พระสันตะปาปาเปิดประชุมสมัชชาสภาพระสังฆราชคาทอลิกแล้ว / 6 ตุลาคม 2008
--------------------------------------------------------------------------------
สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขสูงสุดแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรงเปิดการประชุมสมัชชาพระสังฆราชคาทอลิก เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยทรงให้ข้อคิดระหว่างบทเทศน์มิสซาเปิด
วัฒนธรรมสมัยใหม่ ทำลายชาติที่มีประวัติศาสตร์ล้ำค่าทางศาสนา ให้สูญเสียเอกลักษณ์ไปจนหมดสิ้น เช่นเดียวกับ ทำให้มนุษย์คิดว่าพระเจ้าไม่มีจริงอีกด้วย
เมื่อช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุของค์ที่ 265 แห่งพระศาสนจักรคา
ทอลิก ทรงเป็นประธานในพิธีมิสซาเปิดการประชุมสมัชชาพระสังฆราชคาทอลิก ครั้งที่ 12 โดยพิธีนี้ จัดขึ้นภายในมหาวิหารนักบุญเปาโล นอกกำแพงกรุงโรม ท่ามกลางผู้ร่วมพิธีจำนวนมาก ตามปกติแล้ว มิสซาเปิดการประชุมสมัชชาพระสังฆราชคาทอ
ลิก จะจัดในมหาวิหารนักบุญเปโตร แต่ปีนี้ พระศาสนจักรกำหนดให้เป็น "ปีแห่งนักบุญเปาโล" ดังนั้น พระสันตะปาปาจึงมีพระดำริให้ย้ายมาประกอบพิธีที่นี่แทน
ในส่วนของบทเทศน์ประจำมิสซา พระสันตะปาปาสุดยอดนักเทวศาสตร์ ทรงแบ่งปันพระวรสารวันอาทิตย์ที่ 27 ในเทศกาลธรรมดา พระเยซูทรงเล่านิทานอุปมาเรื่องคนเช่าสวนชั่วร้าย ซึ่งทุบตีคนใช้และบุตรเจ้าของสวนองุ่นจนถึงแก่ความตาย "พระวรสารตอนนี้ สามารถประยุกต์เข้ากับแนวคิดและการกระทำของเราได้เป็นอย่างดี เฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่ถูกส่งออกไปเพื่
อประกาศพระวรสาร ... ถ้าเราหันมาดูยุคปัจจุบัน หลายๆชาติซึ่งครั้งหนึ่ง เคยมั่งคั่งทางความเชื่อและกระแสเรียก แต่ตอนนี้ กำลังสูญเสียเอกลักษณ์เหล่านั้นไป เนื่องจากอันตรายจากการทำลายล้างของวัฒนธรรมสมัยใหม่ สิ่งเ
หล่านี้ ทำให้ผู้คนจำนวนมาก เชื่อมั่นว่า พระเจ้าตายแล้ว พระเจ้าไม่มีจริง พวกเขายกตนขึ้นมาเป็นพระเจ้า และคิดว่า ตนกำหนดทุกสิ่งทุกอย่าง ตนเป็นเจ้าของโลกแต่เพียงผู้เดียว"
"เมื่อกำจัดพระเจ้าออกจากชีวิตไปแล้ว มนุษย์ก็เชื่อว่า ตนสามารถทำทุกอย่างได้ตามใจต้องการ การที่มนุษย์ปฏิเสธพระเจ้า นำมาซึ่งการแผ่ขยายอำนาจแบบจอมปลอม ความเห็นแก่ตัว ความอยุติธรรม ความหยาบกระด้าง แ
ละที่สุด ความรุนแรงทั้งมวล" พระสันตะปาปา วัย 81 ชันษา ตรัสอย่างจริงจัง
"พี่น้องที่รัก พระเยซูตรัสในพระวรสารบทนี้ว่า แม้คนเช่าสวนองุ่นจะเลวร้ายขนาดไหน แต่สวนองุ่นก็จะไม่ถูกทำลาย เจ้าของจะยกสวนให้กับคนที่สามารถทำประโยชน์ได้มากกว่า ทีนี้ มาพิจารณาโลกเราบ้าง ถ้าประเทศไหน คว
ามเชื่อความศรัทธาอ่อนแอลงเรื่อยๆ หรือหายสาบสูญไป พระเจ้าก็จะไม่ลงโทษประเทศนั้น พระองค์จะมอบสิ่งนี้ (ความเชื่อความศรัทธา) ให้กับชนชาติที่พร้อมต้อนรับพระองค์แทน" พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ตรัสสรุป
หลังจากพิธีมิสซาจบลง พระสันตะปาปาได้เสด็จกลับวาติกัน เพื่อนำสัตบุรุษกว่า 25,000 คน สวดเทวทูตถือสาร โดยก่อนภาวนา พระองค์ทรงเชิญชวนทุกคน สวดภาวนาเป็นพิเศษสำหรับการประชุมสมัชชาพระสังฆราชคาทอลิก ซึ่งมีขึ้นภายใต้หัวข้อ "พระ
วาจาของพระเจ้าในชีวิต และพันธกิจของพระศาสนจักร" ให้ประสบความสำเร็จและบรรลุวัตถุประสงค์ด้วยดี
|