พระสันตะปาปาเยือนปอมเปอีพร้อมถวายงานแพร่ธรรมไว้กับแม่พระ / 21 ตุลาคม 2008 --------------------------------------------------------------------------------
สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขสูงสุดแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรงเดินทางอภิบาลคริสตังเมืองปอมเอี พร้อมถวายงานแพร่ธรรมของพระศาสนจักรไว้ในความอารักขาของแม่พระ นอกจากนี้ ทรงแบ่งปันชีวิตของ "บุญราศีบาร์โตโล ลองโก้" และ "พ่อแม่ของนักบุญเทเรซาแห่งลีซีเออร์" ให้สัตบุรุษรับฟังด้วย
เมื่อช่วงสายวันอาทิตย์ที่ 19 ตุลาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุของค์ที่ 265 แห่งพระศาสนจักรค
าทอลิก ได้ประทับเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งออกจากวาติกัน มุ่งหน้าไปยังเมืองปอมเปอี แคว้นคัมปาเนีย ทางตอนใต้ของประเทศ
อิตาลี เพื่ออภิบาลกลุ่มคริสตชนที่นั่น รวมทั้งเป็นประธานในพิธีมิสซาซึ่งจัดขึ้น ณ ลานหน้าสักการสถานแม่พระแห่งลูกประคำ ท่ามกลางสัตบุรุษประมาณ 50,000 คน
ทันทีที่ พระสันตะปาปา เสด็จมาถึง พระองค์ได้เข้าไปในสักการสถานเพื่อสวดภาวนาหน้าหลุมศพของ บุญราศี บาร์โตโล ลองโ
ก้ ผู้ฟื้นฟูปอมเปอีให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง โดยเมืองนี้ เคยถูกภูเขาไฟวิซุเวียส ถล่มย่อยยับเมื่อ ค.ศ.79 และหลังจากนั้นอีก
1,796 ปี (ค.ศ.1872) บุญราศีลองโก้ ผู้มีอาชีพทนายความและยังเป็นฆราวาสคณะโดมินิกัน ได้เข้ามาบูรณะให้กลับมาสดใส พร้อมทั้งสร้างโบสถ์ถวายให้กับแม่พระแห่งลูกประคำอีกด้วย
พระสันตะปาปา ทรงแบ่งปันชีวิต บุญราศีลองโก้ ว่า "ขณะที่ บาร์โตโล ลองโก้ กำลังศึกษาที่มหาวิทยาลัยในเมืองนาโปลี ท่านคุ้มคลั่งแนวคิดปรัชญาบางอย่าง ถึงขั้นถอยห่างออกจากความเชื่อคริสตศาสนา แล้วหันไปนับถือโชคลางข
องขลัง นอกจากนี้ ลองโก้ยังกลายเป็นพวกต่อต้านสงฆ์ของพระคริสต์อีกด้วย แต่แล้ววันหนึ่ง ลองโก้ ได้กลับใจ เพราะท่านได้ประสบกับพระพักตร์แท้จริงของพระเจ้า"
"จะว่าไปแล้ว ปีนี้ เป็นปีแห่งนักบุญเปาโล ดังนั้น พ่อจึงภูมิใจที่จะขอเปรียบเทียบ บุญราศีบาร์โตโล ลองโก้ กับ นักบุญเปาโล ผู้เคยเบียดเบียนคริสตชน แต่ต่อมาได้กลับใจเป็นอัครสาวกของพระเยซูคริสต์ บุญราศี ลองโก้ ก็กลั
บใจและอุทิศตนให้กับแม่พระ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อุทิศตนให้กับการสวดสายประคำ สิ่งนี้ ทำให้ท่านได้ค้นพบพระธรรมล้ำลึกแห่งพระวาจาของพระเจ้า การกลับใจของท่านบุญราศี ยังแสดงให้เห็นถึงวิธีที่พระเจ้าทรงเปลี่ยนแปล
งโลก พระองค์ทรงเติมความรักลงไปในหัวใจของมนุษย์ พร้อมทั้งติดเครื่องยนต์แห่งความดีด้วยหลักศาสนาให้กับเราทุกคน"
ความพิเศษของมิสซานี้ นอกจากจะถวายแด่แม่พระแล้ว พระศาสนจักรยังกำหนดให้เป็นวันแพร่ธรรมสากล พระสันตะปาปาจึงตรัสถึงประเด็นดังกล่าวว่า "การเดินทางมาในครั้งนี้ เกิดขึ้นตรงกับวันแพร่ธรรมสากล ดังนั้น อาศัยคำเสนอวิงวอนต่
อแม่พระ ผู้รับเสด็จพระวจนาตถ์และให้บังเกิดพระองค์ เราจึงภาวนาในมิสซานี้ เพื่อทุกคนในพระศาสนจักร ที่กำลังทุ่มเทแรงกายและแรงใจให้กับพันธกิจการประกาศพระวรสารสู่ชนทุกชาติทุกภาษา เหนือสิ่งอื่นใด พ่อขอภาวน
าให้มนุษย์ทุกคน เปิดใจต้อนรับความจริงแห่งพระวรสาร เปิดใจต้อนรับพระธรรมล้ำลึกของพระเจ้า และเปิดใจต้อนรับพระวาจาแห่งความรอดด้วยเทอญ" พระสันตะปาปา ตรัสปิดท้าย
หลังจากพิธีมิสซาจบลง พระสันตะปาปาทรงถวาย "กุหลาบทอง" แด่แม่พระ ก่อนจะตรัสแบ่งปันแบบอย่างอันดีงามของบิดาม
ารดาของนักบุญเทเรซาแห่งลีซีเออร์ ให้สัตบุรุษฟัง เนื่องในโอกาสที่วันนี้ (19 ตุลาคม) พระศาสนจักรประกาศสถาปนาทั้งสองเป็นบุญราศี "วันนี้ พระศาสนจักรมีบุญราศีใหม่เพิ่มขึ้นอีก 2 องค์ นั่นคือ บุญราศีหลุยส์ มาร์กแต็ง และ บุญราศีเซเ
ลีย-มารี กัวแร็ง ทั้งสองเป็นแบบอย่างที่ดีในการปลูกฝังความเชื่อให้กับลูกๆ ได้รู้จักรับผิดชอบต่อหน้าที่ทางโลกและทางพระเจ้า พ่อจึงเชิญชวนผู้ปกครองทุกคน ได้เลียนแบบแนวทางการอบรมบุตรหลานจากท่านทั้งสอง เพื่อที่
จะได้เข้าใจแก่นแท้ของงานแพร่ธรรมภายในครอบครัว"
จากนั้น พระสันตะปาปา ทรงนำทุกคน สวดภาวนาเทวทูตถือสารเป็นการปิดท้ายพิธีในช่วงเช้า ส่วนตอนเที่ยง พระองค์ได้เสวยอ
าหารเที่ยงร่วมกับบรรดาพระสังฆราชแคว้นคัมปาเนีย หนึ่งในนั้นมี พระคาร์ดินัล เครสเซนซิโอ เซเป้ ประมุขอัครสังฆมณฑลนาโปลี และยังเป็นผู้ที่เคยเดินทางมาเยือนประเทศไทย รวมอยู่ด้วย ส่วนช่วงบ่าย พระสันตะปาปา ได้นำสัตบุรุษสวดสายประคำ จ
ากนั้น พระองค์จึงประทับเฮลิตอปเตอร์พระที่นั่ง เสด็จกลับวาติกันโดยสวัสดิภาพ
|