ปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรมสำหรับนักโทษ

     พระสันตะปาปาประกาศให้เดือนพฤศจิกายนเป็นปีศักดิ์สิทธิ์สำหรับนักโทษ เรานึกถึงผู้ต้องขัง นักโทษเป็นพิเศษ สำหรับอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯของเราก็มีหน่วยงานที่ดูแล อภิบาลสำหรับบุคคลเหล่านี้ ในส่วนงานของฝ่ายสังคม แผนกผู้ถูกคุมขังและผู้อพยพย้ายถิ่น โดยมีคุณพ่อวิทยา ลัดลอย เป็นผู้จัดการแผนก ทางทีมสารฯ จึงขอให้คุณพ่อช่วยแบ่งปันประสบการณ์งานที่คุณพ่อทำเดี่ยวกับนักโทษ ติดตามอ่านได้เลยค่ะ

-งานอภิบาลผู้ต้องขัง

เยี่ยมเยียน, ประกอบวจนพิธีกรรม,ศีลอภัยบาป,ส่งศีลมหาสนิท, ให้กำลังใจ, สอนคำสอนแก่ผู้สนใจ, ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ต้องขังที่ขาดสิ่งของจำเป็น, ติดต่อญาติเท่าที่สามารถ

-ผู้อพยพย้ายถิ่น

ศูนย์คาทอลิกนักบุญอันนา,นักบุญยออากิม,นักบุญมารีสต์เพื่อสงเคราะห์ผู้อพยพย้ายถิ่น            ให้การศึกษา-จริยธรรม-ภาษาไทย-อังกฤษ-คอมพิวเตอร์ผู้ใหญ่- อาหาร-สุขอนามัย ช่วยให้ได้รับสิทธิอันควร, ประชุมร่วมกับพระสงฆ์-นักบวชชาวเวียดนามและช่วยประสานตามวัดเพื่อขอถวายมิสซาตามโอกาส, ส่งเสริมและสนับสนุนงานอภิบาลของพระสงฆ์ชาวพม่า, ร่วมกับพระสงฆ์คณะSalvarianดูแลอภิบาลชนเผ่าที่ทำงานในเขตสมุทรสาคร(เยี่ยม-พิธีบูชาขอบพระคุณ-กีฬา)

 

สถานที่ที่ไป

-ทัณฑสถานหญิงกลาง คลองเปรม

-ทัณฑสถานวัยหนุ่มกลาง ปทุมธานี

-ศูนย์คาทอลิกนักบุญอันนา,นักบุญยออากิมและนักบุญมารีสต์เพื่อสงเคราะห์ผู้อพยพย้ายถิ่น

-เยี่ยม-อภิบาลตามโรงงานที่มีชนเผ่าทำงานในเขตจังหวัดสมุทรสาคร

 

งานที่ควรทำ

-การเข้าเยี่ยมและให้การอบรมแก่ผู้ต้องขัง ยังไม่สามารถทำพิธีบูชาขอบพระคุณเพราะทางทัณฑสถานไม่อนุญาตให้นำเหล้าองุ่นเข้าไป จึงทำได้แค่วจนพิธีกรรมและส่งศีลมหาสนิท

-ถ้าเป็นไปได้อยากให้ทุกวัดมีงานเยี่ยมผู้ต้องขังในทัณฑสถานที่ใกล้ที่สุด เพราะพวกผู้ต้องขังต้องการอภัย กำลังใจและรับศีลศักดิ์สิทธิ์ ถือโอกาสให้การอบรมแก่ผู้สนใจ

 

ผู้อพยพลี้ภัย

-มีชนเผ่าจำนวนมากที่ออกจากบ้านเกิด มาทำงานต่างจังหวัด หาโอกาสที่จะอภิบาลพวกเขา พวกเขาบางคนเมื่อมาต่างถิ่นก็ไม่ทราบว่ามีวัดที่ไหน บางทีอายไม่กล้าคุยกับใครในวัด

-แรงงานต่างชาติ ช่วยเรื่องยารักษาโรคพื้นฐาน พวกแก้ปวด แก้ไข้ ยาใส่แผล บางคนสื่อภาษาไทยไม่ได้ ไม่กล้าไปซื้อยา ให้เขารู้เรื่องสิทธิแรงงานจะได้ไม่ถูกเอาเปรียบจากนายจ้าง สอนภาษาไทยเพื่อจะได้สื่อสารได้ เพื่อมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนไทย

ตอนแรกที่มีโอกาสได้ทำงานกับผู้ต้องขัง ก็โดยผ่านทางการชักชวนของคุณพ่อปิยะชาติ                  มะกรครรภ์ ได้ทำงานนี้ ซึ่งตอนนั้นพ่อเป็นพระสงฆ์ใหม่ คิดว่าจะทำอะไรให้พวกเขาได้ อยู่ต่อหน้าพวกเขาจะพูดอะไร คุณพ่อปิยะชาติ แนะนำว่าห้ามถามถึงความผิดที่เขาทำ ห้ามพูดถึงโทษที่เขาได้รับ เพราะมันจะเป็นการตอกย้ำถึงความผิดที่เขาทำ อาจทำให้พวกเขาอาย ไม่กล้าพบพวกเราอีก คุณพ่อปิยะชาติบอกว่าเราเพื่อได้ฝ่ายจิตวิญญาณ นำการอภัย เตรียมบทเทศน์ที่บรรเทาใจ ให้กำลังใจ เพื่อกลับมาเป็นคนดีอีกครั้ง ให้พวกเขาได้พบพระเมตตาของพระเจ้าโดยผ่านทางศีลอภัยบาปและศีลมหาสนิท และทุกครั้งที่ได้เข้าเยี่ยม ก็ทำให้พวกเขาได้รับพระพรจากพระกลับมาด้วย นั่นคือ ทำให้เรามีพลังและกำลังที่ทำหน้าที่พระสงฆ์ที่ดีต่อไป เหมือนพวกเขาก็ภาวนาให้เราด้วย เช่นเดียวกับเด็กๆชาวพม่าที่3ศูนย์ พวกเขาก็รู้จักมอบสิ่งดีๆช่วยเหลือกัน

คำว่า เมตตา(kindness,mercy)หมายความว่า ความรักและเอ็นดู,ความปรารถนาจะให้ผู้อื่นได้สุข(พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.๒๕๔๒)

พระวรสารนักบุญลูกา 6:37-38

เราต้องสำนึกได้ก่อนว่าเราได้รับพระเมตตาของพระเจ้าอย่างไร ในสถานการณ์ใดในชีวิต เราจึงจะสามารถเป็นผู้นำพระเมตตาของพระเจ้าไปมอบให้กับผู้อื่นได้ ปีแห่งพระเมตตาธรรมนี้จึงถือเป็นโอกาสทอง และเป็นพระเมตตาจากพระที่จะให้เราเป็นเครื่องมือที่จะนำพระเมตตาไปสู่ทุกคน