Logo

บทเทศน์สอนวันอาทิตย์ที่ 15 มกราคม 2023 สัปดาห์ที่ 2 เทศกาลธรรมดา

หมวด: บทเทศน์สอน วันอาทิตย์ โดยคุณพ่อชัยยะ กิจสวัสดิ์
เขียนโดย คุณพ่อชัยยะ กิจสวัสดิ์
ฮิต: 260

     มีนกเหยี่ยวตัวหนึ่งมันอิจฉานกอินทรีย์มาก เพราะมีแต่คนชมนกอินทรีย์ว่าบินได้สูงสง่างามมากแต่ไม่มีใครชมนกเหยี่ยวเลย วันหนึ่งนกเหยี่ยวเห็นนายพรานเดินมาจึงเรียกนายพรานให้มายิงนกอินทรีย์ นายพรานบอกว่าต้องเพิ่มขนนกที่ปลายลูกศรจึงจะยิงถึงนกอินทรีย์ได้ นกเหยี่ยวก็เลยดึงขนที่ดีที่สุดของมันขนหนึ่งให้นายพราน แต่นายพรานก็ยังยิงไม่ถึงนกอินทรีย์ นกเหยี่ยวจึงถอนขนแล้วขนเล่าแต่ก็ยังยิงไม่ถึงนกอินทรีย์สักที ที่สุดขนหมด นกเหยี่ยวบินไม่ได้ นายพรานเลยหันมายิงนกเหยี่ยวแทน
     นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ความอิจฉาริษยานั้นทำลายคนที่คิดร้ายก่อนคนที่ถูกปองร้ายเสียอีก
ที่ผ่านมาเรามักใช้คำอิจฉาริษยาควบคู่กัน แต่จริงๆ แล้วมีความแตกต่างกันระหว่างความอิจฉากับริษยา อิจฉาคือความไม่พอใจสิ่งที่ตนมีและอยากได้สิ่งที่เป็นของของคนอื่น เช่น เราอิจฉาคนที่ดูดีกว่าเรา รวยกว่าเรา มีเพื่อนฝูงมากกว่าเรา แล้วเราก็อยากจะไปแทนที่คนเหล่านั้น
     ส่วนริษยานั้นตรงกันข้าม คือเรากลัวสิ่งที่เป็นของเราจะตกไปเป็นของคนอื่น
ทุกวันนี้ ดูเหมือนทั้งความอิจฉาและความริษยาจะกลายเป็นคุณสมบัติปกติของเรามนุษย์ไปแล้ว แต่ไม่ใช่กับยอห์นผู้ทำพิธีล้าง
     ในพระวรสารวันนี้ นักบุญยอห์นแสดงให้เราเห็นว่า ความสำเร็จและความยิ่งใหญ่ที่แท้จริงของเรานั้น ไม่ได้อยู่ที่การเปรียบเทียบตัวเราเองกับคนอื่นแล้วก็มัวแต่นั่งอิจฉาริษยาเขา แต่อยู่ที่ตัวเราซื่อสัตย์ต่อบทบาทหน้าที่ที่พระเจ้าทรงมอบหมายให้แก่เราหรือไม่?
     พี่น้องลองคิดดูสิว่ามีสักกี่คนที่อยากฟังว่าคนที่มาสืบทอดตำแหน่งต่อจากเรา ดีกว่าเรา? ไม่มีใช่ไหม? แต่ยอห์นคือหนึ่งในไม่กี่คนนี้
ยอห์นทำให้ชาวยิวเกิดความเคลื่อนไหวที่จะกลับใจและแสวงหาพระเจ้าอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ท่านเป็นผู้นำความเคลื่อนไหวนี้ เมื่อท่านถูกกษัตริย์เฮโรดสั่งจำคุกและตัดศีรษะ พระเยซูเจ้าทรงเป็นผู้นำความเคลื่อนไหวนี้ต่อจากท่าน กระนั้นก็ตาม ทุกครั้งที่ยอห์นพูดถึงพระเยซูเจ้า ท่านจะพูดถึงพระองค์ว่าดีกว่าและเหนือกว่าตัวท่านเองเสมอ ในพระวรสารวันนี้ ท่านแนะนำศิษย์ของท่านว่า “นี่คือลูกแกะของพระเจ้าผู้ทรงลบล้างบาปของโลก ผู้นี้คือผู้ที่ข้าพเจ้าเคยพูดถึงว่า ‘บุรุษผู้หนึ่งมาภายหลังข้าพเจ้า แต่นำหน้าข้าพเจ้า เพราะอยู่มาก่อนข้าพเจ้า’”
     ผลจากคำแนะนำนี้ก็คือศิษย์สองคน (อันดรูว์กับยอห์น) ตีจากท่านไปและหันไปติดตามพระเยซูเจ้าทันที “เมื่อศิษย์ทั้งสองคนได้ยินยอห์นพูดดังนี้จึงติดตามพระเยซูเจ้าไป” (ยน 1:37)
เราอาจสรุปท่าทีของยอห์นที่มีต่อพระเยซูเจ้าได้เพียงประโยคเดียว นั่นคือ “พระองค์จะต้องทรงยิ่งใหญ่ขึ้น ส่วนข้าพเจ้าจะต้องด้อยลง” (ยน 3:30)
ทำไม่ยอห์นถึงพอใจเป็นเพียงตัวประกอบให้กับพระเยซูเจ้าหรือ?
