พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงอนุมัติให้จัดสมัชชาบิชอปสากลครั้งต่อไปในปี 2028 (Pope approves convocation of post-synodal Ecclesial Assembly in 2028)
พระคาร์ดินัล มาริโอ เกรช (Cardinal Mario Grech) เลขาธิการหน่วยงานสมัชชาบิชอปสากล ได้ประกาศเรียกประชุมสมัชชาหลังการประชุมสมัชชาพระศาสนจักรสากล ซึ่งจะจัดขึ้นที่นครรัฐวาติกันในเดือนตุลาคม 2028 โดยถือเป็นจุดสุดยอดของกระบวนการ 3 ปีที่เกี่ยวข้องกับการนำผลลัพธ์ของการสมัชชาไปปฏิบัติ ในจดหมายที่ส่งถึงบรรดาสังฆราชทุกคน รวมถึงพระสังฆราช และอาร์ชบิชอปของพระศาสนจักรคาทอลิกตะวันออก พระคาร์ดินัลเกรชได้อธิบายว่า การสมัชชาครั้งนี้จะไม่ใช่การสมัชชาใหม่ (แต่ต่อเนื่องมาจากสมัชชาครั้งที่ 16 ที่ผ่านมา) กระบวนการดังกล่าว อ้างถึงขั้นตอนการดำเนินการของการสมัชชาสามปีที่ผ่านมา ภายใต้หัวข้อ “เพื่อพระศาสนจักรที่ก้าวเดินไปด้วยกัน: ความเป็นหนึ่งเดียวกัน การมีส่วนร่วม และพันธกิจ” ซึ่งสิ้นสุดลงในเดือนตุลาคม 2024
ดังที่พระสันตะปาปาฟรังซิสได้ทรงกล่าวไว้เมื่อตอนปิดการสมัชชา เดือนตุลาคม 2024 ว่าเอกสารสุดท้ายของสมัชชาบิชอปสากล สมัยสามัญ ครั้งที่ 16 “เป็นส่วนหนึ่งของอำนาจการสั่งสอนของผู้สืบทอดตำแหน่งจากนักบุญเปโตร” และด้วยเหตุนี้ พระคาร์ดินัลเกรชอธิบายว่า นั่นหมายความว่า “พระศาสนจักรท้องถิ่นและกลุ่มคริสตจักรต่าง ๆ” จะต้องมุ่งมั่นที่จะ “นำ” แนวทางปฏิบัติของเอกสารนี้ไปใช้ผ่านกระบวนการของ “การไตร่ตรองและการตัดสินใจ”
ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนภายในพระศาสนจักรอย่างเป็นรูปธรรม (Making exchanges within the Church concrete)
พระคาร์ดินัลเกรชกล่าวว่า ขั้นตอนการดำเนินการไม่ควรเป็นเพียง "การนำคำสั่งจากเบื้องบนมาปฏิบัติอย่างง่าย ๆ" แต่ควรเป็น "กระบวนการขานรับ" ต่อเอกสารฉบับสุดท้าย (the Final Document) ในลักษณะ "ที่เหมาะสมกับวัฒนธรรมท้องถิ่นและความต้องการของชุมชน" ตามเป้าหมายที่ต้องการการ คือ "เพื่อให้การแลกเปลี่ยนและการเสวนาระหว่างพระศาสนจักรต่าง ๆ และภายในพระศาสนจักรเองอย่างเป็นรูปธรรม"
เกี่ยวข้องกับบรรดาพระสงฆ์ สังฆานุกร นักบวชชาย-หญิง และบรรดาสัตบุรุษ (Involving priests, deacons, consecrated persons, and laypeople)
ด้านที่สำคัญประการหนึ่งของการนำกระบวนนี้ไปปฏิบัติ คือ การฟื้นฟูการมีส่วนร่วมของทุกคนที่สมัชชากล่าวถึง เพื่อที่จะเกิดการ “รับฟังพระศาสนจักรทั้งหมด” และการพิจารณาอย่างรอบคอบของสิ่งที่บรรดาผู้อภิบาลได้นำไปปฏิบัติจนบังเกิดผล ความพยายามดังกล่าวจะประกอบไปด้วย “ทีมงานของสมัชชาที่ประกอบด้วยพระสงฆ์ สังฆานุกร นักบวชชาย-หญิง และฆราวาส ที่ทำงานควบคู่ไปกับพระสังฆราชของพวกเขา” ดังนั้นเลขาธิการจึงขอเสนอแนะให้บรรดาบุคคลเหล่านี้ “ให้คุณค่า” และถ้าหากจำเป็น ก็ควรได้รับ “การฟื้นฟู การทำให้มีชีวิตชีวา และบูรณาการอย่างเหมาะสม”
