มีข้อผิดพลาด
  • JLIB_DATABASE_ERROR_FUNCTION_FAILED

30 พฤษภาคม ระลึกถึงนักบุญ โยน ออฟ อาร์ค

 

 

 

นักบุญ โยน ออฟ อาร์ค 

 

     โยนออฟ อาร์ค เกิดเมื่อวันที่ 6 มกราคม 1412 ที่ประเทศฝรั่งเศส ในครอบครัวของชาวนา เธอใช้ชีวิตกับการทำงานในไร่ และมักไปสวดภาวนาที่โบสถ์ใกล้ๆ บ้านเป็นประจำ เมื่ออายุได้ 13 ปีเธอได้ยินเสียงหนึ่งสั่งให้ไปช่วยกษัตริย์แห่งฝรั่งเศสขับไล่กองทัพอังกฤษ ด้วยขณะนั้นกองทัพอังกฤษปิดล้อมประเทศฝรั่งเศสและวันต่อมาอัครเทวดามีคาแอลประจักษ์มาให้การแนะนำสำหรับภารกิจสำคัญในวันข้างหน้าโดยให้เธอแต่งกายเป็นชาย ถือดาบ รับหน้าที่เป็นแม่ทัพนำทหารทำสงครามและห้ามไม่ให้เล่าให้ใครฟัง เมื่ออายุ 17 ปี เธอได้รับคำสั่งให้เริ่มทำงานโดยเข้าเฝ้ากษัตริย์ และทูลความต้องการที่อยากจะอาสาทำสงครามกษัตริย์ทรงเชื่อว่าพระเป็นเจ้าทรงส่งเธอมาช่วยขับไล่ศัตรู ทรงอนุญาตตามที่เธอขอ

     เธอถือธงชัยที่มีคำว่า “เยซู มารีอา” นำทัพขับไล่ศัตรูได้สำเร็จ ตลอดเวลาเธอได้รับคำแนะนำจากเสียงที่บอกให้เธอทำการในครั้งนี้ แต่ขุนนางผู้ใหญ่และที่ปรึกษาใกล้ชิดกษัตริย์ไม่พอใจและตั้งคณะลูกขุนขึ้นสอบสวนประวัติของเธอแม้โยน ออฟ อาร์ค จะอยู่ในตำแหน่งแม่ทัพ ที่สามารถทำการศึกจนได้รับชัยชนะมาตลอด เธอต้องทำศึกทั้งภายในและภายนอกประเทศ เพราะทหารอังกฤษในฝรั่งเศสมีการรวมตัวอย่างเงียบ ขณะเดียวกันที่ปรึกษาของกษัตริย์ที่ไม่ชอบเธอ พยายามหาเรื่องใส่ร้ายตลอดเวลา มีการทุจริตในหมู่ขุนนาง

     เธอพยายามรวบรวมทหารคนสนิทเพื่อกู้เมืองที่กำลังจะถูกยึดแต่ไม่ได้รับการสนับสนุนจากกษัตริย์เพราะกษัตริย์ฟังเสียงของขุนนางทุจริตรอบข้าง ที่สุดกองทัพของเธอก็แพ้ และทหารอังกฤษได้จับเธอไว้เป็นเชลย และขังคุกไว้เป็นเวลา 9 เดือน สุดท้ายเพราะคำกล่าวหาว่าเธอเป็นแม่มดจึงถูกประหารชีวิตด้วยการเผาทั้งเป็น เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 1413  ที่เมืองรูอัง ขณะถูกเผาทั้งเป็นนั้น   เธอตะโกนเรียกขานพระนาม “พระเยซูเจ้า พระเยซูเจ้า” ต่อมาพระศาสนจักรทำการสอบสวน และประกาศแต่งตั้งให้เป็นนักบุญ ในสมัยของสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกตินที่ 15

 

ประวัตินักบุญ โยน ออฟ อาร์ค

 

      โจนเกิดเมื่อวันที่ 6 มกราคม 1412 ในหมู่บ้านโดมเรมี ซึ่งอยู่ในเมืองลอร์เรนทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศฝรั่งเศส ครอบครัวของเธอศรัทธาและยากจน เมื่อโจนมีอายุ 12 ขวบเธอได้ยินเสียงจากสวรรค์ ซึ่งให้คำแนะนำเธอเสมอ เธอบอกว่าเป็นเสียงของอัครเทวดามีคาเอล และของนักบุญแคธเธอรีนแห่งอเล็กแซนเดียและนักบุญมาร์กาเรต มรณสักขีของพระศาสนจักรสมัยแรกเริ่ม ผู้ซึ่งเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของคริสตชนในสมัยกลาง 

