ช็อก !! ศาลยุโรปตัดสินไม้กางเขนเป็นสิ่งกีดกันเสรีภาพในห้องเรียน /04 พฤศจิกายน 2009
-------------------------------------------------------------------------------- ศาลยุโรปด้านสิทธิมนุษยชน ทำเรื่องสุดช็อก เมื่อตัดสินให้ไม้กางเขน
เป็นสิ่งทำลายเสรีภาพและเครื่องมือสร้างความรุนแรงทางศาสนาในห้องเรียนแห่งหนึ่งของอิตาลี ด้านวาติกันสุดอึ้ง พร้อมย้ำ น่าสลดใจมากที่คนพวกนี้ มองไม้กางเขนเป็นเครื่องมือสร้างความแตกแยกทางสังคม ส่วนบรรดาผู้นำทางการเมืองในอิตาลี ก็ประหลาดใจไม่แพ้กัน ย้ำชัด ไม้กางเขนเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินชีวิตของชาวอิตาเลี่ยน หาใช่ตัวปัญหาแต่อย่างใด เมื่อช่วงบ่ายวันอังคารที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สื่อมวลชนทั่วยุโรป พร้อมกันตีข่าวชวนเศร้าใจ เมื่อศาลยุโรปด้านสิทธิมนุษยชน (European Court of Human
Rights) มีคำสั่งตัดสินให้ โรงเรียนแห่งหนึ่งทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอิตาลี เป็นฝ่ายแพ้คดีต่อ "ซอยเล่ ลาอุตซี่" หญิงชาวฟินแลนด์ หลังจาก ลาอุตซี่ ฟ้องโรงเรียนแห่งนี้ ด้วยข้อหาติดไม้กางเขนไว้ในห้องเรียน ซึ่งทำให้ลูกๆ 2 คนของเธอ ต้องทนกับการถูกริดรอนเสรีภาพในการเรียนรู้และถูกคุกคามเสรีภาพในการดำเนินชีวิต
คดีดังกล่าว ใช้เวลาสู้กันในชั้นศาลนานถึง 8 ปีเต็มๆ ก่อนผลสุดท้าย คณะลูกขุน 7 คน จะตัดสินให้ ลาอุตซี่ เป็นฝ่ายชนะ ด้วยเหตุผลที่ว่า
"โรงเรียนต้องแสดงออกถึงความเป็นกลางทางสังคม การนำไม้กางเขนมาติดไว้ในห้องเรียน อาจส่งผลให้นักเรียนถูกชักจูงด้วยสภาพแวดล้อมทางศาสนา ทั้งยังเป็นการจำกัดสิทธิการเรียนรู้ การเลือกแนวทางในการดำเนินชีวิต และการแบ่งแยกทางสังคม" นอกจากจะชนะคดีแล้ว ลาอุตซี่ ยังจะได้เงินชดเชยอีก 5,000 ยูโร (ประมาณ 248,250 บาท) วาติกันอึ้ง หลังทราบผลการตัดสิน แต่ย้ำ ไม้กางเขนไม่ได้สร้างความแตกแยกทางสังคม
หลังข่าวการตัดสินคดีความถูกเผยแพร่ออกมา วาติกัน
ก็ได้ออกมาแสดงความผิดหวังทันที โดย "คุณพ่อเฟเดริโก้ ลอมบาร์ดี้" ผู้อำนวยการสื่อมวลชนวาติกัน ได้เป็นตัวแทนออกมาย้ำว่า ไม้กางเขนไม่ใช่เครื่องมือสร้างความแตกแยกและริดรอนเสรีภาพอย่างที่ถูกกล่าวหา
"ไม้กางเขนคือเครื่องหมายแสดงออกถึงความรัก ความเป็นหนึ่งเดียวกัน และความเมตตาที่พระเจ้ามอบให้มนุษยชาติ มันจึงเป็นเรื่องน่าสลดใจที่มีคำสั่งศาลว่า ไม้กางเขนเป็นเครื่องหมายของการแบ่งแยก การกีดกัน และการจำกัดเสรีภาพ ศาสนามีคุณค่าและมีความสำคัญอย่างมากต่อประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอิตาเลี่ยน
ศาสนามอบสิ่งดีงามให้กับตัวบุคคล ทั้งในด้านรูปแบบการดำเนินชีวิตและศีลธรรม มันจึงเป็นความผิดพลาดครั้งร้ายแรงที่มนุษย์ต้องการกำจัดศาสนาออกจากโลกการศึกษา" คุณพ่อลอมบาร์ดี้ กล่าวผ่านแถลงการณ์
บุคคลสำคัญทางการเมืองของอิตาลี ร่วมสลดใจต่อคำสั่งศาล
นอกจากวาติกันจะออกมาแถลงแสดงความสลดใจแล้ว "มารีอา เจลมินี่" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการของอิตาลี และ "จานนี่ อเลมานโน่" นายกเทศมนตรีกรุงโรม ก็แสดงความตกตะลึงกับคำตัดสินของศาลยุโรปเช่นกัน
ทั้งสองยืนยันว่า นี่เป็นการทำลายวัฒนธรรมของอิตาลีชัดๆ
มารีอา เจลมินี่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการของอิตาลี กล่าวว่า "ไม้กางเขนและศาสนาคริสต์เป็นเอกลักษณ์ของอิตาลี ดังนั้น ฉันตกใจมากเมื่อได้ทราบข่าวนี้ อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครจะมาพรากความเชื่อและความศรัทธาที่เรามีต่อไม้กางเขนไปได้อย่างแน่นอน"
จานนี่ อเลมานโน่ นายกเทศมนตรีกรุงโรม กล่าวว่า "ผมช็อกและอึ้งไปเลย ไม้กางเขนไม่เคยทำร้ายใคร ไม้กางเขนมีแต่สอนคนให้รักและอภัยกัน ผมไม่อยากเชื่อเลยว่า
จะมีคนมองไม้กางเขนเป็นเครื่องมือริดรอนเสรีภาพและสร้างความแตกแยกทางสังคม"
อนึ่ง อิตาลีไม่ใช่ประเทศแรกในยุโรปที่เจอเหตุการณ์ต่อต้านไม้กางเขน เพราะกลางปีที่แล้ว ศาลของเมืองบายาโดลิด ประเทศสเปน ได้สั่ง "ห้าม" โรงเรียนทุกแห่งในเมือง แขวนไม้กางเขนไว้ในห้องเรียน เนื่องจากเป็นการจำกัดเสรีภาพในการนับถือศาสนาของนักเรียน |