     เหตุผลก็คือยอห์นรู้บทบาทหน้าที่ที่พระเจ้าทรงมอบหมายให้ท่านเป็นอย่างดี ท่านบอกในพระวรสารวันนี้ว่า “ข้าพเจ้าถูกส่งมาให้ทำพิธีล้าง เพื่อทำให้พระองค์เป็นที่รู้จักแก่อิสราเอล” (ยน 1:31) และเพราะท่านรู้บทบาทหน้าที่ของท่านดี เมื่อทำหน้าที่ของท่านครบถ้วน ท่านจึงพร้อมที่จะส่งต่อบทบาทหน้าที่นี้ให้แก่พระเยซูเจ้า โดยปราศจากความอิจฉาริษยาใดๆ ทั้งสิ้น
วันนี้ เราจึงควรถามตัวเองว่าเราเกิดมาทำไมในโลกนี้? เรามีบทบาทหน้าที่อะไร? พระเจ้าทรงมีแผนการอันใดสำหรับชีวิตของเรา?
     หากเราไม่รู้คำตอบ ก็ขอให้เราฟังคำตอบของนักบุญเปาโลในบทอ่านที่สอง นักบุญเปาโลบอกว่า “เราได้รับเรียกให้เป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ พร้อมกับทุกคน ในทุกสถานที่”
     เมื่อพูดถึงผู้ศักดิ์สิทธิ์ มีบางคนคิดว่าจำเป็นต้องละทิ้งหน้าที่ที่ทำอยู่แล้วเข้าอาราม อย่างเช่นกษัตริย์เฮนรีที่ 3 แห่งบาวาเรีย พระองค์เป็นกษัตริยที่ศรัทธาและยำเกรงพระเจ้า แต่หน้าที่ในฐานะกษัตริย์ทำให้พระองค์ไม่ค่อยมีเวลาให้กับเรื่องของจิตวิญญาณ จนวันหนึ่งพระองค์เบื่อสุดๆ ที่จะเป็นกษัตริย์ จึงเสด็จไปหาคุณพ่อริชาร์ดซึ่งเป็นรองอธิการอารามฤาษีเพื่อจะขอสมัครเป็นฤาษีตลอดชีวิต แต่คุณพ่อริชาร์ดตอบว่า “พระองค์ทราบไหมว่าหนึ่งในคำปฏิญาณตนของฤาษีก็คือความนบนอบ ซึ่งมันคงยากมากสำหรับพระองค์ซึ่งเป็นกษัตริย์” กษัตริย์เฮนรี่ตอบว่า “เราเข้าใจ เราตั้งใจว่าจะอุทิศชีวิตที่เหลือนี้เพื่อนบนอบคุณพ่อตามที่พระเยซูเจ้าจะทรงนำทาง” คุณพ่อริชาร์ดจึงตอบกษัตริย์ว่า “ถ้าเช่นนั้นขอให้พระองค์กลับไปที่บัลลังก์ แล้วรับใช้อย่างซื่อสัตย์ในตำแหน่งที่พระเจ้าทรงมอบหมายให้พระองค์” กษัตริย์เฮนรี่จึงกลับไปปกครองประชาชนด้วยความเคารพยำเกรงพระเจ้า และได้เป็นนักบุญในที่สุด
     เพราะฉะนั้น เพื่อจะเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ตามที่พระเจ้าทรงเรียกเรา เราไม่จำเป็นต้องหนีออกจากโลก พระเยซูเจ้าบอกให้เราอยู่ในโลก เพียงแต่ต้องไม่เป็นของโลก เพราะฉะนั้นเราสามารถเข้าร่วมสังคมกับกลุ่มต่างๆ กับพรรคการเมืองต่างๆ หรือจะทำธุรกิจแม้เป็นธุรกิจบันเทิงด้วยก็ได้ ดังเช่น Mel Gibson กับภาพยนตร์เรื่อง “Passion of the Christ” เป็นต้น
ถ้าเรายังไม่มีคำตอบว่าพระเจ้าทรงเรียกเรามาทำไม ก็เป็นไปได้ว่าเราคงต้องทุ่มทั้งชีวิตของเราแข่งขันกับคนที่เราคิดว่าดีกว่าเราด้วยความอิจฉาริษยาไม่สิ้นสุด
อันที่จริงพี่น้องไม่จำเป็นต้องไปแข่งกับคนอื่นเลย ลองดูดอกไม้สีต่างๆ นี่สิ บางดอกเล็ก บางดอกใหญ่ กระนั้นทุกดอกล้วนสวยงามเพราะมันต่างก็มีวัตถุประสงค์แตกต่างกันไป
     วันนี้เราเริ่มต้นเทศกาลธรรมดาซึ่งสังเกตได้จากอาภรณ์ที่พระสงฆ์ใช้ในพิธีกรรมเปลี่ยนเป็นสีเขียว ถึงแม้จะเป็นเทศกาลธรรมดา แต่ท่ามกลางความธรรมดานี้ก็มีความยิ่งใหญ่อยู่ภายใน อย่างเช่นนักบุญยอห์นซึ่งรู้ว่าตนเป็นคนธรรมดาไม่คู่ควรที่จะแก้เชือกผูกรองเท้าของพระเยซูเจ้า แต่พระเยซูเจ้ากลับพูดถึงยอหน์ว่า “ในหมู่ผู้ที่เกิดจากหญิง ไม่มีใครยิ่งใหญ่กว่ายอห์นผู้ทำพิธีล้าง” (มธ 11:11)
     ให้เราวอนขอท่านนักบุญยอห์นโปรดช่วยเราให้เรียนรู้ว่าความธรรมดาที่ไม่ธรรมดานั้นหมายถึงอะไร และโปรดช่วยเราให้ดำเนินชีวิตโดยตระหนักถึงบทบาทหน้าที่ที่พระเจ้าทรงมอบหมายให้แก่เรา ตามแบบอย่างของท่านนักบุญด้วยเทอญ