Logo

ช้าลงไตร่ตรอง และสวดภาวนาให้มีความห่วงใยมากขึ้น (Pope at Angelus: Slow down, reflect, pray to be more caring)

หมวด: vatican news
เขียนโดย Nuphan Thasmalee
ฮิต: 234
 
ช้าลงไตร่ตรอง และสวดภาวนาให้มีความห่วงใยมากขึ้น (Pope at Angelus: Slow down, reflect, pray to be more caring)
   
     เมื่อเที่ยงวันอาทิตย์ที่ 21 กรกฎาคม 2024 พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงนำสวดบททุตสวรรค์แจ้งสาร ตรัสว่า เพื่อให้มีความห่วงใยและความเห็นอกเห็นใจมากขึ้น เราต้องชะลอจากความเร่งรีบและความกังวลในชีวิตประจำวันของเรา โดยใช้เวลาไตร่ตรองและอธิษฐานภาวนา เพื่อเติมพลังด้านร่างกายและจิตวิญญาณของเรา
     พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงไตร่ตรองพระวรสารประจำวัน ซึ่งบรรดาอัครสาวกเล่าให้พระเยซูเจ้าฟังถึงสิ่งที่ความสำเร็จ ที่พวกเขากระทำพันธกิจที่พระองค์มอบหมายให้ จากนั้นพระเยซูเจ้า แนะนำให้พวกเขาได้พักผ่อน แต่ฝูงชนรอพวกเขาอยู่เสมอ และพระเยซูเจ้าก็ทรงแสดงความเห็นอกเห็นใจต่อพวกเขา การเชื้อเชิญของพระเยซูเจ้าให้พักผ่อนและความเห็นอกเห็นใจต่อฝูงชนนั้น ไม่ใช่สิ่งที่แยกออกจากกัน แต่เราจำเป็นที่จะต้องมีทั้งสองอย่างในชีวิตของเรา
 
 
หลีกเลี่ยงความเป็นเผด็จการแห่งการทำ (Avoiding a "dictatorship of doing")
     การดำเนินชีวิตคริสตชน การเป็นประจักษ์พยาน การอภิบาล การแพร่ธรรม อาจนำมาซึ่งความเหนื่อยล้า พระเยซูเจ้าทรงแสดงความห่วงใยต่อบรรดาอัครสาวก เมื่อพระองค์ทรงเห็นว่าพวกเขามีความเหนื่อยล้าเพียงใด นี่เป็นความเสี่ยงสำหรับเราในปัจจุบันด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อความกระตือรือร้นในการทำงานตามพันธกิจของเรา
     พร้อมด้วยงานและความรับผิดชอบทั้งหมด สามารถทำให้เราตกเป็นเหยื่อของการกระทำที่มากเกินไป โดยที่รายการ "สิ่งที่ต้องทำ" และผลลัพธ์เป็นเพียงสิ่งเดียวเท่านั้น ที่เราเห็น เราอาจวิตกกังวลและมองข้ามสิ่งสำคัญ ร่างกายและจิตวิญญาณที่อ่อนล้า ท้ายที่สุดแล้วจะทำให้งานรับใช้ที่เราทำพระศาสนจักร และในงานอภิบาลของเรา เป็นงานที่เหนื่อย หนัก และสิ้นสุดลง และทำให้เรากลายเป็น “เผด็จการแห่งการกระทำ” (dictatorship of doing)
 
 
ความท้าทายที่ครอบครัวเผชิญ (Challenges facing families)
     ในครอบครัว บางครั้งพ่ออาจต้องทำงานตลอดเวลา เพราะต้องหาเลี้ยงดูครอบครัว และนั่นหมายความว่า เวลาอันมีค่าต่อภรรยาและลูก ๆ จะต้องลดลง นี่เป็นความอยุติธรรมทางสังคม พ่อและแม่ควรมีเวลาให้กับลูก ๆ เพื่อเลี้ยงดูครอบครัวที่มีความรัก โดยไม่ต้องตกอยู่ภายใต้ "เผด็จการแห่งการกระทำ" ให้เราลองคิดดูว่า เราจะช่วยเหลือครอบครัวในสถานการณ์นี้ได้อย่างไร?
 
 
เพิ่มพลังทั้งกายและใจ (Recharging body and spirit)
     ความจำเป็นในการพักผ่อน ไม่ใช่การหลีกหนีจากโลกภายนอก หรือการมุ่งความสนใจไปที่ความเป็นอยู่ส่วนตัวเท่านั้น แต่จำเป็นสำหรับการเพิ่มพลังทางด้านร่างกายและจิตวิญญาณของเรา ให้สามารถตอบสนองด้วยความรักความเอาใจใส่ และความเห็นอกเห็นใจ ต่อความต้องการของผู้ที่อยู่รอบข้างเรา
การพักผ่อนและการมีความเห็นอกเห็นใจจึงเชื่อมโยงกัน "ถ้าเราเรียนรู้ที่จะพักผ่อน เราก็จะมีความเมตตาได้" เมื่อใจของเราไม่สามารถเอาชนะด้วยความกระวนกระวายใจจากการกระทำตลอดเวลา และเราเปิดรับพระหรรษทานของพระเจ้าผ่านการอธิษฐานภาวนาและการนมัสการ เราก็สามารถ "มองดูด้วยความเห็นอกเห็นใจ คือรู้วิธีตอบสนองต่อความต้องการของผู้อื่น"
 
 
ช้าลง ไตร่ตรอง และภาวนา (Slow down, reflect, pray)
     ให้เราพิจารณาชีวิตของเราเองและดูว่า เราสามารถหยุดสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ และใช้เวลาอยู่กับพระเป็นเจ้า ฟื้นฟูร่างกายและจิตวิญญาณใหม่ได้หรือไม่? ขอให้พระนางมารีย์พรหมจารีช่วยเราให้ "พักผ่อนในพระจิตเจ้า" แม้จะอยู่ท่ามกลางกิจกรรมประจำวันทั้งหมด เพื่อให้พร้อมและมีความเห็นอกเห็นใจต่อผู้อื่นมากขึ้น