ปกติวันฉลองของพระศาสนจักรมักจะเกี่ยวข้องกับบุคคลหรือเหตุการณ์ต่างๆ ในแผนการแห่งความรอด เช่น การประสูติของพระเยซูเจ้า การสิ้นพระชนม์ การกลับคืนพระชนมชีพ และการเสด็จสู่สวรรค์ ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในอดีต
แต่วันนี้ พระศาสนจักรฉลอง ไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในอดีต แต่ฉลอง “ความเป็นจริง” ภายในชีวิตของพระเจ้าเองซึ่งดำรงอยู่ตลอดนิรันดร
ความเป็นจริงภายในชีวิตของพระเจ้าก็คือ “พระเจ้าหนึ่งเดียวทรงเป็นสามพระบุคคล คือ พระบิดา พระบุตร และพระจิต ทั้งสามพระบุคคลนี้ต่างกัน และเท่ากัน” ซึ่งเราเรียกความเป็นจริงนี้ว่า “พระตรีเอกภาพ”
ถ้าเราคิดว่าบทอ่านทั้งสามบทในวันนี้จะอธิบายให้เราเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งเกี่ยวกับพระตรีเอกภาพว่าสามพระบุคคลซึ่งต่างกัน และเท่ากัน จะเป็นพระเจ้าเดียวได้อย่างไรกัน เราเข้าใจผิด เพราะอันที่จริงคำว่า “พระตรีเอกภาพ” เองก็ไม่มีปรากฏอยู่ในพระคัมภีร์ด้วยซ้ำไป
กระนั้นก็ตาม แม้คำพระตรีเอกภาพจะไม่มีอยู่ในพระคัมภีร์ แต่ข้อความในพระคัมภีร์มากมายก็นำมาสู่ข้อความเชื่อเรื่องพระตรีเอกภาพ อย่างเช่น ในบทอ่านที่หนึ่งวันนี้ พระเจ้าตรัสกับโมเสสก่อนจะประทานแผ่นศิลาจารึกพระบัญญัติสิบประการชุดที่สองว่า “เราเป็นพระยาห์เวห์ พระเจ้าผู้เมตตาและกรุณา” นี่ก็ทำให้เรารู้แน่ว่ามีพระเจ้าผู้ทรงเปี่ยมด้วยความเมตตาและกรุณาต่อเรามนุษย์
ในบทอ่านที่สอง นักบุญเปาโลอวยพรชาวโครินทร์ว่า “ขอพระหรรษทานของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอความรักของพระเจ้าและความสนิทสัมพันธ์ของพระจิตเจ้า สถิตอยู่กับทุกท่านเทอญ” นี่ก็เป็นการวอนขอพระพรทั้งจากพระเจ้าพระบิดา จากพระบุตรเยซูคริสตเจ้า และจากพระจิตเจ้า ครบทั้งสามพระบุคคลเลย
และในพระวรสารวันนี้ พระเยซูเจ้าก็ตรัสถึงพระเจ้าพระบิดาว่าทรงรักโลกอย่างมาก จนถึงกับประทานพระบุตรเพียงพระองค์เดียว เพื่อทุกคนที่เชื่อในพระบุตรจะไม่พินาศ แต่จะมีชีวิตนิรันดร
จากสิ่งที่พระเจ้าทรงเปิดเผยในพระคัมภีร์นี้เอง พระศาสนจักรตั้งแต่ยุคเริ่มแรกจึงพัฒนาความคิดในพระคัมภีร์มาสู่ข้อความเชื่อเรื่องพระตรีเอกภาพ ซึ่งแม้จะเป็นข้อความเชื่อที่เป็นที่ถกเถียงกันมากที่สุด แต่ก็เป็นหนึ่งในข้อความเชื่อที่น่ารักและน่าชื่นชมมากที่สุดเช่นกัน
ที่ว่าเป็นข้อความเชื่อที่ถกเถียงกันมากที่สุดก็เพราะคำสอนเรื่องพระตรีเอกภาพเป็นธรรมล้ำลึก ที่เรียกว่าธรรมล้ำลึกนั้น มิได้หมายความว่าเป็นเรื่อง “ลี้ลับ” แต่หมายความว่าเป็น “ความเป็นจริง” ที่อยู่เหนือความเข้าใจของมนุษย์
เราไม่อาจอธิบายได้ว่า ทำไมสามพระบุคคลซึ่งแตกต่างกัน และเท่าเสมอกัน จะรวมเป็นพระเจ้าเดียวกันได้อย่างไรกัน ตรงนี้อยู่เหนือความสามารถของมนุษย์ที่จะเข้าใจเรื่องของพระเจ้าได้ทั้งหมด
พี่น้องครับ แม้เราจะไม่เข้าใจว่าสามพระบุคคลจะทรงเป็นพระเจ้าเดียวได้อย่างไรกัน แต่สิ่งที่เราเข้าใจได้และสำคัญกว่ามากก็คือ ทำไมพระเจ้าจึงทรงเปิดเผยธรรมชาติภายในชีวิตของพระองค์เองว่าทรงเป็น “พระตรีเอกภาพ” ให้แก่เรา ?
