานให้กับทุกคน ทั้งนักบวชและฆราวาส ที่ได้รับการอนุมัติจากพระคาร์ดินัลคาเมอร์เลนโกและผู้ช่วยพระคาร์ดินัลอีกสามคนในการเข้ามาช่วยงานประชุมลับในครั้งนี้ ประกอบด้วย
1. เลขานุการคณะคาร์ดินัล
2. หัวหน้านายจารีตพิธีกรรมของสันตะสำนัก และนายจารีตอีก 7 คน
3. พระสงฆ์หรือนักบวชที่ได้รับเลือกให้เข้ามาช่วยงานประชุมลับ
4. นักบวชคณะออกัสติน 2 คน ที่เข้ามาช่วยงานในห้องซาคริสตี (sacristy)
5. พระสงฆ์ที่เข้ามาช่วยบริการศีลอภัยบาปในภาษาต่าง ๆ
6. แพทย์ พยาบาล และพนักงานลิฟต์ของพระราชวังอัครสาวก
7. เจ้าหน้าที่งานโภชนาการและความสะอาด คนจัดดอกไม้
8. เจ้าหน้าที่ด้านเทคนิคและผู้รับส่งบรรดาพระคาร์ดินัลผู้มีสิทธิเลือกตั้งจากบ้านนักบุญมาร์ธาไปยังวัดน้อยซิสติน
9. พันเอกและพันตรีของกองทหารรักษาการณ์สวิสที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลบริเวณวัดน้อยซิสติน
10. ผู้อำนวยการฝ่ายบริการรักษาความปลอดภัยและป้องกันพลเรือนของนครรัฐวาติกัน และเจ้าหน้าที่บางคน
ทุกคน หลังจากได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับความสำคัญของคำสาบานแล้ว ก็ได้กล่าวคำสาบาน และลงนามในคำสาบานที่กำหนดไว้ต่อหน้าพระคาร์ดินัล ฟาร์เรล โดยมีผู้แทนพระสันตะปาปา 2 คนเป็นสักขีพยาน
คำสาบานและโทษของการผิดคำสาบาน
คำสาบานดังกล่าวรวมถึงคำมั่นสัญญาอย่างจริงจัง ที่จะรักษาความลับทุกประการเกี่ยวกับทุกเรื่อง ที่เกี่ยวข้องกับการลงคะแนนและการตรวจสอบการเลือกตั้งพระสันตะปาปาองค์ใหม่ทั้งโดยตรงหรือโดยอ้อม โดยมีภาระผูกพันตลอดไป เว้นแต่จะได้รับอนุญาตอย่างชัดเจนจากพระสันตะปาปาที่ได้รับการเลือกตั้งใหม่ หรือผู้สืบทอดตำแหน่งของพระองค์ นอกจากนี้ ยังยืนยันถึงการห้ามใช้อุปกรณ์บันทึกเสียงและวิดีโอ โดยมีโทษฐานถูกขับออกจากพระศาสนจักรโดยทันที นอกจากจะได้รับการยกเว้นจากสันตะสำนัก
พิธีนี้แสดงให้เห็นถึงความจริงจังของพระศาสนจักร ในการรักษาความลับและความศักดิ์สิทธิ์ของกระบวนการเลือกตั้งพระสันตะปาปาองค์ใหม่ และเพื่อให้แน่ใจว่าบุคลากรสมทบทุกคนจะรักษาความสมบูรณ์ของการประชุมลับเอาไว้ทุกประการ