หน้าหลักเช็คเมลล์ติดต่อเราสมุดเยี่ยมลิงค์คาทอลิกแผนผังเวบไซด์

ค้นหาข้อมูล :

"บทความจาก CATHOLIC WORLD TOUR" / เรียบเรียง โดย...แผนกเทคโนโลยีสารสนเทศ  อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

พระสันตะปาปาย้ำ "พ่อคือคนงานอันต่ำต้อยในสวนองุ่นของพระเจ้า" / 21 กันยายน 2008
--------------------------------------------------------------------------------
สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขสูงสุดแห่งพระศาสนจั กรโรมันคาทอลิก ทรงถ่อมพระองค์ ยังเป็นคนเดิมที่ก้มหน้าก้มตาทำงานในสวนองุ่นของพระเจ้า นอกจากนี้ ทรงเรียกร้องให้นานาชาติ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยเฮอร์ริเคนในแถบแคริบเบียน เช่นเดียวกับ ขอร้อง องค์การสหประชาชาติ เร่งกำจัดปัญหาความยากจนให้หมดไป

เมื่อช่วงเที่ยงของวันอาทิตย์ที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุของค์ที่ 265 แห่งพระศาสนจักรคาทอ ลิก ทรงเป็นประธานในการนำสัตบุรุษกว่า 8,000 คน สวดภาวนาเทวทูตถือสารที่ คาสเตล กันดอลโฟ โดยประเด็นสำคัญของวันนี้ พระสันตะบิดรผู้ศักดิ์สิทธิ์ ทรงแบ่งปันพระวรสารวันอาทิตย์ ด้วยการถ่อมพระอ งค์ เป็นคนงานอันต่ำต้อยในสวนองุ่นของพระเจ้า แบบเดียวกับ นักบุญแม็ทธิวและนักบุญเปาโล

พระวรสารประจำวันอาทิตย์ที่ 25 ในเทศกาลธรรมดา นักบุญแม็ทธิว บันทึกว่า พระเยซูทรงเล่านิทานเปรียบเทียบเรื่องเจ้าของส วนองุ่นซึ่งจ้างคนงานหลายกะ ตั้งแต่เช้าถึงเย็น โดยนายจ้างจ่ายค่าแรงเต็มเวลาแก่ทุกคน ทำให้คนงานบางคนไม่พอใจเนื่องจากทำเต็มเวลากับทำไม่กี่ชั่วโมง ก็ได้ค่าแรงเท่ากัน

พระสันตะปาปา ทรงแบ่งปันว่า "นิทานเปรียบเทียบเรื่องนี้ ปรากฏความจริงอยู่ข้อหนึ่ง นั่นคือ เจ้าของต้องการให้คนงานทุกคน ใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุด ระหว่างทำงานอยู่ในสวนองุ่น ในความจริงนี้ ถ้าย้อนมาดูตัวเอง เราก็ต้องทำงานให้ คุ้มค่าในสวนองุ่นของพระเจ้า อาทิ ทำงานรับใช้ผู้อื่น หรือจะเป็นการทำตามพระประสงค์ของพระองค์ และเมื่อนั้น พระเจ้าจะประทานรางวัลอันประเมินค่ามิได้ เพื่อตอบแทนเรา อย่างแน่นอน"

ผู้นำชาวคาทอลิกทั่วโลก ยังยกตัวอย่าง นักบุญแม็ทธิว และ นักบุญเปาโล 2 คนงานในสวนองุ่นของพระเจ้า ให้สัตบุรุษได้เข้าใจ พระองค์ตรัสว่า "วันนี้ พระศาสนจักรฉลองนักบุญแม็ทธิว หนึ่งในคนงานอันต่ำต้อยในสวนองุ่นของพระเจ้า นักบุญแม็ ทธิวเป็นคนเก็บภาษี อย่างที่เราทราบกัน ในสายตาของชาวยิว คนเก็บภาษีคือคนบาปและไม่ใช่คนงานในสวนองุ่นของพระเจ้า แต่ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนไป เมื่อพระเยซูทรงเรียกท่านให้มาเป็นศิษย์ติดตามพระองค์ นักบุญแม็ทธิว จึงได้เปลี่ยนแปลงตัวเองจากคนบาปมาเป็นอัครสาวกของพระคริสต์ เปลี่ยนแปลงตัวเอง จากการเป็นคนสุดท้าย ให้กลับกลายมาเป็นคนแรก"

