พระนางมารีย์นำเราไปสู่ชีวิตนิรันดร (Pope on Assumption: The Blessed Mother leads us toward eternal life)

     ในการสวดบททูตสวรรค์แจ้งสาร เมื่อตอนเที่ยงวันพฤหัสบดีที่ 15 สิงหาคม 2024 โอกาสสมโภชพระนางมารีย์รับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ทั้งร่างกายและวิญญาณ พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงเตือนบรรดาผู้ที่มีความเชื่อว่า ไม่ควรคิดว่าพระมารดาว่าเป็นรูปปั้นที่ไม่มีชีวิต แต่ให้จดจำไว้เสมอว่า พระนางเป็นเพื่อนร่วมทางที่ทำงานหนักของเรา นำหน้าเราด้วยความชื่นชมยินดี และนำเราไปพบกับพระเจ้าในสวรรค์

     เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 1950 พระสันตปาปาปีโอที่ 12 ได้ประกาศการขึ้นสู่สวรรค์ของพระนางมารีย์ให้เป็นข้อความเชื่อหนึ่ง (Dogma) ของพระศาสนจักร ด้วยสังฆธรรมนูญที่ชื่อว่า “พระเจ้าผู้ทรงบริบูรณ์สูงสุด” (Munificentissimus Deus) ยืนยันว่า พระนางมารีย์พรหมจารี "ได้รับสิทธิพิเศษที่ไม่เหมือนใคร ได้เอาชนะบาปอย่างสมบูรณ์ด้วยการปฏิสนธินิรมล" ผลที่ตามมาก็คือ "เธอไม่อยู่ภายใต้กฎแห่งความเน่าเปื่อยของร่างกาย และเธอไม่ต้องรอจนกว่าจะถึงเวลาสิ้นพิภพ เพื่อที่จะได้รับการกลับคืนชีพของร่างกาย"

     พระสันตะปาปาปีโอที่ 12 ได้ประกาศต่อไปอย่างไม่มีข้อผิดพลาดว่า "พระนางมารีย์ผู้บริสุทธิ์ยิ่งของพระเจ้า พระแม่ผู้ไม่เคยสิ้นพระชนม์ เมื่อดำเนินชีวิตในโลกนี้สำเร็จแล้ว จึงได้รับการยกขึ้นสู่สวรรค์ทั้งร่างกายและวิญญาณอย่างรุ่งโรจน์" พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงเทศน์สอนจากพระวรสารของนักบุญลูกา เรื่องพระนางมารีย์เสด็จไปเยี่ยมนางเอลีซาเบธ ญาติลูกพี่ลูกน้องของพระนาง เมื่อเราได้ไตร่ตรองถึงชีวิตของพระนางมารีย์ เด็กสาวชาวนาซาเร็ธ ซึ่งพึ่งได้รับการแจ้งสารจากทูตสวรรค์ว่า เธอได้รับเลือกให้เป็นพระมารดาของพระเยซูเจ้า พระนางได้ออกเดินทางไปเยี่ยมลูกพี่ลูกน้องของพระนาง ซึ่งเป็นภาพที่งดงาม

ออกเดินทางด้วยความชื่นชมยินดีอย่างรวดเร็ว (Sets out joyfully in haste)

     ซึ่งหมายความว่า "พระนางมารีย์ไม่คิดว่า ข่าวที่เธอได้รับจากทูตสวรรค์เป็นสิทธิพิเศษ" แต่ตรงกันข้าม "เธอออกจากบ้านและออกเดินทางด้วยความเร่งรีบ เช่นเดียวกับท่าทีของคนที่ปรารถนาจะประกาศความยินดีนั้นให้แก่ผู้อื่น และด้วยความเต็มใจที่จะรับใช้ลูกพี่ลูกน้องของเธอ” ในความเป็นจริง การเดินทางครั้งแรกนี้ "เป็นอุปมาตลอดชีวิตของเธอ" เพราะ "ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา พระนางมารีย์ได้ติดตามพระเยซูเจ้าไปตลอดกาลในฐานะที่เป็นอัครสาวกของอาณาจักรสวรรค์"
และในท้ายที่สุด การแสวงบุญทางโลกของพระนางได้จบสิ้นลงด้วยการเสด็จสู่สวรรค์ ณ ที่นั้น "พระนางมารีย์ทรงชื่นชมยินดีในชีวิตนิรันดร์ร่วมกับพระบุตรของพระนางตลอดไป"

พระแม่ผู้ชี้นำหนทาง (Blessed Mother leads the way)

     “เราไม่ควรคิดไปเองว่า พระนางมารีย์เป็นรูปปั้นที่ไม่มีชีวิต แต่ผ่านทางรูปปั้นนั้น เราได้เห็นสตรีผู้หนึ่ง ที่สวมรองเท้าที่ขาด และเหนื่อยล้ามาก” หลังจากจบการเดินทางที่ยาวนานของเธอในโลกนี้ เธอจึงได้เข้าสู่สวรรค์อย่างรุ่งโรจน์ ด้วยวิธีการนี้ พระนางมารีย์คือผู้ที่เดินนำหน้าเรา เตือนเราทุกคนว่า ชีวิตของเราคือการเดินทางต่อเนื่องไปสู่ความเป็นหนึ่งเดียวกันครั้งสุดท้ายกับพระเจ้า พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงปิดท้าย ด้วยการให้ความมั่นใจแก่ผู้ที่มีความเชื่อทุกคนว่า มีพระนางมารีย์อยู่เคียงข้างในขณะที่กำลังเดินทางไปสู่สวรรค์