กับพระเจ้าไม่มีสิ่งใดที่เป็นไปไม่ได้ (Pope at Audience: With God, nothing is impossible)

     เมื่อวันพุธที่ 7 สิงหาคม 2024 ณ หอประชุมเปาโลที่ 6 พระสันตะปาปาฟรังซิสกลับมาพบปะบรรดาผู้แสวงบุญอีกครั้งหลังจากช่วงวันหยุดในฤดูร้อน ทรงเริ่มต้นสอนคำสอนเกี่ยวกับกิจการของพระจิตเจ้าในการสร้าง และบทบาทของพระจิตเจ้าในพันธสัญญาใหม่ ในการไถ่บาปที่พระเยซูเจ้าทรงมีชัยชนะ

พระจิตเจ้าและการรับสภาพมนุษย์ (The Holy Spirit and the Incarnation)

     พระจิตเจ้ามีบทบาทในการรับสภาพมาเป็นมนุษย์ของพระวจนาตถ์ พระเยซูเจ้า “ทรงบังเกิดเป็นมนุษย์จากพระนางมารีย์พรหมจารี และทรงบังเกิดเป็นมนุษย์โดยพระจิตเจ้า” “เหตุฉะนั้น จึงเป็นความจริงของความเชื่อของบรรดาคริสตชนทั่วโลก เพราะคริสตชนทุกคนยอมรับในหลักความเชื่อเดียวกัน” สะท้อนให้เห็นความศรัทธาของคริสตชนคาทอลิกที่สวดบททูตสวรรค์แจ้งสาร (Angelus) เป็นประจำทุกวันจนกลายเป็นธรรมประเพณี

พระนางมารีย์พรหมจารีเป็นรูปแบบของพระศาสนจักร (The Blessed Virgin Mary, a figure of the Church)

     นอกจากนี้ ยังเป็นพื้นฐานสำหรับการเปรียบเทียบระหว่างพระนางมารีย์พรหมจารีกับพระศาสนจักร ซึ่งเป็นการเปรียบเทียบโดยสภาสังคายนาวาติกันที่สอง ดังที่พระนางพรหมจารีทรงตั้งครรภ์ก่อนที่จะบังเกิดพระเยซูเจ้า พระศาสนจักรก็ต้อนรับพระเยซูเจ้าเช่นกัน “โดยการรับพระวจนาตถ์ของพระเจ้าด้วยความเชื่อ และกลายเป็นมารดา (พระศาสนจักรในฐานะที่เป็นมารดาและอาจารย์)” หากไม่ยอมรับพระวจนาตถ์ของพระเจ้าก่อน “ชีวิตและการเทศนา” ของพระศาสนจักรก็จะกลายเป็น “หมัน”

     พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงสรุปคำสอนของพระองค์ โดยไตร่ตรองจากคำถามของพระนางมารีย์ ในการประกาศพระวรสารว่า "จะเป็นไปได้อย่างไร?" พระศาสนจักรก็ถามคำถามเดียวกันว่า “เป็นไปได้อย่างไรที่จะประกาศพระเยซูเจ้า และความรอดของพระองค์ต่อโลก ที่ดูเหมือนจะแสวงหาแต่ความอยู่ดีมีสุขในโลกทุกวันนี้”

กับพระเจ้าไม่มีสิ่งใดที่จะเป็นไปไม่ได้ ('With God, nothing will be impossible')

     คำตอบในตอนนั้นและตอนนี้ก็เหมือนกัน ในหนังสือกิจการอัครสาวกได้กล่าวว่า “คุณจะได้รับพระพรจากพระจิตเจ้า” หากไม่มีพระจิตเจ้า พระศาสนจักรก็ไม่สามารถจะก้าวไปข้างหน้า พระศาสนจักรไม่สามารถเติบโต พระศาสนจักรไม่สามารถเทศนาได้”

     “สิ่งที่กล่าวเกี่ยวกับพระศาสนจักรโดยทั่วไปใช้ได้กับผู้รับศีลล้างบาปแล้วทุกคน” เมื่อเราพบว่าตัวเอง “อยู่ในสถานการณ์ที่เกินกำลังของเราเอง” เราควร “กลับมาเดินทางต่อด้วยความคิดที่ปลอบโยนนี้” โดยการนึกถึงถ้อยคำที่ทูตสวรรค์พูดกับพระนางมารีย์ว่า “สำหรับพระเจ้า ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้” “และถ้าเราเชื่อสิ่งนี้เราจะทำการอัศจรรย์ ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้สำหรับพระเจ้า”