"บทความจาก CATHOLIC WORLD TOUR" / เรียบเรียง โดย...แผนกเทคโนโลยีสารสนเทศ  อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

พระสันตะปาปาบอกชีวิตนิรันดรคือความจริงมิใช่อภินิหารแต่อย่างใด  / 3 พฤศจิกายน 2008
--------------------------------------------------------------------------------
สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขสูงสุดแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรงย้ำ ชีวิตนิรันดรในพระเจ้าคือสัจธรรมความจริง มิใช่ เรื่องอภินิหารเหนือธรรมชาติ พร้อมกันนี้ ทรงเชิญชวนทุกคน สวดภาวนาเพื่อวิญญาณไฟชำระทุกดวง เพื่อพวกเขาจะได้รับชีวิตนิรันดรในพระอาณาจักรของพระเจ้า
 

เมื่อช่วงเที่ยงวันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุของค์ที่ 265 แห่งพระศาสนจักร คาทอลิก ทรงเป็นประธานในการนำสัตบุรุษกว่า 40,000 คน สวดภาวนาเทวทูตถือสาร ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน โดยวันนี้พระสันตะบิดรผู้ศักดิ์สิทธิ์ทรงขอร้องสัตบุรุษ ประกาศให้โลกเข้าใจเรื่องชีวิตนิรันดรให้ถูกต้อง อย่ามองเรื่องดังกล่าว เป็นอภินิหารหลังความตายเป็นอันขาด

พระสันตะปาปา ตรัสว่า "พ่อขอให้คริสตชนทุกคน ประกาศสัจธรรมความจริงแห่งความตายและสัจธรรมความจริงแห่ง ชีวิตนิรันดร ให้โลกเข้าใจอย่างถูกต้อง ความจริงเรื่องนี้ บ่อยครั้ง ถูกบิดเบือนให้กลายเป็นเรื่องความเชื่ออภินิหารเหนือธรรมชาติ สัจธรรมความจริงแห่งคริสตศาสนา ต้องไม่ถูกนำไปเหมารวมกับเรื่องแบบนี้เด็ดขาด เพื่อให้ทุกคนเ ข้าใจประเด็นนี้ พ่อขอหยิบยกบทจดหมายนักบุญเปาโลถึงชาวเธสะโลนิกา ฉบับที่ 1 มาอธิบายว่า "พระเยซูทรงสิ้นพระชนม์และกลับคืนชีพ เราจึงเชื่อว่า พระเจ้าจะนำบรรดาผู้ล่วงลับไปแล้ว ให้มาอยู่กับพระองค์ โดยผ่านทางพระเย ซูคริสตเจ้า (1 เธสะโลนิกา 4:13-14)" ดังนั้น มันเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะเราคริสตชนดำเนินชีวิตในความสัมพันธ์กับความเชื่อ เรามองความตาย เป็นหนทางเข้าสู่ชีวิตนิรันดร"

"หากยังจำกันได้ ในสมณสาส์น "เพราะเราได้รอดพ้นด้วยความหวัง" พ่อเคยตั้งคำถามว่า "ความเชื่อของคริสตชนในยุคปัจจุบัน ยั งเป็นความหวัง ซึ่งสามารถแปรเปลี่ยนชีวิต หรือไม่" และ "คนในยุคนี้ ยังคงปรารถนาชีวิตนิรันดร อยู่หรือเปล่า" เมื่อเป็นเช่นนี้ พ่อ อยากเตือนใจเราทุกคน ฟื้นฟูการมีความหวังในชีวิตนิรันดร สิ่งนี้(ชีวิตนิรันดร) พบได้ในการสิ้นพระชนม์และกลับคืนชีพของพระคริสตเจ้า พระองค์ตรัสกับเราว่า เราได้กลับเป็นขึ้นมา และเราจะอยู่กับท่านเสมอไปจนสิ้นพิภพ"

"กระนั้น ความหวังตามแบบฉบับคริสตชน ต้องไม่ใช่การมีความหวังเพื่อตนเพียงผู้เดียว เราต้องมีความหวังเพื่อผู้อื่นด้วย เพราะก ารดำเนินชีวิตของเรา มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิตของคนอื่น ไม่ว่าเราจะทำดีหรือร้าย มันส่งผลต่อเพื่อนพี่น้องทุกคน ดังนั้น วันนี้ พระศาสนจักรกำหนดให้เป็นวันระลึกถึงวิญญาณผู้ล่วงลับ พ่อขอเชิญชวนทุกคน ไปสวดภาวนาหน้าหลุมศพญาติพี่น้อง เราจะไปสวดให้วิญญาณทุกดวง ได้รับการชำระให้บริสุทธิ์ เพื่อจะได้รับชีวิตนิรันดร" พระสันตะปาปา ตรัสปิดท้าย

อนึ่ง หลังการสวดเทวทูตถือสารจบลง พระสันตะปาปา ทรงแจ้งให้สัตบุรุษทราบว่า เวลา 18.45 น. (ตรงกับ 03.45 น.ของเช้าวันจันทร์ที่ 3 พฤศจิกายน ตามเวลาในประเทศไทย) พระองค์จะเสด็จไปภาวนาหน้าหลุมศพบรรดาพระสันตะปาปาผู้ล่วงลับ ซึ่งถูกฝังไ ว้ใต้มหาวิหารนักบุญเปโตร ส่วนวันพรุ่งนี้ พระองค์จะเป็นประธานในพิธีมิสซาอุทิศแก่พระคาร์ดินัลและพระสังฆราชทุกองค์ ซึ่งเสีย ชีวิตในรอบปี 2007-2008 พิธีดังกล่าว จะมีขึ้นในมหาวิหารนักบุญเปโตร เวลา 11.30 น. (ตรงกับ 17.30 น. ตามเวลาในไทย)