Logo

บทเทศน์สอน วันอาทิตย์ที่ 27 สิงหาคม 2023 สัปดาห์ที่ 21 เทศกาลธรรมดา

หมวด: บทเทศน์สอน วันอาทิตย์ โดยคุณพ่อชัยยะ กิจสวัสดิ์
เขียนโดย คุณพ่อชัยยะ กิจสวัสดิ์
ฮิต: 544

     นักบุญเปาโลบอกเราในบทอ่านที่สองวันนี้ว่า พระเจ้าทรงเปี่ยมด้วยพระปรีชาและทรงรอบรู้ลึกล้ำ คำตัดสินของพระองค์สุดที่จะหยั่งรู้ได้ และมรรคาของพระองค์ก็สุดที่จะเข้าใจได้...!
ฟังแล้วดูเหมือนเราจะไม่มีทางเข้าใจหนทางของพระเจ้าได้เลย !
     แต่พี่น้องอย่าพึ่งถอดใจนะ เพราะบทอ่านวันนี้ทำให้เรารู้ว่า ทุกสิ่งที่ดูเหมือนจะลึกล้ำเข้าใจไม่ได้ขณะที่เกิดเหตุการณ์นั้นในอดีต พระเจ้าจะทรงค่อยๆ เปิดเผยมันออกมาให้เราเข้าใจได้ในที่สุด
ตัวอย่างเช่น ในสมัยของประกาศกอิสยาห์ เชบนาซึ่งเป็นผู้ดูแลราชสำนัก ได้ทำสิ่งที่ขัดกับหนทางของพระเจ้าโดยการชักชวนกษัตริย์เฮเซคียาห์ให้เอาใจออกห่างจากอัสซีเรีย แล้วหันหน้าไปพึ่งพาอียิปต์แทนที่จะพึ่งพาพระเจ้า จนเป็นเหตุให้อาณาจักรทางเหนือต้องพินาศและสิ้นชาติไปเพราะน้ำมือของกองทัพอัสซีเรีย พระเจ้าจึงตรัสแก่เชบนาผ่านทางประกาศกอิสยาห์ว่า “เราจะถอดท่านออกจากหน้าที่และตำแหน่ง แล้วจะมอบอำนาจของท่านไว้ในมือของเอลียาคิม เราจะวางกุญแจราชวังของกษัตริย์ดาวิดไว้บนบ่าของเขา ถ้าเขาเปิด จะไม่มีผู้ใดปิด ถ้าเขาปิด จะไม่มีผู้ใดเปิดได้” จากพระดำรัสนี้ก็เท่ากับว่าเอลียาคิมจะมีอำนาจเต็มในอันที่จะอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้ผู้ใดเข้าไปภายในราชสำนักก็ได้
     ถามว่าในสมัยของประกาศกอิสยาห์ จะมีผู้ใดรับรู้ถึงความลึกล้ำแห่งหนทางของพระเจ้าเรื่องกุญแจบ้างไหม ว่าอีก 700 ปีต่อมา พระเยซูเจ้าจะตรัสกับเปโตรเช่นเดียวกันว่า “เราจะมอบกุญแจอาณาจักรสวรรค์ให้” ทุกวันนี้พี่น้องก็ทราบแล้วว่า กุญแจอาณาจักรสวรรค์มีความสำคัญใหญ่หลวงต่อพระศาสนจักรคาทอลิกของเรามากเพียงใด เพราะว่าทุกสิ่งที่พระสันตะปาปาจะผูกบนแผ่นดินนี้ จะผูกไว้ในสวรรค์ด้วย และทุกสิ่งที่พระสันตะปาปาจะแก้ในแผ่นดินนี้ ก็จะแก้ในสวรรค์ด้วย
เห็นความลึกล้ำของพระเจ้าไหม พระองค์ตรัสทำนายถึงกุญแจนี้ไว้ล่วงหน้าแล้วในหนังสือประกาศกอิสยาห์ที่เราได้ฟังในบทอ่านที่หนึ่งวันนี้
     และเมื่อหันมาดูพระวรสารวันนี้ เราก็จะยิ่งเห็นความลึกล้ำและพระปรีชาของพระเจ้ามากยิ่งขึ้นไปอีก พระเจ้าทรงปกปิดฐานะของพระเยซูเจ้าไว้จนไม่มีผู้ใดล่วงรู้ว่าพระองค์เป็นใคร ทำให้บางคนคิดว่าพระองค์เป็นยอห์นผู้ทำพิธีล้างบ้าง บางคนคิดว่าเป็นประกาศกเอลียาห์บ้าง บางคนคิดว่าเป็นประกาศกเยเรมีย์บ้าง ยิ่งตอนท้ายของพระวรสารวันนี้ พระเยซูเจ้าทรงกำชับบรรดาศิษย์มิให้บอกใครว่าพระองค์คือพระคริสตเจ้า พวกศิษย์ยิ่งงงเข้าไปใหญ่ เพราะในความคิดของพวกเขาก็คือถ้าพระองค์เป็นพระคริสต์ หรือเป็นกษัตริย์ผู้ช่วยให้รอด แล้วยังจะต้องกลัวสิ่งใดอีกเล่า?
     ต้องรอจนพระเยซูเจ้ากลับคืนชีพอย่างรุ่งโรจน์แล้วนั่นแหละ พวกเขาจึงเข้าใจความลึกล้ำแห่งหนทางของพระเจ้า พวกเขาจึงรู้ว่าอาณาจักรของพระเจ้าไม่ใช่อาณาจักรบนโลกนี้ หากฐานะของพระเยซูเจ้าถูกเปิดเผยก่อนหน้านี้ ชาวยิวซึ่งคิดแต่จะสร้างอาณาจักรบนโลกนี้ก็คงจะชูพระองค์เป็นกษัตริย์ แล้วก่อการจลาจลต่อต้านพวกโรมัน แล้วก็ลงเอยว่าพระเยซูเจ้า แทนที่จะเป็นผู้นำความรอดพ้น ก็จะกลายเป็นผู้นำความหายนะมาสู่ชาวยิว