เพื่อจะตอบคำถามนี้ให้เราย้อนกลับไปตอนพระเจ้าทรงเนรมิตสร้างโลก พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ตามฉายาของพระองค์ ให้เหมือนพระองค์ เพราะฉะนั้นพระองค์จึงทรงเปิดเผยพระธรรมชาติของพระองค์ให้เรามนุษย์ได้รับทราบก็เพื่อเราจะได้ดำเนินชีวิตให้เหมือนพระองค์ ให้สมกับที่เป็นฉายาของพระองค์
แล้วจากธรรมล้ำลึกเรื่องพระตรีเอกภาพ พระเจ้าทรงดำเนินชีวิตอย่างไร ?
ประการแรก พระองค์ไม่ทรงดำเนินชีวิตโดดเดี่ยว แต่ทรงดำรงอยู่รวมกันเป็นหมู่คณะ ทรงรักกัน และทรงแบ่งปันทุกสิ่งแก่กันและกัน เพราะฉะนั้นคริสตชนที่ต้องการดำเนินชีวิตให้ “เป็นคนดีอย่างสมบูรณ์ ดังที่พระบิดาเจ้าสวรรค์ทรงความดีอย่างสมบูรณ์” (มธ 5:48) จะดำเนินชีวิตอย่างโดดเดี่ยว แยกจากผู้คน ไม่สนใจหน้าอินทร์หน้าพรหม ไม่ยุ่งไม่เกี่ยวกับผู้ใดทั้งสิ้นไม่ได้ !
ประการที่สอง ทั้ง 3 พระบุคคลทรงรักกันอย่างสมบูรณ์ เราจึงได้แบบอย่างของความรักที่สมบูรณ์แบบว่าต้องประกอบด้วย 3 ฝ่าย
พี่น้องลองดูครอบครัวที่สมบูรณ์แบบสิ พี่น้องจะเห็นว่าต้องประกอบด้วยความรัก 3 ฝ่ายเช่นกัน คือจากบิดา จากมารดา และจากบุตร
เพราะฉะนั้น ชีวิตคริสตชนของเราจะสมบูรณ์แบบได้ก็ต้องประกอบด้วยความรัก 3 ฝ่ายเช่นเดียวกัน นั่นคือ ตัวเรา พระเจ้า และเพื่อนมนุษย์ แนวตั้งได้แก่ตัวเรากับพระเจ้า แนวนอนได้แก่ตัวเรากับเพื่อนมนุษย์
พี่น้องครับ นี่แหละครับที่ทำให้ธรรมล้ำลึกเรื่องพระตรีเอกภาพเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมยินดี และน่ารัก เพราะชีวิตในพระตรีเอกภาพนั้นมีแต่ความรัก และทั้งสามพระบุคคลสอนให้เรารู้ว่าความรักที่สมบูรณ์แบบนั้นต้องควบรวมทั้ง 3 ฝ่ายเข้าด้วยกัน ชนิดแยกออกจากกันไม่ได้
เพราะฉะนั้นพี่น้องครับ โอกาสที่เรากลับมาสู่เทศกาลธรรมดาซึ่งจะลากยาวไปจนถึงสิ้นปีพิธีกรรมปลายเดือนพฤศจิกายนโน่น แต่ชีวิตของเรานั้นจะต้องไม่ธรรมดา เราจะต้องดำเนินชีวิตต่อไปอย่างเข้มข้น อย่างศักดิ์สิทธิ์
แม้จะเผชิญกับวิกฤตไวรัสรวมทั้งภัยแล้ง จงสู้ต่อไปนะครับพี่น้อง จงเลียนแบบอย่างความรักและความเป็นหนึ่งเดียวกันของพระตรีเอกภาพ จงก้าวหน้าต่อไปในความศักดิ์สิทธิ์ อย่าได้ท้อถอย พระเจ้าทรงสัญญาว่าจะอยู่กับเราทุกวันตลอดไปตราบจนสิ้นพิภพ