"อีกหนึ่งตัวอย่าง คนงานในสวนองุ่นของพระเจ้า ก็คือ นักบุญเปาโล ผู้ที่เรากำลังเฉลิมฉลองการที่ท่านเกิดมาครบ 2,000 ปี นัก บุญเปาโล บอกว่า เป็นเพราะพระหรรษทานของพระเจ้าที่ทำงานในตัวท่าน ทำให้ท่านได้เปลี่ยนแปลงตัวเองจากการเป็นผู้เบียดเบียนพระศาสนจักร มาเป็นอัครสาวกของชาวต่างชาติและทำงานประกาศพระนามของพระเยซู นักบุญเปาโล ยังกล่าวอีกว่า "ข้า พเจ้าคิดว่า การมีชีวิตอยู่คือพระคริสตเจ้า และการตายก็เป็นกำไร หากการมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ เป็นโอกาสให้ข้าพเจ้าทำงานได้ผ ลแล้ว ข้าพเจ้าก็ไม่รู้จะเลือกสิ่งใดดี" (ฟิลิปปี 1:21-22) นี่คือสิ่งที่สะท้อนให้เห็นว่า นักบุญเปาโลเข้าใจอย่างลึกซึ้ง เมื่อใดที่เราทำงานเพื่อพระเจ้า เราก็ได้รับรางวัลตอบแทนแล้ว"

"อิล ปาปา" ทรงปิดท้าย การแบ่งปันเชิงเทวศาสตร์ ด้วยการรำลึกความหลังวันที่พระองค์ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งพระสันตะป าปา สืบสานงานต่อจากนักบุญเปโตร วันนั้น พระองค์ทรงกล่าวสุนทรพจน์แรก ด้วยการถ่อมตนเป็นคนงานอันต่ำต้อยในสวนองุ่นข องพระเจ้า มาวันนี้ พระองค์ยังคงย้ำสถานะดังกล่าว "พ่อยังคงก้มหน้าก้มตาทำงาน ดุจคนงานอันต่ำต้อยในสวนองุ่นของพระเจ้า อย่างไม่แปรเปลี่ยน"

หลังจากนั้น พระสันตะปาปา ทรงเปลี่ยนประเด็น มากล่าวถึงสถานการณ์โลก พระองค์ทรงเรียกร้องให้นานาชาติ อย่าทอดทิ้งผู้ประสบภัยเฮอร์ริเคนในแถบแคริบเบียน ไม่ว่าจะเป็น เฮติ, คิวบา, สาธารณรัฐโดมินิกัน รวมถึงมลรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา "พ่อขอย้ำอีกครั้งว่า พ่อสวดภาวนาเพื่อผู้ประสบภัยทุกวัน นอกจากนี้ พ่อขอเรียกร้องให้นานาประเทศ อย่าทอดทิ้งผู้ประสบภัย เราต้องร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับพวกเขาทุกคน"

ในตอนท้าย พระสันตะบิดรผู้ศักดิ์สิทธิ์ ทรงวอนขอให้บรรดาสมาชิกองค์การสหประชาชาติ ช่วยกำจัดปัญหาความยากจนและความหิวโหย ให้หมดไปจากทวีปแอฟริกาโดยเร็ว "เป็นเรื่องเร่งด่วนที่เราต้องรีบกำจัดปัญหาความยากจน รวมถึงความอดอยากหิวโ หยให้หมดไปจากแอฟริกาอย่างเร็วที่สุด ถ้าเราทำได้ จะเป็นผลดีต่อการพัฒนาโลก และนำมาซึ่งสิ่งดีๆให้กับสังคม"

อนึ่ง ช่วงเช้าของวันนี้ พระสันตะปาปา ได้เสด็จไปถวายมิสซาที่อาสนวิหารในเขตอัลบิโน่ พร้อมกับเสกพระแท่นใหม่ด้วย สำหรับ บทเทศน์ของมิสซาดังกล่าว พระสันตะบิดรผู้ศักดิ์สิทธิ์ ทรงให้ข้อคิดว่า พระแท่นถวายบูชามิสซาคือรอยต่อระหว่างสวรรค์กับโลก นี่คือสถานที่ซึ่งพระเยซูคริสตเจ้า ทรงประทับอยู่กับเราในพิธีมิสซา

ที่มา: http://www.asianews.it/index.php?l=en&art=13278&theme=2&size=A
http://www.radiovaticana.org/en1/Articolo.asp?c=232434