Logo

วันอังคารที่ 14 พฤษภาคม 2024 ฉลองนักบุญมัทธีอัส อัครสาวก

หมวด: พฤษภาคม 2024
เขียนโดย กลุ่มไบเบิ้ลไดอารี
ฮิต: 993

 

บทอ่านจากหนังสือกิจการอัครสาวก     กจ 1:15-17,20-26

     ในระหว่างนั้น เปโตรยืนขึ้นในหมู่พี่น้องที่ชุมนุมกันอยู่ประมาณหนึ่งร้อยยี่สิบคน กล่าวว่า “พี่น้องทั้งหลาย จำเป็นที่พระคัมภีร์จะต้องเป็นจริงตามที่พระจิตเจ้าทรงใช้พระโอษฐ์ของกษัตริย์ดาวิดตรัสล่วงหน้าถึงยูดาส ผู้นำคนมาจับกุมพระเยซูเจ้า ยูดาสผู้นี้เคยเป็นคนหนึ่งในคณะของเราและร่วมภารกิจกับเรา
เพราะมีเขียนไว้ในหนังสือเพลงสดุดีว่า ‘ขอให้ที่อยู่ของเขาถูกทิ้งร้างอย่าให้มีผู้ใดอาศัยอยู่เลย’และอีกตอนหนึ่งว่า ‘ขอให้ผู้อื่นรับหน้าที่แทนเขา’

     ดังนั้น ในบรรดาคนทั้งหลายซึ่งอยู่กับเราตลอดเวลาที่พระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงดำเนินชีวิตอยู่กับเรา เริ่มตั้งแต่พิธีล้างของยอห์นจนถึงวันที่พระองค์เสด็จสู่สวรรค์นั้น จำเป็นที่คนหนึ่งจะต้องเป็นพยานร่วมกับเราถึงการกลับคืนพระชนมชีพของพระองค์” ผู้ที่มาชุมนุมกันเสนอชื่อชายสองคน คือโยเซฟที่เรียกว่าบารซับบาสหรือยุสทัส และอีกคนหนึ่งชื่อมัทธีอัส เขาทั้งหลายอธิษฐานภาวนาว่า “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงทราบจิตใจของมนุษย์ทุกคน ขอทรงแสดงให้ข้าพเจ้าทั้งหลายรู้ว่า พระองค์ทรงเลือกคนใดในสองคนนี้ ให้รับหน้าที่รับใช้เป็นอัครสาวกแทนยูดาสที่ละทิ้งหน้าที่นี้เพื่อไปยังที่ของตน” เขาจึงจับสลากระหว่างสองคนนี้ และจับสลากได้มัทธีอัส มัทธีอัสจึงได้เข้าร่วมคณะกับอัครสาวกสิบเอ็ดคน

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญยอห์น     ยน 15:9-17

     เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสกับอัครสาวกว่า “พระบิดาของเราทรงรักเราอย่างไร เราก็รักท่านทั้งหลายอย่างนั้น จงดำรงอยู่ในความรักของเราเถิด ถ้าท่านปฏิบัติตามบทบัญญัติของเรา ท่านก็จะดำรงอยู่ในความรักของเรา เหมือนกับที่เราปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระบิดาของเรา และดำรงอยู่ในความรักของพระองค์ เราบอกเรื่องเหล่านี้แก่ท่านทั้งหลายแล้ว เพื่อให้ความยินดีของเราอยู่กับท่าน และความยินดีของท่านจะสมบูรณ์ นี่คือบทบัญญัติของเรา ให้ท่านทั้งหลายรักกัน เหมือนดังที่เรารักท่าน ไม่มีใครมีความรักยิ่งใหญ่กว่าการสละชีวิตของตนเพื่อมิตรสหาย

     ท่านทั้งหลายเป็นมิตรสหายของเรา ถ้าท่านทำตามที่เราสั่งท่าน เราไม่เรียกท่านว่าเป็นผู้รับใช้อีกต่อไป เพราะผู้รับใช้ไม่รู้ว่านายของตนทำอะไร เราเรียกท่านเป็นมิตรสหาย เพราะเราแจ้งให้ท่านรู้ทุกสิ่งที่เราได้ยินมาจากพระบิดาของเรา มิใช่ท่านทั้งหลายได้เลือกเรา แต่เราได้เลือกท่าน มอบภารกิจให้ท่านไปทำจนเกิดผล และผลของท่านจะคงอยู่ เพื่อว่าท่านจะขอสิ่งใดจากพระบิดาในนามของเรา พระบิดาจะประทานแก่ท่าน เราสั่งท่านทั้งหลายดังนี้ว่า ท่านทั้งหลายจงรักกัน”

 

ข้อคิด

     พระเยซูคริสตเจ้ายืนยันถึงพลังแห่งความรัก เพราะความสัมพันธ์ระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์ก็เป็นไปด้วยความรัก เพราะความรักนี้เอง พระบิดาจึงส่งพระบุตรลงมาร่วมเดินทางกับมนุษย์ รับทรมาน และถูกตรึงกางเขน เพื่อนำเราทุกคนไปสู่ความรอดฝ่ายวิญญาณ อาจกล่าวได้ว่า ผลของความรักอันบริสุทธิ์นี้ยิ่งใหญ่จริง ๆ และเราทุกคนในฐานะศิษย์ติดตามพระคริสตเจ้า ถูกเชื้อเชิญให้ดำเนินชีวิตในความรัก แบ่งปันความรักให้แก่กัน และปฏิบัติต่อกันด้วยความรักและความเมตตา ครอบครัว ชุมชน และสังคมที่ขับเคลื่อนด้วยความรัก จะเป็นพื้นที่ที่น่าอยู่และทำให้ทุกคนในพื้นที่นั้นพบสันติและความสุขแท้ แนวทางแห่งรักถือเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ในการดำเนินชีวิตร่วมกันบนโลกใบนี้ หากปราศจากความรักแล้ว ชีวิตและการดำรงอยู่ก็คงไม่มีความหมายอะไร