Logo

วันศุกร์ที่ 14 มีนาคม 2025 สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลมหาพรต

หมวด: มีนาคม 2025
เขียนโดย กลุ่มไบเบิ้ลไดอารี
ฮิต: 237

 

 


บทอ่านจากหนังสือประกาศกเอเสเคียล     อสค. 18:21-28

     องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “ถ้าคนชั่วร้ายกลับใจไม่ทำบาปทุกอย่างที่เขาเคยทำ แล้วกลับมารักษาข้อกำหนดทุกข้อของเรา ปฏิบัติความถูกต้องและความยุติธรรม เขาจะมีชีวิตอยู่แน่นอน เขาจะไม่ต้องตาย การล่วงละเมิดใดๆ ที่เขาเคยทำจะไม่ถูกจดจำไว้เพื่อเอาโทษเขา เขาจะมีชีวิตอยู่เพราะความชอบธรรมที่เขาได้ทำ เราพอใจในความตายของคนอธรรมหรือ พระเจ้าองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัส เราพอใจที่เขากลับใจจากความประพฤติชั่วของเขาและมีชีวิตอยู่มิใช่หรือ แต่ถ้าผู้ชอบธรรมละทิ้งความชอบธรรมของตนไปทำความชั่ว ประพฤติตามการกระทำน่าสะอิดสะเอียนทุกอย่างที่คนชั่วทำ ผู้นั้นจะมีชีวิตอยู่ได้หรือ การกระทำชอบธรรมทั้งหมดที่เขาได้ทำมาแล้วจะไม่ถูกจดจำไว้อีกเลย เขาจะต้องตายเพราะความผิดที่เขาไม่ได้ซื่อสัตย์ และเพราะบาปที่เขาได้ทำ ท่านพูดว่า ‘วิธีการขององค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ยุติธรรม’ พงศ์พันธุ์อิสราเอลเอ๋ย จงฟังเถิด วิธีการของเราไม่ยุติธรรม หรือวิธีการของท่านไม่ยุติธรรม เมื่อผู้ชอบธรรมเปลี่ยนใจไม่ปฏิบัติความชอบธรรมมาทำผิด เขาจะต้องตายเพราะการนี้ เขาจะต้องตายเพราะความผิดที่เขาได้ทำ ถ้าคนชั่วร้ายเลิกทำความชั่วร้ายที่เขาได้ทำ มาปฏิบัติความยุติธรรมและความชอบธรรม เขาก็จะรักษาชีวิตของตนไว้ เขาเลือกจะเลิกการล่วงละเมิดทั้งหมดที่เคยทำ เขาจะมีชีวิตอย่างแน่นอน เขาจะไม่ต้องตาย”

 

 


บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมัทธิว     มธ. 5:20-26

     เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาศิษย์ว่า “เราบอกท่านทั้งหลายว่า ถ้าความชอบธรรมของท่านไม่ดีไปกว่าความชอบธรรมของบรรดาธรรมาจารย์และชาวฟาริสีแล้ว ท่านจะเข้าอาณาจักรสวรรค์ไม่ได้เลย ท่านได้ยินคำกล่าวแก่คนโบราณว่า อย่าฆ่าคน ผู้ใดฆ่าคนจะต้องขึ้นศาล แต่เรากล่าวแก่ท่านว่า ทุกคนที่โกรธเคืองพี่น้อง จะต้องขึ้นศาล ผู้ใดกล่าวแก่พี่น้องว่า ‘ไอ้โง่’ ผู้นั้นจะต้องขึ้นศาลสูง ผู้ใดกล่าวแก่พี่น้องว่า ‘ไอ้โง่บัดซบ’ ผู้นั้นจะต้องถูกปรับโทษถึงไฟนรก ดังนั้น ขณะที่ท่านนำเครื่องบูชาไปถวายยังพระแท่น ถ้าระลึกได้ว่าพี่น้องของท่านมีข้อบาดหมางกับท่านแล้ว จงวางเครื่องบูชาไว้หน้าพระแท่น กลับไปคืนดีกับพี่น้องเสียก่อน แล้วจึงค่อยกลับมาถวายเครื่องบูชานั้น จงคืนดีกับคู่ความของท่านขณะที่กำลังเดินทางไปศาลด้วยกัน มิฉะนั้น คู่ความจะมอบท่านแก่ผู้พิพากษา และผู้พิพากษาจะมอบท่านให้ผู้คุม ซึ่งจะขังท่านในคุก เราบอกความจริงแก่ท่านว่า ท่านจะออกจากคุกไม่ได้ จนกว่าท่านจะชำระหนี้จนเศษสตางค์สุดท้าย”

 

 

ข้อคิด

     องค์พระผู้เป็นเจ้าจะไม่จดจำความผิดเพื่อลงโทษคนที่ประพฤติไม่ดีใน “อดีต” แล้วเปลี่ยนความประพฤติกลับเป็นคนดีใน “ปัจจุบัน” แต่จะให้ “เขาจะมีชีวิตอยู่”  ตรงกันข้าม หากคนที่เคยประพฤติดีใน “อดีต” แต่หันไปทำความชั่วใน “ปัจจุบัน” ความดีที่เคยกระทำไว้จะไม่ถูกจดจำ เขาจะต้องตายเพราะความผิด เนื่องจากเขาไม่ซื่อสัตย์ ฉะนั้น การเจริญชีวิตใน “ปัจจุบัน” จึงสำคัญกว่าใน “อตีต” ดังเช่น ความหมายที่พระเยซูเจ้าทรงต้องการสอนเราก็คือจง“ตัดไฟเสียแต่ต้นลม” คือ  ก่อนการฆ่าจะเกิดขึ้น ก็ต้องโกรธก่อน ดังนั้น หากระงับความโกรธได้ ก็จะไม่เกิดการฆ่า นี่คือมาตรฐานที่สูงกว่าชาวฟาริสีและธรรมาจารย์ เมื่อมีเรื่องบาดหมางกันให้รีบคืนดีกันเสีย อย่าปล่อยให้ล่วงเลยไปนาน เพราะมันจะเป็นเหมือนไฟสุมขอน ที่จะปะทุขึ้นมาเมื่อไรก็ได้ เป็นเหตุให้ทำผิดต่อผู้อื่นถึงขั้นฆ่าคนได้ จึงต้องใช้ภาษิต “กันไว้ ดีกว่าแก้”