Logo

วันพุธที่ 16 สิงหาคม 2023 น.สเทเฟน แห่งฮังการี

หมวด: สิงหาคม 2023
เขียนโดย กลุ่มไบเบิ้ลไดอารี
ฮิต: 721

บทอ่านจากหนังสือเฉลยธรรมบัญญัติ                                     ฉธบ 34:1-12

        เมื่อโมเสสขึ้นจากที่ราบโมอับไปบนภูเขาเนโบ ยอดของเทือกเขาปิสกาห์ ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับเมืองเยรีโค องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงให้เขาเห็นแผ่นดินทั้งหมด คือแคว้นกิเลอาดจนถึงเมืองดาน แคว้นนัฟทาลี แผ่นดินเอฟราอิมและมนัสเสห์ แผ่นดินทั้งหมดของยูดาห์จนถึงทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ดินแดนเนเกบ และที่ราบเยรีโค เมืองต้นอินทผลัมไปจนถึงเมืองโศอาร์ องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับเขาว่า “นี่คือแผ่นดินที่เราสาบานแก่อับราฮัม อิสอัค และยาโคบว่า จะยกให้แก่บุตรหลานของเขา เราให้ท่านเห็นกับตาของท่าน แต่ท่านจะไม่ได้เข้าไป”

        โมเสสผู้รับใช้ขององค์พระผู้เป็นเจ้าสิ้นชีวิตที่นั่น ในแผ่นดินโมอับตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชา พระองค์ทรงฝังเขาไว้ในหุบเขาของแผ่นดินโมอับ ตรงข้ามกับเบธเปโอร์ แต่จนถึงวันนี้ ยังไม่มีผู้ใดรู้ว่าหลุมศพของเขาอยู่ที่ใด เมื่อโมเสสสิ้นชีวิต เขามีอายุหนึ่งร้อยยี่สิบปี ตาของเขายังเห็นชัดเจน กำลังยังไม่ลดลง ชาวอิสราเอลไว้ทุกข์ให้โมเสส ณ ที่ราบโมอับเป็นเวลาสามสิบวัน จนสิ้นกำหนดไว้ทุกข์ โยชูวาบุตรของนูนมีจิตแห่งปรีชาญาณเต็มเปี่ยม เพราะโมเสสได้ปกมือเหนือเขา ชาวอิสราเอลจึงเชื่อฟังเขา และปฏิบัติตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงบัญชาแก่โมเสส

          ตั้งแต่นั้นมา ไม่เคยมีประกาศกคนใดเกิดขึ้นในอิสราเอลเหมือนโมเสส ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงรู้จักเป็นการส่วนพระองค์ ไม่มีผู้ใดทำเครื่องหมายอัศจรรย์และปาฏิหาริย์ เหมือนที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชาให้โมเสสทำในแผ่นดินอียิปต์เฉพาะพระพักตร์กษัตริย์ฟาโรห์ ต่อหน้าข้าราชบริพารของพระองค์ และประชาชนทั่วแผ่นดิน ไม่มีผู้ใดทำการยิ่งใหญ่และน่าสะพรึงกลัว ดังที่โมเสสทำต่อหน้าชาวอิสราเอลได้

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมัทธิว                                         มธ 18:15-20

           เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสแก่บรรดาศิษย์ว่า

         “ถ้าพี่น้องของท่านทำผิด จงไปตักเตือนเขาตามลำพัง ถ้าเขาเชื่อฟัง ท่านจะได้พี่น้องกลับคืนมา ถ้าเขาไม่เชื่อฟัง จงพาอีกคนหนึ่งหรือสองคนไปด้วย คำพูดของพยานสองคนหรือสามคนจะได้จัดเรื่องราวให้เรียบร้อย ถ้าเขาไม่ยอมฟังพยาน จงแจ้งให้หมู่คณะทราบ ถ้าเขาไม่ยอมฟังหมู่คณะอีก จงปฏิบัติต่อเขาเหมือนเขาเป็นคนต่างศาสนา หรือคนเก็บภาษีเถิด”

          “เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ทุกสิ่งที่ท่านจะผูกบนแผ่นดิน จะผูกไว้ในสวรรค์ และทุกสิ่งที่ท่านจะแก้บนแผ่นดิน ก็จะแก้ในสวรรค์ด้วย”

         “เราบอกความจริงแก่ท่านอีกว่า ถ้าท่านสองคนบนแผ่นดินพร้อมใจกันอ้อนวอนขอสิ่งหนึ่งสิ่งใด พระบิดาของเราผู้สถิตในสวรรค์จะประทานให้ เพราะว่า ที่ใดมีสองหรือสามคนชุมนุมกันในนามของเรา เราอยู่ที่นั่นในหมู่พวกเขา”

 

 

ข้อคิด
       คณะ" ในพระวรสารวันนี้ย่อมหมายถึง "พระศาสนจักร" พระวรสารเล่าว่า "ถ้าเขาฟังหมู่คณะ จงปฏิบัติต่อเขาเหมือนเขาเป็นคนต่างศาสนา หรือคนเก็บภาษีเถิด" ฟังดูแล้วเหมือนพระศาสนจักรจะมีบทบาทและอำนาจยิ่งใหญ่มาก สามารถให้โทษหนักและรุนแรงได้ เพราะคำตัดสินของพระศาสนจักรยังเกี่ยวโยงผูกพันกับสวรรค์ด้วย

     สิ่งที่น่าสนใจคือ การปฏิบัติต่อผู้ไม่ยอมฟังพระศาสนจักรนั้นคืออย่างไร เมื่อเทียบกับการปฏิบัติของพระเยซูเจ้าแล้ว ควรจะเป็นแบบที่พระองค์ปฏิบัติต่อมัทธิว หรือศักเคียสคนเก็บภาษี รวมถึงการรักษาคนโรคเรื้อนและคนป่วยอื่นๆ ซึ่งเป็นคนต่างศาสนาด้วย ทั้งหมดเป็นการปฏิบัติด้วยความรัก ความมตตา เพื่อนำไปสู่การกลับใจ และความเชื่อ ไม่ใช่ในแบบการรังเกียจ การดูถูก การทอดทิ้ง หรือการทำร้าย บางครั้ง เราคริสตชนก็อาจหลงผิดในอำนาจของตนเอง