พระวรสารวันนี้เป็นเรื่องราวของสองพี่น้องคือ มารธาซึ่งยุ่งอยู่กับงาน กับมารีย์ซึ่งสนใจพระเยซูเจ้ามากกว่า
บางคนเลยแยกมารธาให้เป็นพวกวัตถุนิยมซึ่งไม่เอาพระเจ้า ส่วนมารีย์ยกให้เป็นพวกจิตนิยมซึ่งเอาพระเจ้า แต่การแบ่งแยกเช่นนี้ก็ไม่ถูกต้องนัก เพราะจริงๆ แล้วพี่น้องทั้งสองคนต่างก็เอาพระเจ้า รักพระเยซูเจ้า และต้องการทำให้พระองค์พอพระทัยทั้งคู่ จะแตกต่างกันก็ตรงวิธีการทำให้พระองค์พอพระทัยเท่านั้น
     นั่นคือมารธาให้ความสำคัญกับการปรนนิบัติรับใช้พระเยซูเจ้าเป็นอันดับแรก ส่วนมารีย์ให้ความสำคัญก่อนอื่นใดหมดกับความสัมพันธ์กับพระเยซูเจ้าเอง
แล้วฝ่ายใดถูกต้องมากกว่ากันล่ะ?
     เพื่อจะตอบคำถามนี้ ให้เราดูความคิดของพระเยซูเจ้าตอนแต่งตั้งอัครสาวกสิบสองคน
นักบุญมาระโกเล่าว่าพระองค์ทรงแต่งตั้งอัครสาวกสิบสองคนก็เพื่อวัตถุประสงค์ 2 ประการ ประการแรก “ให้อยู่กับพระองค์” และประการที่สอง “เพื่อจะทรงส่งเขาออกไปเทศน์สอน” (มก 3:14)
ก็แปลว่างานเทศน์สอน งานประกาศข่าวดี รวมถึงงานอื่นๆ ของพระเยซูเจ้ามีความสำคัญและเร่งด่วนก็จริง แต่การอยู่กับพระองค์เพื่อจะได้มีความสัมพันธ์อันดีกับพระองค์ ไม่ว่าจะโดยการสวดภาวนาหรือการฟังพระวาจาของพระองค์ก็ตาม ต้องมาก่อนสิ่งอื่น
     นี่คือเหตุผลว่าทำไมพระเยซูเจ้าจึงตรัสกับมารธาว่า “สิ่งที่จำเป็นมีเพียงสิ่งเดียว มารีย์ได้เลือกเอาส่วนที่ดีที่สุดที่จะไม่มีใครเอาไปจากเขาได้”
แต่ทั้งนี้ มิได้หมายความว่าพระองค์ต้องการให้เราเลือกว่าจะเป็นเหมือนมารธาหรือมารีย์คนใดคนหนึ่ง เพราะคริสตชนที่เป็นศิษย์แท้และรักพระองค์จริงจะต้องเป็นเหมือนทั้งมารธาและมารีย์ เพียงแต่เราต้องเป็นเหมือนมารีย์ก่อน นั่นคือนั่งอยู่กับพระองค์ ฟังพระองค์ จากนั้นจึงเป็นเหมือนมารธาที่อุทิศแรงกายแรงใจทั้งหมดเพื่องานของพระองค์
แล้วงานของพระองค์คืออะไร?
