ค้นหาข้อมูล :

พระสันตะปาปา ชี้พระศาสนจักรต้องเสวนากับคนต่างศาสนาและคนที่ไม่เชื่อพระเจ้า  /09 พฤศจิกายน 2009
--------------------------------------------------------------------------------
สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงย้ำ พระศาสนจักรต้องเปิดตัวเองเสวนากับคนต่างศาสนาและผู้ที่ไม่เชื่อพระเจ้า เพราะนี่เป็นหนึ่งในการแสดงความรักของพระเจ้าให้โลกที่ไม่รู้จักพระองค์ได้รับรู้ พร้อมกันนี้ ทรงแบ่งปัน การที่หญิงม่ายบริจาคเงินอันน้อยนิดที่มีอยู่ในพระวิหาร จัดเป็นการอุทิศตนอย่างยิ่งใหญ่ให้กับพระเจ้าและช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่ยากไร้ ช่วงเทวทูตถือสาร ทรงร่วมรำลึก 45 ปีที่ สมเด็จพระสันตะปาปา เปาโล ที่ 6 ประกาศให้แม่พระเป็นพระมารดาของพระศาสนจักรคาทอลิก

เมื่อช่วงสายวันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ได้เริ่มพันธกิจการเสด็จอภิบาลคริสตังสังฆมณฑลเบรสชา ประเทศอิตาลี ด้วยการเป็นประธานในพิธีมิสซาซึ่งจัด ณ จัตุรัสเปาโล ที่ 6 ท่ามกลางสัตบุรุษที่ร่วมพิธีกลางสายฝนกว่า 15,000 คน ในส่วนใจความสำคัญของบทเทศน์ พระสันตะบิดรผู้ศักดิ์สิทธิ์ทรงเน้นย้ำหน้าที่ของพระศาสนจักรตามแผนการไถ่กู้มวลมนุษยชาติ อาทิ การเสวนาศาสนสัมพันธ์และการเสวนากับโลกที่ไม่เชื่อพระเจ้า นอกจากนี้ พระองค์ยังเชิญชวนให้ดำเนินชีวิตตามหญิงม่ายที่บริจาคเงินทั้งหมดที่มีในการทำทาน เพราะนี่คือการแบ่งปันชีวิตให้กับผู้อื่นอย่างแท้จริง

พระวรสารประจำวันอาทิตย์ที่ 32 เทศกาลธรรมดา เป็นเรื่องที่หญิงม่ายยากจน นำเงินที่มีอยู่สำหรับเลี้ยงชีวิตมาทำทาน (มาร์โก 12:38-44) พระสันตะปาปาจึงเริ่มต้นบทเทศน์ ด้วยการแบ่งปันว่า "เหตุการณ์นี้ เกิดในพระวิหารกรุงเยรูซาเล็ม ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางศาสนาของอิสราเอล พระเยซูทรงอธิบายและแสดงให้เห็นว่า พระวิหารคือบ้านสำหรับการสวดภาวนา แต่ในเวลาเดียวกัน พระองค์ทรงปรารถนาจะชี้เครื่องหมายสำคัญให้ทุกคนรู้ถึง ธรรมล้ำลึกแห่งการสิ้นพระชนม์และการเสด็จกลับคืนชีพ ซึ่งพระองค์เองจะกลายเป็นพระวิหารแห่งใหม่ อันเป็นสถานที่ให้พระเจ้าและมนุษย์ได้มาพบกัน หรือจะกล่าวอีกความหมายก็คือ เป็นสถานที่ให้พระผู้สร้างกับสิ่งสร้างของพระองค์ ได้มาพบกัน"

"สำหรับเรื่องหญิงม่ายที่บริจาคเงินทั้งหมดที่ตัวเองมีอยู่ พระเยซูทรงต้องการจะสอนคริสตชนยุคนี้ว่า ลักษณะขั้นพื้นฐานของการเป็นศิลาทรงชีวิตที่ใช้สร้างพระวิหารใหม่นั้น เราต้องรู้จักอุทิศตัวเองทั้งครบให้กับพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์ พระศาสนจักรเป็นร่างกายและจิตวิญญาณที่จับต้องได้ พระศาสนจักรดำเนินชีวิตอยู่โดยอาศัยศีลมหาสนิท ซึ่งพระคริสตเจ้าทรงอุทิศพระองค์เองให้แก่เรา"