กลุ่มศึกษาและคณะกรรมาธิการด้านกฎหมายพระศาสนจักร (Study groups and the Canon Law Commission)
รูปแบบของกระบวนการทั้งหมดนี้เป็น “กรอบงาน” ที่เกิดจาก “ผลงานของกลุ่มศึกษาและนำเสนอต่อคณะกรรมาธิการด้านกฎหมายของการสมัชชา” จะถูกนำเสนอ พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงจัดตั้งกลุ่มศึกษา 10 กลุ่มขึ้นในเดือนมีนาคม 2024 เพื่อพิจารณาปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในระหว่างการสมัชชาบิชอปสากลครั้งที่ 16 สมัยที่ 1 ในปี 2023 ในทางกลับกัน คณะกรรมาธิการด้านกฎหมายได้ดำเนินการมาแล้วตั้งแต่ปี 2023 ดังที่ระบุไว้ในเอกสารประกอบการสมัชชา (Instrumentum Laboris) ของการสมัยสมัยที่สอง ซึ่งจัดตั้งขึ้น "ตามข้อตกลงกับสมณสภาเพื่อการตีความทางด้านกฎหมาย” (Dicastery for Legislative Texts) เพื่อปฏิบัติงานในการสมัชชา
ปียูบีลีของคณะกรรมการสมัชชา (The Jubilee of Synodal Teams)
พระคาร์ดินัลเกรชได้สรุปขั้นตอนของกระบวนการติดตามเพื่อนำผลการสมัชชาไปปฏิบัติ ได้แก่
1. การประกาศกระบวนการซึ่งจะตามมาในเดือนพฤษภาคม 2025 นี้
2. จัดทำเอกสารพิเศษที่ให้รายละเอียดเกี่ยวกับการดำเนินการ และการเฉลิมฉลอง “ปีศักดิ์สิทธิ์ของคณะทำงานสมัชชาและหน่วยงานที่ส่วนร่วม” ซึ่งกำหนดให้มีไว้ระหว่างวันที่ 24-26 ตุลาคม 2025
นี่เป็น “เหตุการณ์สำคัญ” ที่จะ “ทำให้เกิดความทุ่มเทเพื่อทำให้พระศาสนจักรที่ก้าวเดินไปด้วยกันมีมากยิ่งขึ้น ภายในขอบฟ้าแห่งความหวังที่ไม่ทำให้เราผิดหวัง” ซึ่งเป็นหัวข้อหลักของปีศักดิ์สิทธิ์ที่กำลังดำเนินอยู่
กระบวนการ 3 ปี (A three-year process)
ระหว่างช่วงเวลาที่ 1 และ 2 ใน 2027 จะมีการประชุมประเมินผลภายในสังฆมณฑล เขตปกครอง (eparchies) และสภาพระสังฆราชทั้งระดับประเทศและระดับสากล โครงสร้างการปกครองของพระศาสนจักรตะวันออก และกลุ่มพระศาสนจักรอื่น ๆ ช่วงระยะเวลาที่ 1 และ 2 ใน 2028 จะถูกกำหนดให้กับการประชุมประเมินผลระดับทวีป และการเผยแพร่เอกสารประกอบการสมัชชา (Instrumentum laboris) สำหรับการสมัชชาในเดือนตุลาคม 2028
ขอเชิญสวดภาวนาเพื่อพระสันตะปาปา (A call to pray for the Pope)
จดหมายของพระคาร์ดินัล เกรช จบลงด้วยคำเชิญชวนให้สวดภาวนา เพื่อสุขภาพของพระสันตะปาปาฟรังซิส ซึ่งพระองค์เข้ารับการรักษาที่เจเมลลีโพลีคลินิก (Gemelli Polyclinic) ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2025 เป็นต้นมา
ภาพ : การประชุมสมัชชาในเดือนตุลาคม 2024 ที่ผ่านมา