Logo

บทเทศน์สอนวันอาทิตย์ที่ 16 มิถุนายน 2024 สัปดาห์ที่ 11 เทศกาลธรรมดา

หมวด: บทเทศน์สอน วันอาทิตย์ โดยคุณพ่อชัยยะ กิจสวัสดิ์
เขียนโดย คุณพ่อชัยยะ กิจสวัสดิ์
ฮิต: 615

        พี่น้องกลัวถูกเนรเทศออกจากร่างกาย คือกลัวตายไหม ?

        แปลกที่เราเป็นคริสตชนซึ่งเชื่อว่า เมื่อเราตาย เราจะกลับไปหาพระเจ้าพระบิดาผู้ทรงเป็นที่รักของเรา แล้วทำไมเราถึงยังกลัวความตายและก็กลัวที่จะตายด้วยล่ะ ?

        มีอะไรในความเชื่อของเราที่ทำให้เรากลัวตายหรือ ?

        ในฐานะคริสตชน เราเชื่อว่าหลังความตายจะมีการพิพากษา แต่ผลของการพิพากษาจะออกมาหัวหรือก้อยล่ะ ?

        ไอ้ความไม่แน่นอนว่าผลมันจะออกมาหัวหรือก้อยนี่แหละที่ทำให้เรากลัวความตายและก็กลัวที่จะตายด้วย

        แต่นักบุญเปาโลสามารถเอาชนะความไม่แน่นอนและความกลัวตายที่มาพร้อมกับความไม่แน่นอนได้ !

        นักบุญเปาโลบอกเราในบทอ่านที่สองว่า “เรามีความมั่นใจและปรารถนาที่จะถูกเนรเทศจากร่างกายมากกว่า เพื่อไปอยู่กับองค์พระผู้เป็นเจ้า” ก็แปลว่าเคล็บลับของนักบุญเปาโลอยู่ที่การ “สร้างความมั่นใจ” ให้กับตนเอง

        และนักบุญเปาโลได้ให้แนวทางอันเป็นเคล็ดลับในการสร้างความมั่นใจให้แก่เรา 2 ประการด้วยกัน

        ประการแรก นักบุญเปาโลบอกว่า “เราดำเนินชีวิตด้วยความเชื่อ มิใช่ตามที่มองเห็น” 

        นั่นคือนักบุญเปาโลสร้างความมั่นใจโดยการมองสิ่งต่างๆ ด้วยสายตาของความเชื่อ ไม่ใช่ตามที่ตามองเห็น หรือตามที่ประสาทสัมผัสของเรารู้สึก

        พูดง่ายๆ ก็คือเราจำเป็นต้องประเมินสถานการณ์และตัดสินใจทำสิ่งต่างๆ ด้วยแสงสว่างของความเชื่อ ไม่ใช่ตามความคิดของชาวโลก อย่างเช่น ชาวโลกมองความตายว่าเป็นจุดจบ แต่ตามความเชื่อ เรามองว่ามันเป็นหนทางทำให้เราเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า ซึ่งก็คือได้ “ไปอยู่กับพระองค์”

        ความตายจึงมิใช่ความมืดมิด แต่เป็นรุ่งอรุณของชีวิตใหม่ ชีวิตที่ได้อยู่กับพระเจ้า !

        เมื่อใดก็ตามที่เราสามารถมองความตายว่าเป็นการเข้าสู่ชีวิตใหม่ที่สมบูรณ์เต็มเปี่ยมกับพระเจ้า เป็นการเข้าไปครอบครองสิ่งที่หัวใจของเราปรารถนาอย่างยิ่ง เมื่อนั้นแหละเราจะมองความตายว่าเป็นสิ่งที่เราเฝ้าคอยด้วยความมั่นใจ ไม่ใช่ด้วยความกลัว

        ประการที่สอง นักบุญเปาโลบอกว่า “ดังนั้น ไม่ว่าเราจะอยู่ในร่างกายหรือถูกเนรเทศจากร่างกาย เราก็มีความมุ่งมั่นที่จะทำให้เป็นที่พอพระทัย

        นั่นคือนอกจากจะมีความหวังในชีวิตหลังความตายด้วยความมั่นใจแล้ว นักบุญเปาโลยังมุ่งมั่นทำทุกสิ่งให้พระเจ้าพอพระทัย ไม่ว่าจะมีชีวิตอยู่หรือตาย ไม่ว่าจะเป็นเวลาใด สถานที่ใด หรือสภาพแวดล้อมใดก็ตาม

        ตรงนี้แหละที่ทำให้นักบุญเปาโลแตกต่างจากเราคริสตชน เพราะเรายืนยันว่าจะเชื่อคำสอนทุกข้อและจะปฏิบัติกิจศรัทธาอย่างสม่ำเสมอ แต่เมื่อความเชื่อเรียกร้องให้เรารับใช้พระเจ้าและเพื่อนมนุษย์ เรากลับไม่ทำ เราได้คะแนนสูงมากในเรื่องการมาวัด แต่กลับได้คะแนนต่ำมากในการใช้ชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะการแสดงความรักต่อเพื่อนมนุษย์ในที่ทำงาน หรือแม้แต่ภายในครอบครัวของเราเองก็ตาม คือ เราไม่ได้มุ่งมั่นที่จะทำให้พระเจ้าพอพระทัยทุกเวลา ทุกสถานที่ !

