Logo

กางเขนของพระเยซู กางเขนของคริสตชน

หมวด: บทความตามเทศกาล
เขียนโดย คุณพ่อสมหมาย มธุรสสุวรรณ
ฮิต: 2389

     เมื่อพูดถึง “กางเขน” คริสตชนบางคนมักคิดถึงสิ่งที่ทำให้เราต้องอดทน ภาระที่เราต้องแบกรับ และในทางใดทางหนึ่งทำให้เราไม่เป็นอิสระสร้างความลำบากใจหรือทำให้เราเป็นทุกข์ แต่นั่นไม่ใช่ความหมายที่แท้จริงของ “กางเขน” ของพระคริสตเจ้าหรือกางเขนคริสตชน
     “กางเขน” สำหรับใครบางคนคือเครื่องมือทรมาน เครื่องประหารนักโทษเดนตายที่เจ็บปวดและทรมานที่สุดที่พบในโลกตั้งแต่ในสมัย 600 ปี ก.ค.ศ. ไปจนถึงราวค.ศ. ที่ 4 นักโทษจะถูกเฆี่ยนตีหรือบังคับให้แบกไม้กางเขนจนถึงสถานที่ถูกตรึงซึ่งมักเป็นเนินเขาที่ทุกคนสามารถเห็นได้อย่างเด่นชัดเพื่อประจารและเตือนสอนผู้พบเห็นไม่ให้เอาเยี่ยงอย่าง และแน่นอนว่าผลสุดท้ายของผู้ถูกตรึงกางเขนคือ “ความตาย” ทำให้เราเข้าใจกางเขนว่าคือความตายได้ไม่ยาก
     เราอาจจะเข้าใจความหมายของ “กางเขนของพระเยซูเจ้า” ได้ในบริบทของพระคัมภีร์ นักบุญยอห์นได้เขียนพระวรสารกล่าวถึงพระเยซูคริสตเจ้าว่าพระองค์เป็นลูกแกะของพระเจ้า ผู้พลีพระชนม์เพื่อยกบาปของโลก (ยน 1: 29) ทำให้เรานึกถึงเหตุการณ์ปัสกาของชาวยิว (อพยพ 12) พวกเขาถูกสั่งให้ถวายบูชาด้วยลูกแกะไร้มลทิน และนำเลือดของลูกแกะทาไว้ที่ประตูบ้านของตน เลือดนั้นเองเป็นเครื่องหมายให้ทูตแห่งความตายผ่านเลยไปทำให้พวกเขารอดชีวิต ยอห์น บัปติสต์ได้ชี้แสดงขณะที่พระเยซูเจ้าเสด็จผ่านมาว่า “นี่คือลูกแกะพระเจ้า ผู้ทรงลบล้างบาปของโลก” ทำให้เราเห็นว่าพระเยซูเจ้านี้แหล่ะคือผู้ที่พระเจ้าได้กำหนดให้เป็นเครื่องบูชาชดเชยบาปของมวลมนุษย์
     ทำไมพระเยซูเจ้าต้องตายบนกางเขน ท้าทายเราให้ทำความเข้าใจเรื่องแผนการไถ่กู้ของพระเป็นเจ้า ซึ่งมีบันทึกไว้ในพระคัมภีร์ทำให้เรารับรู้ว่า พระเจ้าทรงรักมนุษย์ที่พระองค์ทรงสร้าง และเพราะการยอมตามการชักชวนของปีศาจมนุษย์ได้ทำบาป จนมีผลให้ต้องอยู่อย่างลำบากและรับผลของบาปคือความตาย พระเจ้าจึงส่งพระวจนาตถ์พระบุตรแต่องค์เดียวให้มารับสภาพมนุษย์บังเกิดจากหญิงพรหมจารีย์ผู้หนึ่ง พระเยซูเจ้าได้เอาชนะบาปและความตายเป็นเหมือนเครื่องบูชาชดเชยบาปด้วยการยอมรับความตายบนไม้กางเขน เพราะเห็นแก่ความรักต่อพระเป็นเจ้าจึงยอมตามแผนการของพระองค์ เพราะเห็นแก่ความรักต่อมนุษย์จึงยอมมอบตนรับความตายบนไม้กางเขน กางเขนของพระเยซูเจ้าจึงเป็นเครื่องหมาย “ความรัก” เป็นความรักสูงสุดที่มนุษย์คนหนึ่งสามารถที่จะทำได้คือการยอมตายแทนคนที่ตนรัก เมื่อเรามองดูที่กางเขนเราจึงเห็นความรักของพระเยซูเจ้า เราจึงเห็นความรักของพระเจ้าที่มีต่อเรามนุษย์ กางเขนจึงมีความหมายสำหรับเราคริสตชนมากกว่าเป็นเพียงภาระหนักที่ต้องแบก มากกว่าสิ่งที่ทำให้เราต้องทรมานจนถึงความตาย
     อย่างไรก็ดีพระเยซูเจ้าเองก็ยังเชิญชวนผู้ที่ติดตามพระองค์ให้ “แบกกางเขน” และติดตามพระองค์ไป “ ถ้าผู้ใดอยากติดตามเรา ก็จงเลิกนึกถึงตนเอง จงแบกไม้กางเขนของตนและติดตามเรา” (มธ 16:24) เราจึงควรไม่ลืมว่าพระเยซูเจ้าเรียกร้องให้ศิษย์ที่ติดตามพระองค์รู้จักปฏิเสธตนเอง และรับภาระหรือพันธกิจที่พระองค์ทรงมอบให้ เหมือนกับที่นักบุญเปาโลได้กล่าวไว้ว่า “ข้าพเจ้าได้ถูกตรึงไว้กับพระคริสตเจ้าแล้ว ข้าพเจ้าเองไม่มีชีวิตอีกต่อไป แต่เป็นพระคริสตเจ้าผู้เจริญชีวิตอยู่ในข้าพเจ้า” ขอให้กางเขนที่เราได้รับกลายเป็นเครื่องหมายแห่งความรักที่เรามอบให้กับพระเจ้าและกับเพื่อนพี่น้องของเราเสมอ...