ค้นหาข้อมูล :

พระสันตะปาปาขอจิตรกรประติมากรเป็นทูตสื่อความงามและความหวังแก่มนุษยชาติ /22 พฤศจิกายน 2009

--------------------------------------------------------------------------------
สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงขอร้องบรรดาจิตรกรและประติมากร ให้เป็นผู้รักษาความงดงาม เช่นเดียวกับ เป็นผู้นำสารแห่งความหวังไปมอบแก่มนุษยชาติผ่านทางผลงานที่สร้างไว้ ทรงยืนยัน ศิลปะสามารถรวมคนทุกรุ่นให้เป็นหนึ่งเดียวกันได้ ตอนท้าย ทรงย้ำ ความเชื่อในพระเจ้าจะยกระดับและหล่อหลอมพระพรในตัวศิลปิน ให้รังสรรค์ผลงานระดับมาสเตอร์พีซอย่างแน่นอน
 
เมื่อช่วงสายวันเสาร์ที่ 21 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ได้เสด็จออกมาพบปะจิตรกรและประติมากร 262 คนจากทั่วโลกที่เดินทางมาเข้าเฝ้า ภายในวัดน้อยซิสติน นครรัฐวาติกัน การเข้าเฝ้าในครั้งนี้ มีสมณสภาเพื่อวัฒนธรรมเป็นเจ้าภาพจัดงาน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมฉลองการครบรอบ 10 ปีที่ สมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2 ทรงออกจดหมายถึงจิตรกรและประติมากรทุกคน นอกจากนี้ ยังครบ 45 ปีที่ "โป๊ปผู้รักศิลปะ" สมเด็จพระสันตะปาปา เปาโล ที่ 6 ทรงอนุญาตให้จิตรกรและประติมากรได้เข้าเฝ้าพระองค์อีกด้วย ในส่วนพระดำรัสที่พระสันตะปาปาองค์ปัจจุบันกล่าวกับเหล่าศิลปิน พระองค์ทรงเรียกร้องพวกเขาให้สร้างสรรค์ผลงาน ประดุจทูตแห่งความงดงามและผู้มอบความหวังในการดำเนินชีวิตแก่เพื่อนมนุษย์

พระสันตะปาปา เริ่มต้นตรัสว่า "พ่อขอต้อนรับพวกท่านเข้าสู่สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ (วัดน้อยซิสติน) ซึ่งประดับไปด้วยศิลปะล้ำค่าทางประวัติศาสตร์ พ่อขอส่งคำทักทายไปยังพวกท่านทุกคน และขอขอบใจที่ท่านตอบรับคำเชิญของพ่อด้วยความสมัครใจ .... พ่อขอกล่าวคำพูดง่ายแก่พวกท่าน นั่นคือ บรรดาจิตรกรและประติมากรคือคนที่เปี่ยมด้วยวิสัยทัศน์และความชำนาญ พวกท่านมีความสามารถอันโดดเด่นในการใช้กระแสเรียกที่ได้รับ เพื่อส่งเสริมและสร้างสรรค์ความงดงามให้กับโลก สิ่งที่ท่านทำอยู่นั้น จัดเป็นพระพรล้ำค่าจากพระเจ้าอย่างแท้จริง"

"มนุษยชาติต้องขอบคุณจิตรกรและประติมากรทุกคนที่ได้นำพระพรและพรสวรรค์ที่พระเจ้าให้ไว้ ออกมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด พวกท่านมีโอกาสอันดีที่จะใช้ผลงานของตนพูดคุย, สัมผัส, สร้างความฝัน, สร้างความหวังแก่หัวใจและความรู้สึกของมวลมนุษยชาติ พ่อจึงขออยากขอร้องพวกท่านให้ตระหนักถึงพระพรที่ได้รับ และก็ขอเรียกร้องให้ท่านใช้พระพรนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อไป ทั้งนี้ เพื่อถ่ายทอดสารแห่งความงดงามและความหวังให้กับโลก"

"โลกต้องการความงดงามประหนึ่งบ่อเกิดของแรงบันดาลใจ ความสุข และความเป็นเอกภาพ ความงามเปรียบได้กับความจริง ซึ่งนำความชื่นชมยินดีมาสู่จิตใจของเรา นอกจากนี้ ศิลปะต่างๆยังสามารถรวมคนทุกรุ่นให้เป็นหนึ่งเดียวกันได้ ในโอกาสอันดีที่เรามารวมตัวในวัดน้อยซิสติน พ่ออยากกล่าวกับท่านว่า จงอย่ากลัวที่จะเป็นคนแรกและเป็นคนสุดท้ายที่จะมอบความงดงามให้กับโลก จงกล้าที่จะสานเสวนาระหว่างความเชื่อกับโลกศิลปะ จงพูดคุยกับพวกเขาเสมือนว่าพวกเขาคือผู้จาริกแสวงบุญในโลก ซึ่งกำลังเดินทางไปสู่ความงดงามอย่างประเมินค่าไม่ได้ในพระอาณาจักรของพระเจ้า"

จากนั้น ผู้นำชาวคาทอลิกทั่วโลก ยังย้ำต่อว่า ความเชื่อกับศิลปะไม่ใช่เรื่องสวนทางกัน ตรงกันข้าม ความเชื่อจะหล่อหลอมให้ศิลปินผลิตผลงานล้ำค่าออกมาได้ด้วยซ้ำไป "พวกท่านต้องไม่มองว่าความเชื่อในพระเจ้าคือจุดอ่อนในการสร้างสรรค์ผลงาน เพราะในความเป็นจริง ความเชื่อจะช่วยยกระดับและหล่อหลอมพระพรที่ท่านได้รับให้เกิดผลสูงสุด"

"สุดท้ายนี้ พ่อขอส่งความปรารถนาดีไปยังพวกท่านทุกคน ขอให้ถ่ายทอดวิสัยทัศน์ในสายตาของท่าน ถ่ายทอดผลงานในมือและจิตใจของท่านไปสู่มนุษย์ทุกคน ขอให้ท่านใช้พระพรนี้ในการนำความชื่นชมยินดีและสร้างแรงบันดาลใจอย่างไม่หยุดยั้งให้กับโลก" พระสันตะปาปา ตรัสส่งท้าย

อนึ่ง หลังการเข้าเฝ้าพระสันตะปาปาจบลง บรรดาจิตรกรและประติมากรจะเข้าชมผลงานในพิพิธภัณฑ์วาติกัน พร้อมรับของที่ระลึก ซึ่งได้แก่ เหรียญเงินรูปสมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16