เมืองเบรสชา เป็นบ้านเกิดของ "โจวานนี่ บัตติสต้า มอนตินี่" หรือ "สมเด็จพระสันตะปาปา เปาโล ที่ 6" พระสันตะปาปาเบเนดิกต์จึงไม่ลืมจะกล่าวถึงคุณงามความดีที่ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก องค์ที่ 262 เคยมอบไว้ให้พระศาสนจักร อาทิ งานเสวนาศาสนสัมพันธ์และการเสวนากับคนที่ไม่เชื่อพระเจ้า

พระสันตะปาปาองค์ปัจจุบัน ตรัสว่า "พระสันตะปาปา เปาโล ที่ 6 ทรงให้ความสำคัญกับการ(ที่พระศาสนจักร)เปิดตัวเอง เพื่อเสวนากับมนุษยชาติ พระองค์ทรงให้ความสำคัญกับสิ่งนี้ ตั้งแต่วันที่ได้รับศีลบวชจนถึงวันที่ได้รับการอภิเษกเป็นพระสันตะปาปา พระองค์ทรงเชื่อมั่นว่า การที่คนทั่วไปได้พบกับพระศาสนจักร เขาก็จะได้พบกับพระคริสตเจ้า"

"พี่น้องที่รัก เฉพาะอย่างยิ่ง บรรดาพระสังฆราชและพระสงฆ์ พวกเราจะมองข้ามปัญหาของพระศาสนจักรได้อย่างไร (หมายถึงการเสวนากับคนต่างความเชื่อ) สิ่งนี้มีความสำคัญอย่างมากในแผนการไถ่กู้และในการสร้างสัมพันธ์กับโลก ในความเป็นจริงแล้ว การที่โลกพัฒนามากขึ้น รวมไปถึงกระแสโลกาภิวัฒน์ต่างๆ ได้ทำให้มนุษย์ลืมพระเจ้ามากขึ้นเรื่อยๆ พระสันตะปาปา เปาโล ที่ 6 จึงทรงเห็นว่า พระศาสนจักรยุคนี้ จึงต้องแสดงบทบาทมากกว่าที่ผ่านๆมา เราต้องเป็นแบบอย่างถึงความรัก ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สามารถแยกออกได้จากการติดตามพระคริสตเจ้า" พระสันตะปาปา ตรัสในช่วงท้าย

หลังพิธีมิสซาจบลง พระสันตะปาปาทรงนำสัตบุรุษสวดเทวทูตถือสาร โดยก่อนภาวนา พระองค์ทรงกล่าวถึงความรักที่ สมเด็จพระสันตะปาปา เปาโล ที่ 6 มีต่อแม่พระ เฉพาะอย่างยิ่งในสังคยานาวาติกัน ครั้งที่ 2 ซึ่งพระองค์ประกาศให้แม่พระเป็นพระมารดาของพระศาสนจักร "วันที่ 21 พฤศจิกายน ค.ศ.1964 วันนั้นเป็นการปิดการประชุมช่วงที่ 3 ในสังคยานาวาติกัน ครั้งที่ 2 สมเด็จพระสันตะปาปา เปาโล ที่ 6 ทรงประกาศธรรมนูญด้านพระธรรมกล่าวถึงพระศาสนจักร (Lumen Gentium) โดยทรงอุทิศเนื้อหาหนึ่งบทเต็มๆ (บทที่ 8) ให้กับแม่พระ พร้อมประกาศว่า แม่พระเป็นพระมารดาของพระศาสนจักร สิ่งนี้คือเครื่องยืนยันได้อย่างดีถึงการอุทิศตนต่อแม่พระผู้นำวิญญาณเราไปหาพระคริสตเจ้า ร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับพระบิดา และรับไฟความรักจากพระจิต"

Pastoral Visit to Brescia and Concesio

ภาพ : AP, GETTY IMAGES, Reuters, Daylife, Catholic World Tour