        นี่แหละคือสาเหตุที่ทำให้เรากลัวที่จะตายและกลัวการพิพากษา เพราะเราเชื่อ เราสวด แต่เราไม่ปฏิบัติ พี่น้องจำได้ไหม พระเยซูเจ้าตรัสว่า “คนที่กล่าวแก่เราว่า ‘พระเจ้าข้า พระเจ้าข้า’ นั้นมิใช่ทุกคนจะได้เข้าสู่อาณาจักรสวรรค์ แต่ผู้ที่ปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระบิดาของเรา ผู้สถิตในสวรรค์นั่นแหละจะเข้าสู่สวรรค์ได้” (มธ 7:21)

        พี่น้องครับ หากพี่น้องต้องการจะเอาชนะความกลัวตายเหมือนอย่างนักบุญเปาโล พี่น้องก็ต้องตัดสินใจตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป ว่าจะดำเนินชีวิตด้วยความเชื่อและมุ่งมั่นจะทำทุกสิ่งเพื่อให้เป็นที่พอพระทัยของพระเจ้า

        อย่างไรก็ตาม เป็นไปได้ว่า หลังจากเราอุทิศตนดำเนินชีวิตด้วยความเชื่อและมุ่งมันทำให้พระเจ้าพอพระทัยหลายปีแล้ว แต่กลับรู้สึกว่าชีวิตภายในของเราไม่ก้าวหน้าเลย เราชักเริ่มท้อใจและสิ้นหวัง...

        แต่พี่น้องครับ พระวรสารวันนี้ยืนยันว่า ตราบใดที่เรายังดำรงอยู่ในพระเจ้า เมล็ดพันธุ์แห่งความเชื่อและพระวาจาของพระองค์ที่หว่านลงในจิตใจของเราจะยังคงเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องและจะบังเกิดผลสำหรับการเก็บเกี่ยว ดุจเดียวกับเมล็ดพืชที่เมื่อหว่านไปแล้ว มันก็เจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องและมั่นคง ไม่ว่าจะเป็นเวลากลางวันหรือกลางคืน แม้เราจะมองไม่เห็นและไม่รู้ว่ามันเจริญเติบโตได้อย่างไรก็ตาม

        เช่นเดียวกัน อุปมาเรื่องเมล็ดมัสตาร์ดในพระวรสารวันนี้ก็สอนให้เราอย่าได้มองข้ามสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่เรากระทำเพื่อพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์ เมล็ดมัสตาร์ดนั้นมีขนาดเล็กมาก แต่เมื่อเติบโตมันจะกลายเป็นต้นไม้ใหญ่

        ดังนั้นเราต้องสำนึกอยู่เสมอว่าทุกสิ่งต้องเริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆ ก่อน จริงอยู่ สิ่งที่เราเริ่มต้นทำครั้งแรกดูเหมือนจะบังเกิดผลเพียงเล็กน้อย จนเราอาจรู้สึกว่าไม่มีประโยชน์อะไรที่จะเริ่ม แต่เราต้องระลึกอยู่เสมอว่าทุกสิ่งจำเป็นต้องมีจุดเริ่มต้น ไม่มีต้นไม้ใดเกิดมาก็โตเต็มที่เลย หากเราเริ่มต้นทำสักสิ่งหนึ่งวันนี้ แล้วพยายามทำต่อไปสุดความสามารถ ผลแห่งความเพียรพยายามทีละเล็กทีละน้อยของเราจะสะสมจนกระทั่งกลายเป็นความสำเร็จอันน่าพิศวงในบั้นปลายได้

        พี่น้องครับ หากเราไม่อยากกลัวตาย แต่อยากจะเฝ้าคอยมันด้วยความหวังและความมั่นใจ ก็ให้เราวอนขอพระเยซูเจ้าผ่านทางท่านนักบุญเปาโล โปรดให้เราดำเนินชีวิต มิใช่ตามที่ตามองเห็น แต่ตามความเชื่อ และโปรดให้เรามุ่งมั่นทำทุกสิ่งเพื่อให้เป็นที่พอพระทัยของพระเจ้าทุกที่ ทุกเวลาด้วยเทอญ