สัมภาษณ์พระสันตะปาปา 1 ก.ย. สถานีวิทยุคาทอลิก COPE ของสเปน ตีพิมพ์บทสัมภาษณ์ที่ การ์ลอส เอร์เรร่า ไปสัมภาษณ์สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ในหลายประเด็น
COPE: คำถามแรกเลย พระสันตะปาปาครับ พระองค์เป็นอย่างไรบ้างครับ
Pope Francis: พ่อยังมีชีวิตอยู่ (ทรงหัวเราะดังๆ หลังตอบ)
COPE: การผ่าตัดครั้งล่าสุดซึ่งเป็นการผ่าตัดใหญ่ มันทำให้พวกเราวิตกกังวลมาก
Pope Francis: แน่นอน เรื่องพวกนี้มันเกิดขึ้น ติ่งในลำไส้ใหญ่ ใครจะไปรู้ล่ะว่า มันจะกลายเป็นความผิดปกติ มีเนื้อเยื่อตาย (Necrotic) แต่ขอบคุณพระเจ้า ทุกอย่างทันเวลา พ่อถึงยังมาอยู่ตรงนี้ได้
COPE: ผมเข้าใจว่า คนที่เตือนพระองค์คนแรกว่าต้องเข้ารับการรักษาโดยด่วนคือ “พยาบาล”
Pope Francis: เขาช่วยชีวิตพ่อเลยล่ะ! เขาบอกพ่อว่า “พระองค์ต้องเข้ารับการผ่าตัดนะครับ” มันมีความเห็นอื่นๆ ด้วย เช่น “อาจจะดีกว่านี้ถ้ารักษาด้วยยาปฏิชีวนะ” แต่บุรุษพยาบาลอธิบายให้พ่อฟังอย่างชัดเจน เขาเป็นบุรุษพยาบาลที่นี่แหละ(วาติกัน) เขาอยู่ที่นี่มา 30 กว่าปีแล้ว เป็นคนที่มีประสบการณ์มากๆ นี่เป็นครั้งที่สองในชีวิตที่พยาบาลช่วยชีวิตของพ่อเอาไว้
COPE: แล้วครั้งแรกตอนไหนล่ะครับ
Pope Francis: ครั้งแรกคือ ค.ศ.1957 ตอนนั้นไข้หวัดระบาดในสามเณราลัย พยาบาลในบ้านเณรรักษาพ่อด้วยยาแอสไพริน คนอื่นหายดีนะ แต่พ่อไม่ดีขึ้น เขาเลยพาพ่อไปโรงพยาบาล ที่นั่นเอง พวกเขาดูดน้ำออกจากปอดของพ่อ ตอนนั้น หมอบอกว่าพ่อต้องรักษาด้วยยาเพนิซิลิน อืม … พ่อจำไม่ได้ว่ามันมากขนาดไหน เอาว่าในปริมาณที่เยอะมากๆ เช่นเดียวกับยาสเตร็ปโตมัยซิน แต่ตอนนั้นมันมีแค่ยาปฏิชีวนะเท่านั้น พอหมอจากไป พยาบาลมาบอกกับพ่อว่า “แค่ยาปฏิชีวนะสองครั้งก็มากพอแล้ว”
COPE: สิ่งนี้ช่วยชีวิตพระองค์เหรอครับ
Pope Francis: ใช่แล้ว เพราะถ้ามันไม่ช่วย พ่อก็ไม่มาอยู่ตรงนี้หรอก
COPE: หมอสั่งห้ามพระองค์ทำอะไรบ้างไหมครับ
Pope Francis: ตอนนี้พ่อสามารถทานทุกอย่างได้แล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้พ่อทำไม่ได้เพราะมันมีติ่งในลำไส้ใหญ่ (Diverticula) พ่อยังมียาหลังผ่าตัด เพราะสมองต้องจดจำให้ได้ว่าลำไส้ตอนนี้สั้นกว่า 33 เซนติเมตรแล้ว สมองบริหารจัดการร่างกายของเรา มันต้องให้เวลาสมองจดจำเรื่องเหล่านี้ แต่นอกเหนือจากนี้ พ่อมีชีวิตที่ปกติ
หมายเหตุ: จะพยายามหาเวลามาเล่าให้ฟังนะครับ เพราะบทสัมภาษณ์ยาวมากๆ และคุ้มค่าที่จะนำมาแบ่งปันจริงๆ
Photo: COPE.es