     เมื่อเสียงสวรรค์ได้บอกเธอให้สถาปนาเจ้าชายโดฟิน พระราชทายาทแห่งราชบัลลังก์เป็นกษัตริย์ โจนมึนงงไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ใน ที่สุด เสียงได้บอกเธอไปหานายทหารชื่อ โรเบอร์ต เดอะ โบ ดริคอร์ท ผู้ซึ่งควบคุมเมืองแวนคูเลียส์ที่อยู่ใกล้ๆ เขาเป็นคนที่จงรักภักดีต่อพระราชา ขอกำลังทหารจากเขาพาเธอไปเข้าพบเจ้าชายโดฟิน เดอะโบดริคอร์ทได้ปฏิเสธเธอในตอนแรก 

     แต่ได้ช่วยเหลือเธอหลังจากที่เธอได้ทำนายอย่างถูกต้องแม่นยำว่า อังกฤษจะยึดเมืองออร์ลีนส์ได้ เมื่อโจนพร้อมด้วยทหารอารักขาออกเดินทางไปยังพระราชวังชินนอนที่เจ้าชายโดฟินประทับอยู่ เธอมีอายุเพียง 17 ปี เธอตัดผมสั้น และสวมเสื้อผ้าผู้ชาย เหมาะสำหรับงาน ที่เธอได้รับมอบหมายให้ทำตลอดชีวิตอันสั้นของเธอ ที่พระราชวัง คณะของเธอได้เข้าไปในห้องโถงโอ่อ่าสำหรับต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง เต็มไปด้วยข้าราชบริพาร เจ้าชายโดฟินทรงอาภรณ์เรียบๆธรรมดา และกำลังคลุกคลีกับคนที่มาในงาน อย่างไรก็ตามโจนหาเจ้าชายจนพบ และถวายความเคารพอย่างสมพระเกียรติ ทันทีเธอได้ทูลเจ้าชายชาร์ลส์ (โดฟิน) ว่า พระเป็นเจ้าได้ส่งเธอมาช่วยพระองค์ ผู้ซึ่งจะได้ขึ้นครองราชย์สวมมงกุฎเป็นพระราชาในเมืองไรมส์ เมื่อเจ้าชายชาร์ลส์ได้ขอหลักฐานข้อพิสูจน์ เธอได้เปิดเผยคำภาวนาที่พระอง ค์ได้ทรงวอนขอพระเป็นเจ้า ตั้งแต่นั้นเป็นต้นไป องค์ชายก็มีความเชื่อมั่นในตัวเธอ

     งานชิ้นต่อไปของเธอคือการปลดแอกเมืองออร์ลีนส์ แต่งตัวด้วยชุดเกราะและดาบ เธอจะนำหน้ากองทหาร ไม่ใช่เพื่อทำลายชีวิต แต่เพื่อนำวิญญาณไปหาพระเจ้า โจนได้เดินทางไปยังเมืองบลอยส์ ที่ซึ่งเธอได้รวบรวมกองทหารฝรั่งเศส ทุกคืนมีการขับร้องเพลงสรรเสริญแม่พระ ชายที่ปรารถนารับใช้ประเทศชาติต้องไปแก้บาปรับศีลและฟังมิสซา โจ นได้สั่งห้ามทหารพูดจาหยาบคายและไม่อนุญาตหญิงโสเภณีเข้ามาในค่ายทหาร โจนตั้งใจจะย่ำเข้าไปในเมืองออร์ลีนส์ แต่นายพลทหารฝรั่งเศสไม่มั่นใจในแผนการณ์ของเธอ เขาเชื่อว่า การต่อสู้โดยผ่านป้อมปราการของอังกฤษเข้าไปโดยตรง จะเป็นภัยพินาศอันใหญ่หลวง พวกเขาตัดสินใจบุกเข้าไปในเมืองโดยทางอ้อม 

      ด้วยความขุ่นเคืองใจมาก โจนจึงทักท้วงว่า "ท่านคิดหลอกข้าพเจ้า แต่ท่านได้หลอกตัวท่านเอง เพราะข้าพเจ้าได้นำมาให้ท่านคว ามช่วยเหลือเหนือธรรมชาติ ความช่วยเหลือจากองค์พระเจ้า ซึ่งอัศวินหรือบ้านเมืองต้องการ" เมื่อโจนนำทหารหนึ่งพันคนเข้าไปในเมือง ประชาชนได้โห่ร้องต้อนรับเธอด้วยความยินดี เธอได้ขอร้องชาวอังกฤษให้วางอาวุธโดยสัญญาว่าจะไว้ชีวิตทุกคน แต่เธอกลับได้รับการดูถูกเยาะเย้ย ด้วยความเชื่อมั่น โจนได้นำกองทหารไปสู่ชัยชนะ ตามที่เธอได้ทำนายไว้ เธอได้รับบาดเจ็บจากลูกศรที่หน้าอกของเธอ เธอได้ดึงลูกศรออกด้วยมือของเธอเอง และกลับเข้าไปในสนามรบ หลังจากการต่อสู้อย่างดุเดือดเป็นเวลาหลายชั่ วโมงที่ป้อมบัญชาการของศัตรู ทหารฝรั่งเศสมีกำลังเหนือกว่าทหารอังกฤษ วันที่ 7 พฤษภาคม 1429 เป็นวันเริ่มชัยชนะของฝรั่งเศส เมื่อโจนได้พบเจ้าชายโดฟินที่เมืองทัวส์ เธอได้รบเร้าให้พระองค์เสด็จเข้าเมืองไรมส์เพื่อขึ้นครองราชย์ทันที 

