บทอ่านจากจดหมายนักบุญเปาโลอัครสาวกถึงชาวเอเฟซัส อฟ 4:1-6
พี่น้อง ข้าพเจ้าผู้ถูกจองจำเพราะองค์พระผู้เป็นเจ้า วอนขอท่านทั้งหลายให้ดำเนินชีวิตสมกับการที่ท่านได้รับเรียก จงถ่อมตนอยู่เสมอ จงมีความอ่อนโยน พากเพียรอดทนต่อกันด้วยความรัก พยายามรักษาเอกภาพแห่งพระจิตเจ้าด้วยสายสัมพันธ์แห่งสันติ มีกายเดียวและจิตเดียว ดังที่พระเจ้าทรงเรียกท่านให้มีความหวังประการเดียว
มีองค์พระผู้เป็นเจ้าองค์เดียว ความเชื่อหนึ่งเดียว ศีลล้างบาปหนึ่งเดียว พระเจ้าหนึ่งเดียว ผู้ทรงเป็นพระบิดาของทุกคน พระองค์ทรงอยู่เหนือทุกคน ทรงกระทำการผ่านทุกคน และสถิตในทุกคน
บทอ่านจากพระวรสารนักบุญลูกา ลก 12:54-59
เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสกับประชาชนว่า “เมื่อท่านเห็นเมฆก่อตัวขึ้นทางทิศตะวันตก ท่านก็กล่าวได้ทันทีว่าฝนจะตก และก็เป็นเช่นนั้น เมื่อลมทิศใต้พัดมา ท่านก็กล่าวว่าอากาศจะร้อน และก็เป็นเช่นนั้น คนหน้าซื่อใจคดเอ๋ย ท่านรู้จักวินิจฉัยลักษณะดินฟ้าอากาศ แล้วทำไมจึงไม่วินิจฉัยเวลาปัจจุบันนี้เล่า”
“ทำไมท่านจึงไม่ตัดสินด้วยตนเองว่าสิ่งใดถูกต้อง ขณะที่ท่านกำลังไปศาลกับคู่ความของท่าน จงพยายามตกลงกันระหว่างทาง เพื่อมิให้คู่ความของท่านลากท่านไปต่อหน้าผู้พิพากษา และผู้พิพากษาจะมอบท่านให้แก่ผู้คุม และผู้คุมจะขังท่านไว้ในคุก เราบอกท่านว่า ท่านจะออกจากคุกไม่ได้จนกว่าท่านจะชำระหนี้จนถึงเศษสตางค์สุดท้าย”
ข้อคิด
บทอ่านจากจดหมายนักบุญเปาโลอัครสาวกถึงชาวเอเฟซัส อฟ 4: 1-6
บทอ่านจากพระวรสารนักบุญลูกา ลก 12:54-59
พระเยซูคริสตเจ้าเตือนเราให้รู้จักใช้สมองที่จะวินิจฉัย คิดและไตร่ตรองเตรียมตัวร่วงหน้าว่า สิ่งใดดี “สิ่งใดถูกต้อง” สำหรับการดำเนินชีวิตและปฏิบัติตัวในแต่ละวัน เพื่อเราจะได้กระทำในสิ่งที่ดี ที่ถูกต้อง และหลีกเลี่ยงความหายนะจากความผิดพลาดที่จะอาจจะเกิดขึ้นจากการกระทำของเราเอง ข้อความในพระวาจาวันนี้ท้าทายการดำเนินชีวิตของเราแต่ละคน เป็นเรื่องน่าคิด น่ารำพึงถึงตัวเราเองบ้างไหม?