     เพื่อจะตอบคำถามนี้ ให้เราดูแบบอย่างของนักบุญเปาโลในบทอ่านที่สองซึ่งเป็นจดหมายถึงชาวโคโลสี
     นักบุญเปาโลบอกว่างานของพระเยซูเจ้าก็คืองานของพระศาสนจักร และงานของพระศาสนจักรก็คืองานของพระเยซูเจ้า ทั้งนี้เพราะพระเยซูเจ้ากับพระศาสนจักรเป็นหนึ่งเดียวกัน จนท่านกล่าวว่า “พระกายของพระเยซูเจ้าคือพระศาสนจักร”
เหตุผลที่ทำให้นักบุญเปาโลกล่าวเช่นนี้ก็เพราะก่อนท่านจะกลับใจ พระเยซูเจ้าถามท่านว่า “เซาโล เซาโล ท่านเบียดเบียนเราทำไม” (กจ 9:4) ท่านเข้าใจทันทีว่า พระเยซูเจ้าผู้ประทับบนสวรรค์กับพระศาสนจักรในโลกนี้ที่ท่านกำลังเบียดเบียนเป็นหนึ่งเดียวกัน การที่ท่านเบียดเบียนพระศาสนจักรก็คือการที่ท่านเบียดเบียนพระเยซูเจ้า
     ตรงกันข้าม การที่ท่านรับใช้พระศาสนจักรก็คือการที่ท่านรับใช้พระเยซูเจ้า ท่านจึงพูดว่า “ข้าพเจ้าเป็นผู้รับใช้พระศาสนจักรตามภารกิจที่พระเจ้าทรงมอบให้ เพื่อจะได้ประกาศพระวาจาของพระเจ้าอย่างสมบูรณ์”
เพราะฉะนั้น งานของเราเพื่อจะรับใช้พระเยซูเจ้าก็คือการรับใช้พระศาสนจักร ทั้งพระศาสนจักรสากลและพระศาสนจักรท้องถิ่น
พี่น้องครับ สมมุติว่าหมอคนหนึ่งค้นพบวิธีรักษามะเร็ง เขาพบวิธีรักษาแล้วก็จริง แต่มันยังไม่มีประโยชน์อันใดต่อคนป่วยทั่วโลกจนกว่าหมอคนอื่นๆ จะได้รับการฝึกฝนให้รู้จักวิธีรักษานั้น เช่นเดียวกัน ความรอดพ้นที่พระเยซูเจ้านำมาให้ มีอยู่แล้วก็จริง แต่จะมีประโยชน์อันใดแก่ชาวโลกหากพวกเขาไม่รู้จักพระเยซูเจ้า จึงเป็นหน้าที่ของพระศาสนจักรที่จะต้องทำให้โลกรู้จักพระองค์
และหน้าที่ของพระศาสนจักรนี่แหละคืองานของเรา !
     พระเยซูเจ้าทรงเป็นศีรษะ มีพระศาสนจักรเป็นร่างกายของพระองค์ ศีรษะต้องการร่างกายเพื่อจะทำงานฉันใด พระเยซูเจ้าก็ต้องการพระศาสนจักรเพื่อจะเป็นมือ เป็นเท้า และเป็นปากของพระองค์ฉันนั้น
วันนี้ นักบุญเปาโลในฐานะที่เป็นสมาชิกคนหนึ่งของพระศาสนจักรกล้าพูดว่า “ข้าพเจ้าเป็นผู้รับใช้พระศาสนจักรตามภารกิจที่พระเจ้าทรงมอบให้”
พี่น้องครับ แล้วเราล่ะ? เราแต่ละคนต่างก็เป็นสมาชิกของพระศาสนจักรซึ่งเป็นพระกายของพระเยซูเจ้าเช่นเดียวกับนักบุญเปาโล ในเมื่อเราเป็นส่วนหนึ่งของพระกายของพระเยซูเจ้า วันนี้จึงขอให้พี่น้องถามตนเองว่า พี่น้องเป็นส่วนใดของพระกายของพระองค์?
     พี่น้องเป็นเท้าของพระองค์เพื่อจะนำพระองค์ไปให้แก่ผู้อื่นเหมือนพระสงฆ์นำศีลมหาสนิทไปส่งให้แก่คนป่วยใช่ไหม?
หรือพี่น้องเป็นมือของพระองค์ที่จะช่วยเช็ดน้ำตาให้กับผู้ที่ต้องตกทุกข์ได้ยาก ไร้ที่พึ่ง ใช่ไหม?
หรือพี่น้องเป็นปากของพระองค์ที่จะประกาศข่าวดีให้แก่ผู้ที่มีจิตใจขัดสน ใช่ไหม?
     พี่น้องครับ ไม่ว่าพี่น้องจะเป็นส่วนใดของพระกายของพระเยซูเจ้า ทุกสิ่งที่พี่น้องทำต่อผู้ต่ำต้อย พี่น้องกำลังทำกับพระองค์เช่น เดียวกับมารธา เพียงแต่ขอให้พี่น้องมีเวลาสร้างความสัมพันธ์กับพระองค์ ไม่ว่าจะโดยการร่วมมิสซาแต่ละวัน หรือสวดภาวนาและฟังพระวาจาของพระองค์เช่นเดียวกับมารีย์
     ขอพระเยซูเจ้าโปรดให้พี่น้องเป็นทั้งมารธาและมารีย์ที่พระองค์ทรงรัก โดยเริ่มด้วยการเป็นแบบมารีย์ก่อนแล้วตามด้วยการเป็นแบบมารธา แบบนักบุญเปาโล และแบบอับราฮัมในบทอ่านที่หนึ่งวันนี้ด้วยเทอญ