     นอกจากนี้ ในสมัยของพระเยซูเจ้า ใครจะเชื่อว่าเปโตรซึ่งเป็นชาวประมงธรรมดาๆ จะกลายเป็นผู้นำของพระศาสนจักรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดได้? ใครจะเชื่อว่าพระเยซูเจ้าจะทรงเลือกเปโตรทั้งๆ ที่รู้ล่วงหน้าว่าเปโตรจะปฏิเสธพระองค์ถึงสามครั้ง?
     เวลานั้น การเลือกเปโตรเป็นเรื่องล้ำลึกสุดที่ใครจะเข้าใจหรือหยั่งรู้ได้ แต่มาวันนี้ เราทุกคนก็เห็นว่าพระเจ้าทรงทำให้ทุกสิ่งสำเร็จไปตามหนทางของพระองค์ เราเห็นว่าพระองค์ทรงทำให้คนอย่างเปโตร ซึ่งไม่ได้เป็นคนดีสมบูรณ์แบบ ทำงานให้พระองค์ได้อย่างไร? เราเห็นว่าพระองค์ทรงเรียกคนที่ไร้การศึกษาอย่างเปโตรให้มาแสดงพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์ได้อย่างไร? เราเห็นว่าหนทางสุดลึกล้ำของพระองค์ค่อยๆ เปิดเผยออกมาอย่างไร
     พี่น้องครับ เคยไหมที่บางครั้งเราเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมสิ่งนี้หรือสิ่งนั้นจึงเกิดขึ้นกับชีวิตของเรา ถ้าเราเคยประสบกับเหตุการณ์ทำนองนี้ สิ่งที่เราเรียนรู้จากบทอ่านวันนี้ก็คือพระเจ้าทรงรอบรู้ทุกสิ่ง ทุกสิ่งล้วนมาจากพระองค์ โดยทางพระองค์ และเพื่อพระองค์ ในเมื่อพระเจ้าทรงล่วงรู้ทุกสิ่งและทุกสิ่งก็มาจากพระองค์ เราจึงมั่นใจได้ว่าทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับชีวิตของเราล้วนแล้วแต่เป็นไปเพื่อความดีและเพื่อความก้าวหน้าฝ่ายวิญญาณของเราแต่ละคน และของพระศาสนจักรส่วนรวมด้วย แม้ว่าขณะที่เกิดเหตุการณ์นั้น เราอาจจะไม่เข้าใจว่าทำไมสิ่งต่างๆ เหล่านี้จึงเกิดขึ้นกับชีวิตของเราก็ตาม
     พี่น้องลองมองย้อนกลับไปดูเหตุการณ์เมื่อห้าหรือสิบปีก่อน ซึ่งตอนนั้นดูเหมือนจะเข้าใจไม่ได้เอาซะเลย มาวันนี้เราอาจจะมองเห็นประโยชน์ด้านจิตใจหรือด้านวิญญาณที่เราได้รับจากเหตุการณ์ในอดีตนั้นก็ได้ ซึ่งก็หมายความว่า แม้หนทางของพระเจ้าดูเหมือนจะลึกล้ำเกินกว่าจะเข้าใจได้เมื่อห้าหรือสิบปีก่อน แต่บัดนี้พระองค์ทรงเปิดเผยให้เรามองเห็นและเข้าใจได้แล้ว
หรือขณะนี้พี่น้องอาจไม่เข้าใจว่าทำไมพระเจ้าจึงโปรดให้เกิดวิกฤติไวรัสโควิด-19ทั่วโลก แต่พระองค์จะทรงเปิดเผยให้เราเข้าใจได้ในที่สุด
     เพราะฉะนั้น พี่น้องครับ ตลอดอาทิตย์นี้ ขอให้เราหวนคิดถึงอดีตของเรา รำพึงถึงอดีตของเรา และรำพึงถึงหนทางอันล้ำลึกของพระเจ้าที่ทรงนำเรามาจนถึงวันนี้ เพื่อเราจะได้ตระหนักว่าทุกสิ่งที่พระองค์ทรงกระทำกับเราก็เพื่อเราจะได้เจริญก้าวหน้าในพระพรของพระองค์ และเมื่อเราได้เข้าถึงความลึกล้ำแห่งพระมรรคาของพระองค์แล้ว เราจะได้ตอบพระเยซูเจ้าเช่นเดียวกับนักบุญเปโตรว่า “พระองค์คือพระคริสตเจ้า พระบุตรของพระเจ้าผู้ทรงชีวิต” และจะได้ขอบพระคุณพระองค์ พร้อมกับสรรเสริญพระองค์สำหรับทุกสิ่งที่พระองค์ทรงกระทำแก่เรา ทั้งในระหว่างพิธีบูชาขอบพระคุณวันนี้ และทุกๆ วันตลอดไป