Logo

บทเทศน์สอนวันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน 2024 สัปดาห์ที่ 32 เทศกาลธรรมดา

หมวด: บทเทศน์สอน วันอาทิตย์ โดยคุณพ่อชัยยะ กิจสวัสดิ์
เขียนโดย คุณพ่อชัยยะ กิจสวัสดิ์
ฮิต: 296

พระวรสารวันนี้ มีทั้งเตือน ทั้งกระตุ้น ควบคู่กันไปเลย

     เรื่องแรก พระเยซูเจ้าทรงเตือนเราให้ระวัง อย่าไปเลียนแบบอย่างของพวกธรรมาจารย์ที่ชอบโอ้อวดสวมเสื้อยาวเดินไปมา หรือชอบให้คนเคารพยกย่อง ชอบทำตัวให้เด่น
ที่สำคัญ พระองค์บอกว่า “คนพวกนี้กินบ้านของหญิงม่าย” ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่หนักที่สุด
     คือมีบันทึกไว้โดยโยเซฟุส ซึ่งเป็นนักประวัติศาสตร์ชาวยิวและเป็นฟาริสีคนหนึ่งว่า พวกฟาริสีเคยสมรู้ร่วมคิดกันหลอกลวงหาผลประโยชน์จากผู้อื่นโดยเฉพาะจากพวกผู้หญิง
เนื่องจากพวกฟาริสีจะรับค่าตอบแทนจากการสอนธรรมบัญญัติและกฎหมายไม่ได้ ทุกคนต้องทำงานหาเลี้ยงชีพด้วยตนเอง พวกเขาจึงสมรู้ร่วมคิดกัน “สร้างมูลค่าเพิ่ม” ให้กับตนเองโดยรวมหัวกันสอนว่า พวกเขาเป็นที่โปรดปรานของพระเจ้าเพราะรอบรู้และเชี่ยวชาญเรื่องธรรมบัญญัติของพระองค์ ดังนั้นจึงไม่มีหน้าที่ใดจะยิ่งใหญ่ไปกว่าการเลี้ยงดู “รับบี” ให้ได้รับความสะดวกสบาย เพราะการทำเช่นนี้จะทำให้ตำแหน่งในสวรรค์เลื่อนสูงขึ้น
ผลที่ตามมาก็คือผู้หญิงจำนวนมากโดยเฉพาะผู้ที่ยากจนขัดสนอย่างเช่นหญิงม่าย ต้องแบกรับภาระหนักเลี้ยงดูจอมเจ้าเล่ห์พวกนี้ที่ใช้ศาสนาเป็นเครื่องมือทำมาหากิน
     พี่น้องครับ ทุกวันนี้เราปฏิเสธไม่ได้ว่ายังมีคนอีกไม่น้อย ที่ใช้ศาสนาเป็นเครื่องมือสำหรับแสวงหาผลประโยชน์ใส่ตน เราต้องไม่ลืมคำของพระเยซูเจ้าที่บอกว่า “คนเหล่านี้จะรับโทษหนักกว่าผู้อื่น” และจริงๆ แล้วพระองค์ก็เคยใช้เชือกทำเป็นแส้ ขับไล่พวกพ่อค้าและคนแลกเงินที่หากินกับคนที่มานมัสการพระเจ้าในพระวิหาร พระองค์บอกว่า “อย่าทำบ้านของพระบิดาของเราให้เป็นตลาด” (ยน 2:15-16)
     เรื่องที่สอง นอกจากทรงห้ามใช้ศาสนาเป็นเครื่องแสวงหาผลประโยชน์ใส่ตนแล้ว พระองค์ยังทรงกระตุ้นและเชิญชวนเราทุกคนให้ “ใจกว้าง” ต่อพระเจ้าและต่อเพื่อนมนุษย์อีกด้วย
     วันหนึ่ง ขณะที่พระองค์อยูในพระวิหารที่กรุงเยรูซาเล็ม ในบริเวณที่เป็นลานสำหรับผู้หญิงและเด็ก ที่ลานนี้มีตู้ทาน 13 ตู้ แต่ละตู้มีวัตถุประสงค์เฉพาะ เช่น เพื่อซื้อเหล้าองุ่น น้ำมัน ฟืน ฯลฯ สำหรับใช้ในการถวายบูชาและเป็นค่าใช้จ่ายประจำวันของพระวิหาร พระองค์ทอดพระเนตรเห็นคนมั่งมีหลายคนใส่เงินจำนวนมากลงในตู้ทาน ที่สุดมีหญิงม่ายยากจนคนหนึ่งเข้ามา นางใส่เหรียญทองแดงสองเหรียญลงในตู้ทาน