     การสถาปนาเป็นไปอย่างล่าช้า เนื่องจากพระองค์ทรงตั้งพระทัยให้กองทหารชิงเมืองต่างๆที่ถูกอังกฤษยึดไปบนเส้นทางสู่เมืองไรมส์กลับคืนมา ทุกสิ่งก็สำเร็จตามพระราชหฤทัย ในสงครามแห่งปาเตทหารอังกฤษได้ถูกฆ่าตายเกือบสามพันคน แต่ทหารฝรั่งเศส ตายแค่สามคนเท่านั้น เจ้าชายโดฟินได้เสด็จถึงเมืองไรมส์ที่ซึ่งในพิธีเก่าแก่สง่างาม พระองค์ได้รับ การสถาปนาเป็นกษัตริย์ พระพรและการสวมมงกุฎจากพระอัครสังฆราช เสียงสวรรค์ได้เตือนโจนว่าเธอจะถูกจับกุม และในระหว่างการต่อสู้เธอได้ตกเป็นเชลยของเบอร์กันดี พันธมิตรของอังกฤษ แล้วเธอถูกขายให้อังกฤษ การถูกคุมขังและขึ้นศาลได้เปิดโอกาสให้โจนเจริญเติบโตอย่างเต็มที่ทางจิตวิญญาณ 

     ที่ศาสนศาลในเมืองรวน ผู้กล่าวหาชาวอังกฤษและเบอร์กันดี ต้องการตัดสินลงโทษเธอ ในข้อหาขัดต่อความเชื่อของพระศาสนา โ ดยเหตุผลทางการเมือง โจนได้สู้ความด้วยตัวเธอเอง จากข้อกล่าวหาฉกรรจ์หลายกระทง ด้วยความเที่ยงธรรม ความกล้าหาญ และปรีชาญาณ พระสังฆราชแห่งเมืองบิวเวส์เป็นผู้ตัดสินคดี และได้ลงโทษเผาโจนทั้งเป็นที่หลักประหาร เพราะเธอมีความเชื่อขัดกับพระศาสนา ด้วยความหวาดหวั่น โจนเซ็นชื่อถอนคำพูดบางส่วน แต่ด้วยกำลังใจจากเสียงสวรรค์ เธอได้ยกเลิกการเซ็นชื่อนั้น ก่อนตาย โจนได้ให้อภัยศัตรูของเธอ และได้ขออภัยสำหรับความผิดพลาดที่เธอได้เคยทำ เธอได้ขอให้คนช่วยชูไม้กางเขน เพื่อเธอจ ะได้มองเห็นองค์พระเยซูคริสตเจ้า ขณะที่พระเพลิงล้อมรอบตัวเธอ เธอได้เรียกพระนามศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้า จนกระทั่งเธอหมดลมหายใจ  

     วันระลึกถึงเธอ คือ วันที่ 30 พฤษภาคม 1431 ซึ่งเป็นวันฉลองนามนักบุญของเธอ ยี่สิบห้าปีต่อมา ในปี 1456 ศาสนศาลได้ประกาศว่า การขึ้นศาลของโจนและการตัดสินลงโทษเธอ เป็นโมฆ ะ เนื่องจากบิดเบือนความจริง และผิดกฏหมาย ทั่วประเทศฝรั่งเศสได้มีขบวนแห่ระลึกถึงวีรกรรมของโจนในการกู้ชาติ 

     ในปี 1909 นักบุญพระสันตะปาปาปิโอที่ 10 ได้แต่งตั้งโจนเป็นบุญราศี และในปี 1920 พระสันตะปาปาเบเนดิกที่ 15 ได้แต่งตั้งเธอเป็นนักบุญ ตราบจนปัจจุบันนี้ นักบุญโจนเป็นแบบอย่างแห่งความบริสุทธิ์ใจ ความเร่าร้อนในการกอบกู้วิญญาณ และการทำตามน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้า

 

ให้เราภาวนา: 

ข้าแต่พระเป็นเจ้า โดยคำวิงวอนของนักบุญโจน ออฟ อาร์ค โปรดประทานพระหรรษทานให้เรารักษาดวงใจ และวิญญาณของเราให้สะอาดบริสุทธิ์อยู่เสมอ โดยการแก้บาปรับศีลอย่างสม่ำเสมอ และการฟังมิสซา ให้เรารัก ให้อภัย และทำดีต่อศัตรูของเรา ให้เราสวดทุกวันให้คนบาปกลับใจ ให้เราฟังเสียงของพระองค์ทุกเวลา และทำตามน้ำพระทัยด้วยความยินดี อาแมน

 

 

 

 

Catholic.or.th All rights reserved.

Select style: Red Brown