พระสันตะปาปา ชี้การรำพึงและการแสวงหาความจริงคือหลักของการเรียนเทวศาสตร์ /26 พฤศจิกายน 2009 -------------------------------------------------------------------------------- สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก
ทรงแนะคริสตังให้รู้จักการรำพึงและการแสวงหาความเข้าใจอย่างถ่องแท้ เพราะนี่คือหลักสำคัญของการเรียนเทวศาสตร์ ยก พระตรีเอกภาพ เป็นแบบอย่างในการสร้างมิตรภาพอันดีงามในสังคม พร้อมขอร้อง "อย่ามีชีวิตเพื่อตัวเอง แต่จงมีชีวิตอยู่เพื่อผู้อื่น"
เมื่อช่วงสายวันพุธที่ 25 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ได้เสด็จออกมาพบปะสัตบุรุษกว่า 8,000 คน ระหว่างการเข้าเฝ้าทั่วไป ซึ่งจัดขึ้นภายในหอประชุมเปาโล ที่ 6 นครรัฐวาติกัน โดยใจความสำคัญของบทสอนประจำวันนี้
พระสันตะบิดรผู้ศักดิ์สิทธิ์ ทรงแนะนำว่า หลักสำคัญในการศึกษาเทวศาสตร์ อยู่ที่การรำพึงภาวนาและการแสวงหาความเข้าใจอย่างถ่องแท้ในสิ่งที่เรียน โดยพระองค์ทรงนำชีวประวัติของ "ฮูโก้แห่งอารามนักบุญบิคตอร์" มาประกอบการสอนให้ทุกคนเข้าใจได้ง่ายขึ้น
พระสันตะปาปา ตรัสว่า "ฮูโก้ เป็นนักเทวศาสตร์ในศตวรรษที่ 12 ฮูโก้เป็นอาจารย์อารามนักบุญบิคตอร์ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส และสอนอยู่ที่นั่นจนเสียชีวิตในค.ศ.1141
ฮูโก้มักจะสอนนักศึกษาด้วยการเน้นความสำคัญของพระคัมภีร์และประวัติศาสตร์ความรอดของมนุษยชาติ ท่านเชื่อมั่นว่า พระคัมภีร์คือเทวศาสตร์ขั้นพื้นฐานที่รวมให้ความเชื่อและความเข้าใจในแผนการณ์ของพระเจ้าเข้าไว้ด้วยกัน"
"การแสวงหาความจริงนี้เองที่ทำให้ ฮูโก้ เป็นอาจารย์ที่มีความสามารถและมีความรู้แตกฉานมากกว่าอาจารย์คนอื่นๆในอาราม การแสวงหาความจริงของฮูโก้ทำด้วยการให้ความรักกับการศึกษาพระคัมภีร์อย่างจริงจัง
เพราะการอ่านพระคัมภีร์อย่างร้อนรนและสม่ำเสมอก็คือการรู้จักพระเจ้า นี่จึงเป็นแนวทางให้เราเข้าใจว่า การจะรู้จักพระเจ้าอย่างถ่องแท้นั้น ต้องเริ่มด้วยการอ่านพระคัมภีร์ เพราะนี่คือสิ่งพระองค์ตรัสกับเรา สอนเรา และยังเป็นการเผยแสดงพระองค์เองให้เรารู้ว่า พระคริสตเจ้าคือพระผู้ช่วยให้รอด"
"ฮูโก้ ยังมีศิษย์เอกอยู่หนึ่งคน นั่นคือ ริชาร์ด เขาคนนี้มาจากสกอตแลนด์ ริชาร์ดมาพำนักในอารามนักบุญบิคตอร์ ตั้งแต่ค.ศ.1162 จนสิ้นใจในค.ศ. 1173
ริชาร์ดได้รับความรู้มากมายจากฮูโก้ เขา(ริชาร์ด)เป็นคนที่รำพึงภาวนาและแสวงหาความจริงตลอดเวลา เวลาที่ริชาร์ดมีปัญหาในการทำความเข้าใจเทวศาสตร์ เขาจะไม่ตีความพระคัมภีร์ตามใจตนเอง แต่จะใช้เหตุผลเป็นหลักตัดสินใจ วิธีการเช่นนี้แหละ ที่สะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างความเชื่อกับเหตุผล แบบอย่างเช่นนี้ จึงเตือนใจเราว่า พื้นฐานของวิชาเทวศาสตร์อยู่ที่การรำพึงภาวนาด้วยความเชื่อในพระเจ้าและการแสวงหาสัจธรรมความจริงในพระองค์"
"นอกจากทั้งสองคนจะเป็นนักเทวศาสตร์ที่โดดเด่นในช่วงนั้นแล้ว
พวกเขายังสอนความเชื่อให้คริสตชนอื่นๆได้รับรู้ถึงความสำคัญของพระตรีเอกภาพ กล่าวคือ ในพระตรีเอกภาพ พระบิดาและพระบุตรได้มาพบและแลกเปลี่ยนความรัก ความชื่นชมยินดี และความดีงามแก่กัน แต่ก่อนที่จะเกิดสิ่งนี้ได้ จะต้องมีการประทับอยู่ของบุคคลที่สามซึ่งจะรวมทุกอย่างเข้าไว้ด้วยกัน นั่นคือ พระจิตเจ้า"
"ดังนั้น ความเข้าใจเรื่องพระตรีเอกภาพจึงควรเป็นแรงบันดาลใจให้มนุษย์ทุกวันนี้ ได้สร้างมิตรภาพร่วมกัน ลองคิดดูซิว่า
โลกจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีมากขึ้นแค่ไหน ถ้าครอบครัว ชุมชน และเขตวัด ปฏิสัมพันธ์กันมากขึ้น โดยยึดตามแบบอย่างของพระตรีเอกภาพ ฉะนั้น พ่อจึงขอให้เราตระหนักถึงเรื่องนี้ให้มากๆ จงเตือนตัวเองเสมอว่า เราต้องไม่มีชีวิตอยู่เพื่อตัวเอง แต่ต้องมีชีวิตอยู่เพื่อผู้อื่น" พระสันตะปาปา ตรัสในตอนท้าย |