ค้นหาข้อมูล :

พระสันตะปาปาชี้เราสัมผัสพระเจ้าได้โดยผ่านสถาปัตยกรรมโรมาเนสก์และโกธิค  /19 พฤศจิกายน 2009

--------------------------------------------------------------------------------
สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงชี้ ความงดงามของสถาปัตยกรรมโรมาเนสก์และโกธิค มีส่วนช่วยเราให้เข้าถึงและรำพึงธรรมล้ำลึกของพระเจ้า พร้อมกันนี้ ทรงเรียกร้องทุกคน เคารพความศักดิ์สิทธิ์ในตัวเด็ก เนื่องในวันภาวนาและสร้างสรรค์สิ่งดีสำหรับเด็ก ซึ่งองค์การสหประชาชาติกำหนดให้ตรงกับวันที่ 20 พฤศจิกายนของทุกปี

เมื่อช่วงสายวันพุธที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ได้เสด็จออกมาพบปะสัตบุรุษกว่า 8,000 คน ระหว่างการเข้าเฝ้าทั่วไป ซึ่งจัดขึ้นภายในหอประชุมเปาโล ที่ 6 นครรัฐวาติกัน โดยใจความสำคัญของบทสอนประจำวันนี้ พระสันตะบิดรผู้ศักดิ์สิทธิ์ ทรงแบ่งปันความหมายของศิลปะศักดิ์สิทธิ์ เฉกเช่น สถาปัตยกรรมโรมาเนสก์ (Romanesque) และสถาปัตยกรรมโกธิค (Gothic) พร้อมชี้ให้เห็นว่า รูปแบบอันงดงามของศิลปะแบบนี้ แสดงให้เห็นถึงความเชื่อที่คริสตชนยุคกลางมอบให้พระเจ้า เช่นเดียวกับสดุดีพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์

พระสันตะปาปา ตรัสว่า "ความเชื่อทางคริสตศาสนา มีรากฐานอันเข้มแข็งจากสัตบุรุษชายหญิงในยุคกลาง พวกเขาไม่เพียงยกระดับงานเขียนเทวศาสตร์ให้เป็นระดับมาสเตอร์พีซเท่านั้น แต่ยังสร้างแรงบันดาลใจชั้นยอดให้กับงานศิลปะอีกด้วย ตัวอย่างที่ชัดเจนก็คือ การสร้างและออกแบบอาสนวิหารที่สวยงาม สาเหตุที่คริสตชนยุคกลางมีแรงขับเคลื่อนในการผลิตผลงานดีๆให้กับพระศาสนจักร ก็เพราะสภาพประวัติศาสตร์ช่วงนั้น เอื้ออำนวยเป็นอย่างมาก อาทิ ยุโรปมีเสถียรภาพมั่นคงทางการเมือง และมีความมั่งคั่งจากการค้าและความเป็นอยู่ของประชากร"

"หนึ่งในผลงานที่แปลกใหม่ในช่วงนั้นก็คือโบสถ์ที่ถูกสร้างตามสถาปัตยกรรมโรมาเนสก์ ศิลปะลักษณะนี้จะถูกถ่ายทอดออกมาทางรูปปั้น อาทิ รูปพระคริสตเจ้าทรงเป็นผู้พิพากษาโลก หากจะกล่าวแบบรวมๆ ประตูของโบสถ์ที่เป็นสถาปัตยกรรมโรมาเนสก์ จะเน้นที่ความแข็งแรงทนทาน เพื่อสื่อถึงพระคริสตเจ้า ผู้ทรงเป็นประตูที่นำเราทุกคนเข้าสู่สวรรค์"

"ส่วนสถาปัตยกรรมโกธิค ได้รับวิวัฒนาการมาจากสถาปัตยกรรมโรมาเนสก์ ลักษณะเด่นของสถาปัตยกรรมแบบนี้ก็คือทุกอย่างจะดูเพรียวลม หลังคาโบสถ์จะดูโค้งแหลม ซึ่งต่างจากโรมาเนสก์ ที่จะดูหลังคาแข็งแรงทนทาน สถาปัตยกรรมโกธิคแสดงให้เห็นถึงการผสมผสานระหว่างความเชื่อกับศิลปะ และถูกถ่ายทอดออกมาเป็นความงดงาม กำแพงของอาสนวิหารแบบโกธิค จะได้รับการตกแต่งอย่างดี ส่วนกระจกของอาสนวิหารประเภทนี้ ก็จะเป็นกระจกสี สิ่งนี้(กระจกสี)สะท้อนให้เห็นถึงความงดงามแห่งพระสิริรุ่งโรจน์ของพระเจ้า"

พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ได้สรุปองค์ประกอบสำคัญของสถาปัตยกรรมโรมาเนสก์และสถาปัตยกรรมโกธิค เป็นการปิดท้ายว่า "แรงขับเคลื่อนของสถาปัตยกรรมโรมาเนสก์และสถาปัตยกรรมโกธิค เตือนใจเราว่า ความงดงามของผลงานเหล่านี้ ช่วยเราให้เข้าถึงธรรมล้ำลึกของพระเจ้าได้ง่ายขึ้น เวลาที่เราร่วมพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ เราจะเกิดความหลงใหลในศิลปะชั้นยอดที่คริสตชนยุคกลางได้รังสรรค์ไว้ให้ สิ่งนี้ จะช่วยเราให้ค้นพบแนวทางความรักที่พระองค์มอบให้เราอย่างแน่นอน"

หลังการเทศน์สอนจบลง พระสันตะปาปาทรงเรียกร้องให้นานาชาติ ช่วยกันเคารพความศักดิ์สิทธิ์ในตัวเด็กๆ เนื่องจากวันศุกร์ที่ 20 พฤศจิกายนนี้ องค์การสหประชาชาติกำหนดให้เป็น "วันภาวนาและสร้างสรรค์สิ่งดีสำหรับเด็ก" (Day of Prayer and Action for Children)

"พ่อขอส่งคำภาวนาไปยังเด็กๆทุกคนทั่วโลก เฉพาะอย่างยิ่ง เด็กที่อาศัยในสังคมที่ประสบความยากลำบาก ทั้งสงคราม การค้ามนุษย์ โรคระบาด และความอดอยาก ขณะเดียวกัน พ่อก็ขอเชิญชวนทุกชาติช่วยกันเคารพและปกป้องความศักดิ์สิทธิ์ในตัวเด็กๆ ให้ได้รับการตระหนักถึงคุณค่ายิ่งๆขึ้นไป" พระสันตะปาปา ตรัสปิดท้าย

General Audience

ภาพ : GETTY IMAGES, Reuters, Daylife, Catholic World Tour