เหรียญทองแดงมีค่าน้อยที่สุดในสมัยนั้น เปรียบได้กับเหรียญหนึ่งสตางค์ในบ้านเรา !
     กระนั้นก็ตาม พระองค์ทรงชื่นชมการบริจาคของนางมากกว่าคนอื่น เพราะคนอื่นเอาเงินที่เหลือใช้มาทำทาน แต่นางนำเงินทั้งหมดที่มีอยู่สำหรับเลี้ยงชีวิตมาทำทาน
จริงๆ แล้ว นางจะเก็บเหรียญทองแดงไว้สักเหรียญหนึ่งก็ได้ ซึ่งแม้จะไม่มีค่ามากนัก แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรเลย
อย่างไรก็ตาม นางให้ทุกสิ่งที่มี !!!
นางซึ่งเป็นหญิงม่ายไร้ที่พึ่งและยังยากจนอีกด้วย !!!
     นอกจากหญิงม่ายยากจนคนนี้แล้ว หญิงม่ายที่เมืองศาเรฟัทซึ่งเราได้ฟังในบทอ่านที่หนึ่งวันนี้ก็เช่นเดียวกัน ทั้งๆ ที่นางมีแป้งเหลือเพียงหยิบมือเดียวและน้ำมันมะกอกอีกนิดหน่อย ตั้งใจว่าจะทำขนมปังกินกับลูกชายเป็นครั้งสุดท้ายก่อนอดตาย แต่นางก็ยัง “ใจกว้าง” ทำขนมปังมาให้ประกาศกเอลียาห์กินก่อน
ช่างน่าพิศวงและก็น่าชื่นชมจริงๆ ที่หญิงม่ายที่กำลังจะอดตาย รวมถึงหญิงม่ายยากจนที่ทั้งเนื้อทั้งตัวมีเพียง 2 สตางค์ กลับ “ใจกว้าง” ได้มากขนาดนี้
     พี่น้องครับ สภาพสังคมในสมัยของพระเยซูเจ้านั้น ผู้หญิงต้องตกเป็นเบี้ยล่างและต้องขึ้นอยู่กับผู้ชายเสมอ เมื่อเป็นหญิงม่ายจึงกลายเป็นเบี้ยล่างที่ไร้ที่พึ่ง เป็นคนที่ขัดสนน่าสงสารจริงๆ หญิงม่ายในพระคัมภีร์จึงเป็นสัญลักษณ์ของผู้ที่ไม่มีปากเสียง ไม่มีหนทางหารายได้ ไม่มีอำนาจต่อรองใดๆ ทั้งสิ้น
     พี่น้องคิดว่าในสังคมของเราทุกวันนี้ยังมีคนยากจนขัดสนหมดหนทางแบบนี้อีกไหม?
เราได้เห็นตัวอย่างของหญิงม่ายที่เมืองศาเรฟัทกับหญิงม่ายยากจนในพระวรสารวันนี้แล้ว เรายังจะใจเย็นเฉย ไม่รู้ร้อนรู้หนาว ไม่คิดจะยื่นมือไปช่วยเหลือคนเหล่านี้ ไปทำให้พวกเขามีโชคชะตาที่ดีขึ้นดอกหรือ?
หรือเราจะทำแค่บอกพวกเขาให้สวดภาวนาให้มากขึ้นแล้วทุกอย่างจะดีขึ้นเอง ทั้งๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่ามันต้องทำมากกว่าสวดภาวนาเพื่อจะทำให้ชีวิตของพวกเขาดีขึ้น
เราจะยอมให้ศาสนาคริสต์เป็นศาสนาที่มีแต่ข่าวดีที่ไร้พลัง เป็นได้เพียงยาฝิ่นที่มอมเมาประชาชนให้พอใจกับสิ่งที่เป็นอยู่แค่นั้นหรือ?
     หรือว่าเราจะหันมาช่วยกันทำให้ข่าวดีของพระเยซูเจ้าเป็นข่าวดีที่ช่วยปลดปล่อยและเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้คนและสังคมให้ดีขึ้น
พี่น้องครับ เชื่อว่าเราทุกคนรู้ว่าตามทฤษฎีแล้วเราจะต้องตอบอย่างไร วันนี้ให้เราวอนขอพระเยซูเจ้า โปรดให้เราทุกคนได้ลงมือปฏิบัติอย่างจริงจังดังเช่นหญิงม่ายที่เราได้เห็นแบบอย่างในวันนี้ด้วยเทอญ